'แหวกม่านสะท้านโซเชียล'


เพิ่มเพื่อน    

 

   หนีไปเที่ยว ไม่ต้องฟังเสียงสากๆ นักประชาธิปไตยเลือกตั้ง สบายหูมา ๒-๓ วัน

                กลับมา....

                "ตาแฉะ" แทน!

                ท่องโลกโซเชียล หวังปะติดปะต่อข่าวสารบ้านเมือง

                แต่กลับเจอแต่ข่าวปนคลิป-คลิปปนข่าว ว่อนไปหมด

                สื่อสารไอที มันสร้างมิตรและศัตรูถาวรให้มนุษย์ทุกคนแบบนี้แหละ และต้องสู้รบกันทุกวินาที

                ใครแพ้-ชนะตอบไม่ได้ เพราะมันคือ

                "เงา" ตัวเราเอง!

                ที่ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ "โบว์" แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โพสต์ fb เมื่อวาน (๒๑ ธ.ค.๖๑) ดูเหมือนยึดพื้นที่สื่อได้มากที่สุด

                จะเป็นเรื่องอะไร "ก็เป็นเรื่องของเธอ" แต่ด้วยความที่มีการนำเผยแพร่ต่อๆ กันมาก จึงต้องอ่านเป็นพิเศษ

                บอกตรงๆ......

                อ่านเที่ยวแรก จับความไม่ได้ว่าเธอสื่อถึงอะไร แต่ยอมรับ เธอเป็นผู้มีวรรณะทางภาษาศาสตร์สูง

                ตัวอักษรที่เธอร้อยเรียงแต่ละบรรทัด

                มันมีเสน่ห์ ซ่อนความหมายชวนค้นหา ถึงอ่านแล้วงงๆ ไม่เข้าใจว่า ที่เธอเขียนนั้น ต้องการบอกอะไร?

                แต่ด้วยภาษาที่ร้อยเรียง เหมือนฟังดนตรีคลาสสิกที่คีตกวีเอกแต่งท่วงทำนอง

                ดึงดูดให้ผมตั้งอก-ตั้งใจอ่านทีละวรรค-ทีละตอน เพราะเสน่ห์มันซ่อนอยู่ในทุกซอกอักษรที่เรียงจริงๆ

                ไม่เชื่อจะยกมาให้ดูแต่ละวรรคที่เธอโพสต์.........

                “จบตรงนี้นะคะ จะไม่ตอบสนองอะไรเพิ่มเติมต่ออาชญากรรมและความทุจริตครั้งนี้ พื้นที่สื่อควรมีไว้เพื่อประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ให้ทรราชใช้เป็นเครื่องมือในการเบี่ยงเบนความสนใจของสังคมไปจากสิ่งที่สำคัญ

                #เผด็จการจงพินาศ_ประชาธิปไตยจงเจริญ”

                เห็นมั้ย....

                แค่วลีแรก ก็จิกใจ พร้อมผูกเบ็ดล่อให้ตามฮุบเหยื่อด้วยคำ

                -อาชญากรรมและความทุจริต

                -ทรราช

                -เผด็จการจงพินาศ-ประชาธิปไตยจงเจริญ

                แล้วก็เดินประโยคต่อไปว่า.......

                “พี่น้องถามไถ่ด้วยความห่วงใย เราจะ 'ฟ้องมั้ย' กับ IO (information operation ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารที่ทหารใช้ในการสงคราม) ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้น

                โบว์มีประสบการณ์กับการดำเนินการทางกฎหมายกับสิ่งเหล่านี้มาแล้วถ้าจำกันได้ จึงได้รู้ว่าในบริบทที่เผด็จการพยายามจัดการกับผู้ต่อต้านอย่างเป็นระบบ กระบวนการยุติธรรมไม่ได้มีไว้เพื่อปกป้องคนอย่างพวกเรา

                แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นที่ต้องชี้ให้เห็นก็คือ เจตนาของผู้กระทำในการ 'เบี่ยงเบนความสนใจ' ของสังคมจากสิ่งที่เป็นประโยชน์สาธารณะ นั่นคือการส่องไฟไปที่การโกงเลือกตั้งทุกรูปแบบ และการสร้างสนามเลือกตั้งที่เสรีเป็นธรรม ซึ่งพวกเราทั้งหมดลงแรงทำอย่างแลกด้วยชีวิตและการถูกดำเนินคดีร้ายแรง

                ประชาธิปไตยมีค่านัก ฝ่ายที่ไม่ต้องการให้เราได้มาจึง 'ทำได้ทุกอย่าง' เพื่อการสืบทอดอำนาจ นี่คือสงคราม แต่สิ่งที่คุณได้มาในวันนี้ไม่ใช่เหยื่อเพราะ 'เราไม่เคยทำอะไรผิด' สิ่งที่คุณจะได้คือคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขึ้น

                ไม่ว่าใครจะมีจินตนาการอย่างไร พวกเราคือคนแบบที่พวกคุณไม่เคยรู้จัก แต่หวังว่าจะมีอยู่จริงเหมือนเทพนิยายที่ปลอบประโลมใจว่าความถูกต้องจะชนะทุกอย่างเสมอ เวลาจะพิสูจน์ว่าวิธีอันสกปรกจะไม่นำไปสู่ผลที่ดีงาม”

                อูยยยย....

