“บิ๊กเมา” เบรกแนวคิดเขตปกครองพิเศษ 3 จชต. ชี้นายกฯ มหาเธร์พูดน่าจะเป็นเรื่องกระจายอำนาจ ลั่นไทยเป็นผู้กำหนดบ้านเมืองเราเอง มาเลย์เป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก ปัดเป็นความต้องการ "บีอาร์เอ็น" หวังบีบไทย แนะศึกษา “ซินเจียง-กาตาลุญญา” ก่อนถกเวทีพูดคุย 
    เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ระบุทางออกของการแก้ไขปัญหา 3จังหวัดชายแดนภาคใต้คือแบ่งเขตปกครองพิเศษ ว่า  น่าเป็นในส่วนการกระจายอำนาจ แต่เราสามารถพูดคุยกันได้ในเวทีการพูดคุย คงต้องหารือว่าขอบเขตที่เขาต้องการถึงขนาดไหน และการกระจายอำนาจในปัจจุบันเป็นอย่างไร รวมถึงรูปแบบมีความเหมาะสมอย่างไร และความต้องการของกลุ่มเห็นต่างมีขนาดไหน เขารู้ลึกซึ้งในเรื่องการกระจายอำนาจมากน้อยเพียงใด เพราะการแบ่งเขตการปกครองในโลกนี้มีหลายรูปแบบ
    "ถือเป็นแนวคิดหนึ่งที่ต้องมาพูดคุยในเรื่องรายละเอียดอีกมาก ในเมื่อกลุ่มเห็นต่างอยากแยกตัวออกไป แต่แยกไม่ได้ เพราะนี่คือประเทศไทย แต่มีวิธีการอื่นหรือไม่ ที่จะทำให้เขาอยู่ร่วมกันแบบไม่อึดอัดโดยไม่ใช้ความรุนแรงเข้าหากัน แสดงความคิดเห็นกันได้ นี่คือประเด็นที่ต้องดำเนินการ"
      ผู้สื่อข่าวถามว่า เป้าหมายกลุ่มผู้เห็นต่างคือการแบ่งแยกดินแดน ดังนั้นแนวคิดการแบ่งเขตปกครองพิเศษ จะนำไปสู่จุดนั้นหรือไม่ พล.อ.อุดมชัยกล่าวว่า  คำว่าเขตปกครองพิเศษมันขนาดไหน เราพูดแต่รูปแต่เนื้อหาภายในคืออะไร หรือแบบเขตปกครองพิเศษเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ อยากให้ไปดูว่าทำกันขนาดไหน รวมถึงความพยายามแยกตัวออกจากสเปนของแคว้นกาตาลุญญา ตลอดจนถึงเขตปกครองพิเศษอื่นๆ มีรูปแบบอย่างไร แต่ความจริงแล้วก็อยู่ร่วมกัน คือเราเพียงแต่พูดถึงคำว่าเขตปกครองพิเศษ แต่ไม่เคยพูดถึงเนื้อหา ไม่เคยพูดคุยกันจริงจัง ได้แต่หันหลังเดินออกไปคนละทิศละทาง
    เมื่อถามว่า ขณะนี้ฝ่ายกองกำลังบีอาร์เอ็นตอบรับเข้าร่วมการพูดคุยฯ หรือยัง พล.อ.อุดมชัยกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ตอบรับ และอยู่ระหว่างผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซียประสานงานอยู่ ทุกอย่างเพิ่งเปลี่ยนแปลงมาเพียง 1 เดือน ต้องให้เวลา และเราเพิ่งสื่อสารไปไม่กี่วัน ซึ่งเรายืนยันจะคุยกับทุกกลุ่มเห็นต่าง ไม่ใช่เฉพาะบีอาร์เอ็น เพียงแต่ต้องแยกโต๊ะกันคุย กลุ่มที่มีกองกำลังคุยอีกโต๊ะ กลุ่มที่ไม่มีกองกำลัง ต้องคุยอีกโต๊ะเพื่อจะได้เห็นว่าแต่ละกลุ่มมีแนวทางการเมืองอย่างไร ขนาดไหน แต่มองว่ากลุ่มที่ไม่มีกองกำลัง น่าจะลงตัวกับระบอบปัจจุบันที่มองว่าดีแล้ว
