วธ.ส่งมอบนิทรรศการถาวร "หมูป่าติดถ้ำหลวง" จัดแสดงวัดพระธาตุดอยเวา เป็นพิพิธภัณฑ์เรียนรู้บทเรียน-ยกย่อง "ทีมช่วย 13 ชีวิต" รองโฆษกฯ เผยเด็กวางตัวดี ไม่เหลิงคิดว่าดัง ปีหน้ารู้ผล บริษัทต่างชาติได้สร้างหนัง

         เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่วัดพระธาตุดอยเวา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดนิทรรศการถาวร ปฏิบัติการถ้ำหลวง : วาระแห่งโลก พร้อมมอบเข็มที่ระลึก BRITISH CAVE RESCUE COUNCIL ที่ได้รับจากคณะกรรมการการกู้ภัยในถ้ำแห่งอังกฤษ (BCRC) สหราชอาณาจักรให้แก่ 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี โดยมี พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกรัฐบาล และโฆษกคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวง จ.เชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม เยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง และได้รับการต้อนรับจากชาวจังหวัดเชียงราย ท่ามกลางบรรยากาศแสนอบอุ่น ในการนี้ มีการเปิดป้ายพิพิธภัณฑ์หมูป่าครั้งแรก ก่อนจะเปิดให้ผู้สนใจทั้งชาวไทยและต่างประเทศเยี่ยมชมนิทรรศการที่มี 7 โซน
         นายวีระกล่าวว่า เหตุการณ์ช่วยเหลือ 13 ชีวิตทั้งเยาวชนและผู้ช่วยโค้ชทีมนักฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เป็นการบันทึกเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของโลก แสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงมีพระเมตตาและทรงห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว อีกทั้งเป็นการหลอมรวมความสมานสามัคคีและส่งกำลังใจจากคนทั้งโลกในภารกิจการช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง โดยมีการประสานงานระดับชาติในการระดมความร่วมมือกันวางแผนการดำเนินงานอย่างมีระบบตามมาตรฐานสากล  
         รมว.วัฒนธรรมกล่าวต่อว่า ภายหลังจากความสำเร็จของปฏิบัติการช่วยชีวิต 13 หมูป่าอะคาเดมี  กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) บูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงต่างๆ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวบรวมข้อมูลและภาพเหตุการณ์ เพื่อจัดนิทรรศการ “ปฏิบัติการถ้ำหลวง : วาระแห่งโลก” โดยได้ถอดบทเรียนในมิติวัฒนธรรมและวิถีชีวิตในสังคมไทย เพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชนได้เรียนรู้ในเรื่องความมีน้ำใจไมตรี วินัย จิตอาสาและความสามัคคี ตลอดจนการแสดงน้ำใจ ความห่วงใยและความช่วยเหลือจากคนทั่วโลก  
    นอกจากนี้ เป็นการเผยแพร่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ผ่านมาได้จัดแสดงนิทรรศการในส่วนกลางที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน และอิมแพ็ค เมืองทองธานี จากนั้นนำนิทรรศการไปจัดแสดงสัญจรในส่วนภูมิภาค ได้แก่ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซานครราชสีมา จ.นครราชสีมา และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลหาดใหญ่ จ.สงขลา โดยได้รับความสนใจจากคนทั้งประเทศ และท้ายที่สุดได้นำนิทรรศการมาติดตั้งจัดแสดงถาวรที่วัดพระธาตุดอยเวา อ.แม่สาย เพื่อเป็นสถานที่จารึกประวัติศาสตร์ เป็นแหล่งเรียนรู้ และเผยแพร่บทเรียนปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย ณ ถ้ำหลวง ไปสู่เด็ก เยาวชน คนไทยและชาวต่างชาติ 
        นายวีระกล่าวด้วยว่า นิทรรศการปฏิบัติการถ้ำหลวง : วาระแห่งโลก แบ่งการจัดแสดงเป็น 7 โซน ได้แก่ 1.“เมื่อ 13 ชีวิตคิดพิชิตถ้ำหลวง” เป็นการทำความรู้จักกับผู้ช่วยโค้ชและ 12 นักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี และวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน 2.“นาทีชีวิตวิกฤติเสี่ยงตาย” อธิบายถึงธรณีสัณฐานและลักษณะทางกายภาพของถ้ำหลวง และวิธีเอาตัวรอดจากถ้ำที่คดเคี้ยวและมืดมิด 3.“วิกฤติใหญ่รวมใจไทยเป็นหนึ่ง” ถ่ายทอดความร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่ายในการช่วยเหลือที่ต้องแข่งขันกับเวลาและเรียนรู้ความยากลำบากในช่วยเหลือ 13 ชีวิตหมูป่า