                มันเพริศแพร้วแม้วตายอะไรอย่างนั้น เป็นการประพันธ์ความเหมือนนิยายพิศวาสฆาตกรรมครั้งสงครามโลก

                -เราจะฟ้องมั้ย

                -IO ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารที่ทหารใช้ในการสงคราม

                -บริบทที่เผด็จการพยายามจัดการกับผู้ต่อต้านอย่างเป็นระบบ

                -กระบวนการยุติธรรมไม่ได้มีไว้เพื่อปกป้องคนอย่างพวกเรา

                -สนามเลือกตั้งที่เสรีเป็นธรรม

                -นี่คือสงคราม

                -"เราไม่เคยทำอะไรผิด"

                ยิ่งความท่อนสุดท้ายของ น.ส.ณัฏฐา ว้าเหว่ เวิ้งว้างเหมือนบทเพลงที่ยังไม่จบของชูเบิร์ต

                "ไม่ว่าใครจะมีจินตนาการอย่างไร พวกเราคือคนแบบที่พวกคุณไม่เคยรู้จัก แต่หวังว่าจะมีอยู่จริง เหมือนเทพนิยายที่ปลอบประโลมใจว่า ความถูกต้องจะชนะทุกอย่างเสมอ เวลาจะพิสูจน์ว่าวิธีอันสกปรกจะไม่นำไปสู่ผลที่ดีงาม”

                อ่านแล้ว เหมือนน้ำแข็งสุมไฟ!

                ไฟนอกอาจมอด แต่ไฟที่ซ่อนอยู่ใน น้ำแข็งไหนจะซอนเข้าไปดับได้ล่ะ?

                นอกจากความงามภาษา ผมจับความไม่ได้ว่า เจตนาที่เธอสื่อไปถึง มันคืออะไร?

                เกี่ยวกับคลิปที่ว่อนเมืองตอนนี้ใช่หรือเปล่า?    

                แล้วมันไปเกี่ยวกับ IO ทหาร, สงคราม, อาชญากรรม, สนามเลือกตั้ง กระทั่งเผด็จการ-ประชาธิปไตย ได้อย่างไร?

                โดยเฉพาะที่คุณโบว์ว่า "เราไม่เคยทำผิดอะไร"

                ก็นั่นน่ะซี........

                ในเมื่อไม่เคยทำผิดอะไร แล้วคุณโบว์โพสต์ด้วยเนื้อหาเช่นนี้ เหตุมาจากอะไร และเธอต้องการสื่ออะไรต่อสังคม?

                ด้วยเสน่ห์ภาษาแท้ๆ ทำให้ต้องไปหาประวัติคุณโบว์มาอ่าน

                มติชน สุดสัปดาห์ เดือน ก.พ.๖๑ ตีพิมพ์คำสัมภาษณ์เธอไว้ว่า.........

                ชีวิตโบว์ก็เป็นผู้หญิงกรุงเทพฯ ธรรมดาคนหนึ่ง เกิดในครอบครัวชนชั้นกลางที่คุณพ่อคุณแม่เน้นเรื่องการศึกษา ก็เข้าเรียนที่อัสสัมชัญ (ประถม) ต่อด้วยสาธิตปทุมวัน (ม.ต้น) เตรียมอุดมศึกษา (ม.ปลาย)

                ศึกษาต่อที่อักษรศาสตร์ จุฬาฯ และทำงานเหมือนคนที่จบคณะนี้ เกี่ยวกับการต่างประเทศ การสื่อสาร งานประจำที่ทำนานหน่อยก็ที่บริติช เคาน์ซิล มีทำกิจการส่วนตัว แล้วออกมาเป็นรับจ้างอิสระ (Freelance) เน้นการสอน เช่น วิทยากรอิสระ พิธีกรและครูด้วย

                อ้อ...สิ้นสงสัยโดยพลัน!

                มิน่าล่ะ จบอักษรศาสตร์ จึงเป็น "นางภาษา" ได้เรี่ยมเร้ไรเรเยี่ยงนี้

                ก็ดีละ ผมขอร้องโดยพลันตรงนี้เลย ว่า

                เพื่อชนชั้นอักษรศาสตร์........

                ไหว้ละแม่คุณ ช่วยเปลี่ยนชื่อกลุ่มรับจ้างอิสระ จากคำว่า "อยากเลือกตั้ง"

                เป็น "ต้องการ" หรือ "ปรารถนา" แต่ถ้ายังสื่อไม่ถึงจุดเร้า จะใช้คำว่า "เร่าร้อน"

                เป็น เร่าร้อนเลือกตั้ง, ปรารถนาเลือกตั้ง, ต้องการเลือกตั้ง

                ยังไงๆ ก็ยังจะฟังสนิทหูกว่า คำว่า "อยาก" เลือกตั้ง

                จริงไหม...คุณโบว์?