    ถามว่า เขตปกครองพิเศษ เป็นหนึ่งในความต้องการกลุ่มบีอาร์เอ็นฝ่ายกองกำลังที่ต้องการบีบไทยให้ยอมรับก่อนจะร่วมเวทีพูดคุยหรือไม่ หัวหน้าคณะพูดคุยฯ กล่าวว่า ยังไม่เห็นมีใครในกลุ่มบีอาร์เอ็นพูดถึง เรื่องดังกล่าว ส่วนที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียพูดถึงความเป็นไปได้นั้น ยืนยันว่านายกฯ มหาเธร์หรือ ประเทศมาเลเซียเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกในขณะที่เราเป็นผู้กำหนด เพราะเป็นบ้านเมืองของเราเอง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บไซต์วิกิพีเดียระบุว่า เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เป็นเขตปกครองตนเองของจีนในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เป็นเขตปกครองใหญ่ที่สุดของจีน เป็นเขตการปกครองชาติที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 8 ของโลก กินพื้นที่กว่า 1.6 ล้านตารางกิโลเมตร และเป็นเขตการปกครองที่มีประชากรมากที่สุดติดอันดับหนึ่งในสิบ มีดินแดนพิพาทอักไสชินที่จีนบริหารอยู่ ซินเจียงมีพรมแดนติดต่อกับประเทศรัสเซีย มองโกเลีย คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน อัฟกานิสถาน ปากีสถานและอินเดีย นอกจากนี้ยังมีพรมแดนติดต่อกับทิเบต มีน้ำมันสำรองอุดมสมบูรณ์และเป็นภาคที่ผลิตแก๊สธรรมชาติใหญ่ที่สุดของจีน
     โดยในประวัติศาสตร์ของจีน ตั้งแต่สองพันปีก่อน ดินแดนซินเจียงคือดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศจีน 
ที่มีความเป็นเอกภาพ และประกอบด้วยหลายชนชาติ เมื่อ 60 ก่อนคริสต์ศักราช ราชวงศ์ฮั่นได้จัดตั้งองค์กรบริหารซียี่ เพื่อปกครองเขตซินเจียงโดยตรง ซึ่งมีขอบเขตรวมถึงทะเลสาบบาเอ่อคาสือและเขตพ่าหมี่เอ่อ ภายในเวลา 1,000 ปีเศษ ต่อจากนั้นเขตซินเจียง สังกัดอยู่ในองค์กรบริหารท้องถิ่นที่จัดตั้งโดยรัฐบาลกลาง ครั้นถึงราชวงศ์ชิง รัฐบาลกลางได้แต่งตั้งนายพลอีหลี เพื่อปกครองดินแดนซินเจียงทั้งหมด และเมื่อถึงปี พ.ศ.242 เขตซินเจียงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นมณฑลทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างซินเจียงกับมณฑลต่างๆ ในแผ่นดินใหญ่จีนมีความใกล้ชิดยิ่งขึ้น และเดือนกันยายน พ.ศ.2492 ซินเจียงได้รับการปลดแอกอย่างสันติจนเมื่อถึงวันที่ 1 ตุลาคม สาธารณรัฐประชาชนจีนได้สถาปนาขึ้นเขตซินเจียง จึงกลายเป็นเขตบริหารระดับมณฑลที่มีอำนาจปกครองตนเองได้เขตหนึ่งของจีน
     โดยปัจจุบัน ซินเจียงมีฐานะเทียบเท่ามณฑลและไม่ได้แตกต่างอะไรเลยกับมณฑลทั่วไปในด้านการบริหารเพียง แต่ชื่อเรียกเท่านั้นที่บ่งบอกถึงความเป็นดินแดนที่มีประชากรชนชาตินั้นๆ.