     4.“ปฏิบัติการถ้ำหลวงวาระแห่งโลก” นำเสนอเรื่องราวในมิตรภาพไร้พรมแดนของภารกิจปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่า 5.“คารวะผู้กล้า สดุดีจ่าแซม” ได้ซึมซับเรื่องราวของนาวาตรีสมาน กุนัน หรือจ่าแซม อดีตหน่วยซีล ผู้เสียสละชีวิตและทีมปฏิบัติการช่วยเหลือจากทั่วโลกที่ยอมเสียสละทั้งแรงกายและแรงใจ เพื่อให้ภารกิจสำเร็จตามเป้าหมาย 
    6.“บทเรียนที่โลกทึ่ง” เป็นการถอดบทเรียนความสำเร็จของปฏิบัติถ้ำหลวงที่เป็นต้นแบบของการกู้ภัยภายในถ้ำ ตั้งแต่การรับมือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โมเดลการกู้ภัย ภาวะผู้นำ การทำงานเป็นทีม การตัดสินใจในยามคับขันและความช่วยเหลือจากนานาประเทศ และ 7.“จารึกปฏิบัติการถ้ำหลวง” ประมวลเหตุการณ์ช่วยเหลือทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต แสดงถึงความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ของปฏิบัติการช่วยเหลือในแต่ละวัน ตลอดระยะเวลา 18 วัน
         ด้าน พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกรัฐบาล ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวง จ.เชียงราย กล่าวว่า หลังคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์เข้ามาดูแลชี้แนะเด็กๆ หมูป่าอะคาเดมี โดยเฉพาะการวางตัว ในฐานะที่เป็นผู้ที่ได้รับความสนใจจากเหตุการณ์ติดถ้ำและได้รับการช่วยเหลือ จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กเยาวชน และประพฤติปฏิบัติตนเหมาะสม เพราะเป็นที่จับตามอง โดยพบว่าทุกคนมีพัฒนาการ มีกรอบคิด และกรอบการประพฤติปฏิบัติ รู้จักบทบาทตนเองดีขึ้น แม้แต่ผู้ปกครองของเยาวชนทีมหมูป่าฯ เองก็เข้าใจมากขึ้น 
    "หลายคนป้องกันไม่ให้เด็กๆ คิดว่าตัวเองเป็นดารา เป็นฮีโร่หรือเซเลบ และเป็นที่น่ายินดีที่เด็กๆ ก็ได้แสดงจุดยืนของตัวเองว่า พวกเขาใช้ชีวิตเป็นปกติทั่วไป ไม่ใช่ดารามีชื่อเสียง ขณะเดียวกันเด็กๆ ก็รับรู้ถึงคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ แง่บวกก็ไม่เหลิง ส่วนแง่ลบทำให้ระมัดระวังตัวมากขึ้น ล่าสุดจากการเข้าพบหน่วยซีลทั้ง 13 ชีวิต ก็ได้ให้คำสัญญาว่าจะเป็นคนดีของสังคม และตอบแทนสังคมตามศักยภาพตัวเอง"
          พล.ท.วีรชนกล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าหลังจากคณะกรรมการฯ เปิดให้บริษัทต่างประเทศยื่นข้อเสนอจัดสร้างภาพยนตร์ กรณีการช่วย 13 ชีวิตหมูป่าติดถ้ำหลวง ล่าสุดได้ข้อสรุประดับหนึ่ง มี 2-3 บริษัทเข้าข่ายเกณฑ์ ที่รัฐบาลและคณะกรรมการฯ กำหนด โดยเน้นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี เผยแพร่ขนบธรรมเนียมประเพณี มีเนื้อหาสร้างสรรค์ไม่บิดเบือน และพิจารณาจากบริษัทที่น่าเชื่อถือได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาและพิจารณาข้อเสนอของบริษัทที่ผ่านเกณฑ์ คาดว่า ภายในต้นปี 2562 จะสามารถประกาศผลบริษัทที่มาจัดสร้างภาพยนตร์ได้  
    ส่วนการดูแลสิทธิประโยชน์ผู้ประสบภัยกรณีถ้ำหลวง จ.เชียงรายนั้น ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ดี เพราะเป็นเรื่องธุรกิจ และยังเปิดช่องให้เจรจา โดยคณะอนุกรรมการดูแลสิทธิประโยชน์ฯ ไม่ได้ดูแลเฉพาะสิทธิเด็ก แต่จะคำนึงถึงสิทธิของคนไทยและประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะเรื่องลิขสิทธิ์ จะพิจารณาว่าจะจำกัดส่วนใด แค่ไหนบ้าง อย่างน้อยรัฐบาลไทยจะสามารถนำเรื่องราวดีๆ ไปสร้างประโยชน์เผยแพร่ให้คนไทยรับรู้ด้วยตนเอง ไม่ใช่ถูกใช้สิทธิทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทุกกิจกรรมในต่างประเทศที่จะเชิญเด็กหมูป่าอะคาเดมีไปร่วมกิจกรรม ผู้ปกครองและโรงเรียนต้องเห็นชอบ เพื่อไม่ให้เสียการเรียนและส่งผลให้ผลการเรียนตกต่ำ.