                และนี่ "คนละเรื่องเดียวกัน" หรืออย่างไร คุณโบว์โพสต์ไม่นาน

                "คุณวัฒนา เมืองสุข" ก็โพสต์ fb ตามติด ว่า......

                "ความจริงผมตั้งใจจะไม่พูดเรื่องนี้ให้เป็นประเด็น เพราะจะเข้าทางคนที่ทำเรื่องสกปรกแบบนี้ขึ้น  เรื่องนี้คิดได้ไม่ยากว่าใครเป็นคนทำและทำด้วยเจตนาอะไร แต่สิ่งที่สังคมควรตั้งสติคือเราจะสนับสนุนเจตนาของผู้ทำหรือไม่

                ข่าวที่ปล่อยออกมาเป็นเรื่องของคนโสดสองคนที่ไม่ได้กระทำความผิดต่อใครและไม่ได้เป็นประเด็นสาธารณะ แต่คนที่เอาเรื่องแบบนี้มาทำลายต่างหากที่มีเจตนาทุจริต ใช้วิธีสกปรกเพื่อเบี่ยงเบนผู้คนออกจากประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจ เช่น การระดมทุนของพรรคการเมืองหนึ่งที่มีชื่อของส่วนราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือเรื่องนาฬิกาที่ไม่มีความคืบหน้า รวมถึงการโกงการเลือกตั้งด้วยวิธีต่างๆ อย่างเป็นระบบ สิ่งที่เกิดขึ้นคือการก่ออาชญากรรมที่เดาได้ไม่ยากว่าเป็นฝีมือของใคร

                เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมโดนวิธีที่สกปรกแบบนี้ ตั้งแต่ถูกทำร้าย ถูกนำตัวไปควบคุมเพื่อปรับทัศนคติ ถูกยัดข้อหาและถูกดำเนินคดีทั้งศาลทหารและศาลอาญานับสิบคดี ทั้งหมดเพื่อปิดปากและเพื่อให้ผมหยุดการต่อสู้แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ จึงต้องหันมาใช้วิธีที่สกปรกยิ่งกว่า

                ผมจึงขอประณามการกระทำดังกล่าวและจะไม่ตอบสนองต่อเจตนานั้น ขอสงวนพื้นที่สื่อไว้เพื่อปกป้องการสืบทอดอำนาจผ่านกลโกงการเลือกตั้ง ขอให้สังคมดำรงความมุ่งหมายที่จะนำพาประเทศออกจากร่มเงาของเผด็จการที่สร้างความเสียหายให้ประเทศทุกด้าน ส่วนตัวผมขอยืนยันว่าแม้จะโดนยัดข้อหาเพิ่มขึ้นหรือถูกใช้วิธีสกปรกแค่ไหนก็ตาม จุดยืนที่จะต่อสู้เพื่อนำอำนาจคืนให้กับประชาชนจะไม่เปลี่ยนแปลง อย่างเดียวที่จะหยุดผมได้คือผมไม่มีชีวิต ถ้ากล้าทำถึงขนาดนั้นก็จนปัญญา

                ขอขอบคุณทุกกำลังใจและความเข้มแข็งของคนที่ยืนเคียงข้าง"

                อืมมมม.........

                เรื่องนี้ของคุณวัฒนา มันคือเรื่องไหนล่ะ?

                ข้อความในโพสต์ที่ว่า "เรื่องของคนโสดสองคนที่ไม่ได้กระทำความผิดต่อใครและไม่ได้เป็นประเด็นสาธารณะ" นั่นน่ะ

                ทำให้ผมโล่งอก เพราะคุณโบว์ไม่ใช่ "คนโสด" จึงน่าจะเป็น "คนละเรื่อง" กับที่คุณวัฒนาโพสต์

                คุณโบว์ให้สัมภาษณ์มติชน สุดสัปดาห์ไว้ ดังนี้

                "....โบว์อาจจะมีเวลาให้กับลูกน้อยลงบ้าง เช่น ในบางสัปดาห์ หากมีงานเสวนาเชิญโบว์เป็นพิธีกร เท่ากับว่าช่วงนั้นหายไป

                แต่ลูกอยู่ในวัยที่มีความเป็นอิสระพอสมควร เป็นเด็กผู้ชาย แต่นิสัยคล้ายโบว์ที่อยู่ได้ด้วยตัวเอง มีโลกส่วนตัว เวลาอยู่ในบ้านด้วยกันก็ไม่ได้มุ้งมิ้งตลอดเวลา ลูกออกไปเตะบอลกับเพื่อน ดูคลิปวิดีโอของเขา เล่นรูบิกหรือเกมของเขาไป

                ถ้าดีที่สุด คือช่วงเย็นที่ได้อยู่ด้วยกันหรือก่อนนอน พาลูกเข้านอน มันค่อนข้างลงตัวเพราะลูกชายตอนนี้ 10 ขวบ มันเป็นวัยที่ไม่ได้ต้องการเรามากขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้ถึงกับทิ้งลูก แต่ยอมรับว่าเวลาถูกแบ่งไปบ้าง ฯลฯ"

                ขอจบตรงนี้นะครับ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"