22 ธ.ค. 61 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ กล่าวในการเดินสายพรรคเพื่อชาติสัญจร ภาคกลาง เป็นวันที่สอง ว่า ตนเดินทางไปในหลายพื้นที่ พูดคุยกับพี่น้อง ต่างคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันถึงความยากลำบาก ไม่มีใครได้ราคาพืชผลทางการเกษตรดี ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงอาชีพอื่นๆ โดยทั่ว ดังนั้นตอนปลายของรัฐบาลที่กำลังจะมีการคืนอำนาจนั้น จึงมีการออกนโยบายแจกเงิน 500 บาท อ้างว่าเหตุที่แจกเพราะประชาชนจะอดตาย คิดว่าเงิน 500 จะทำให้เราฟื้นกันได้ เราจะอยู่กันได้ตลอดชาติด้วยเงิน 500 หรือ

ด้วยปัญหารัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งครั้งนี้ เราจึงต้องแยกกันถึงจะชนะ แล้วจะเลือกกันอย่างไร ตนขอแนะว่า พี่น้องรักใครชอบใครก็เลือกพรรคนั้น ปลายทางฝ่ายประชาธิปไตยก็จะไปเทอยู่ด้วยกัน ฝ่ายเผด็จการก็จะไปเทรวมกัน ฝ่ายใดมากกว่าก็ได้จัดตั้งรัฐบาล ไม่มีอะไรยาก แต่ถ้าไปกั๊กกันไปกันมา ฮั้วกันไปฮั้วกันมา ก็แพ้กันหมดพอดี ดังนั้นเราคงต้องตัดสินใจกันอย่างเด็ดขาด มีคนถามว่า ทำไมตนจึงไม่เชียร์ทีมใหญ่ ถ้าทุกคนคิดกันแบบนั้น เราก็คงแพ้แน่นอน ตนจึงตั้งใจเชียร์ทีมเล็ก ช่วยกันเดี๋ยวมันก็กลายเป็นทีมใหญ่เอง

นายจตุพร กล่าวอีกว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คิดสั้นไปอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐก็เท่ากับว่า จะมีสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. 250 ที่อยู่ในมือแล้วหา สส.อีก 126 คน ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่วิธีมันพิลึกพิลั่น มาด้วย 2 สภาแต่เวลาอยู่อยู่ด้วยสภาเดียวคือสภาผู้แทนราษฎร นั่นหมายความว่า ในสภาผู้แทนราษฎรต้องมีเสียงไม่น้อยกว่า 250 + 1 เช่นเดียวกันและถ้าจะตั้งรัฐบาลต้องมีเสียงในสภาไม่ต่ำกว่า 300 มิฉะนั้นจะเอา สส.มาเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ ยังไงก็อยู่ไม่ได้ ที่หนักกว่านั้นก็คือว่า พล.อ.ประยุทธ์ 5 ปีมานี้ไม่มีใครเถียงสักคนเดียวใน  สนช. แต่ในสภาผู้แทนราษฎรไม่มีมาตรา 44 แล้วเรียกไปปรับทัศนคติไม่ได้แล้ว การอภิปรายในสภาถ้าโมโหแบบนี้เข้าทาง สส.เลย นี่ขนาดจะไม่มีตนในสภานะ สภาผู้แทนราษฎรเป็นสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดสำหรับคนไม่มีความอดทน ถ้าตนเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่คิดเข้าสภาอย่างเด็ดขาด

นายจตุพร ยังกล่าวด้วยว่า วันนี้เราต้องการให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ สำคัญที่สุดคือคนไทยทุกคน ที่เราชวนคุยกันเพื่อให้บ้านเมืองมันเดินต่อไปได้ ตนอยากบอก พล.อ.ประยุทธ์ว่า ตกลงแบบนี้กันดีหรือไม่ ถ้าหลังเลือกตั้งแล้ว สว.อยู่เฉยๆ ก่อน ดูสภาผู้แทนราษฎรให้ สส.รวมกันให้เกิน 250 ก่อนให้วุฒิสภาโหวตตามสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง อันนี้บ้านเมืองถึงจะเดินต่อไปได้