ปล่อย'รถเมล์'ให้คนกรุง ปูดทำโพลบัตรสวัสดิการ


เพิ่มเพื่อน    

    เกือบเสียฤกษ์! "บิ๊กตู่" เปิดตัวรถเมล์ NGV ใหม่เป็นของขวัญปีใหม่คนกรุง เกิดเหตุซุ้มอาร์คเวย์แฟบขวางทางรถระหว่างนั่งทดลอง ยันทุกโครงการทำเพื่อประชาชน ไม่ได้ต้องการสืบทอดอำนาจ "ณัฐวุฒิ" ปูดมีสายลึกลับอ้างเป็น จนท.ส่วนกลางถามความพึงพอใจบัตรคนจน ก่อนฝากเลือกพรรคชื่อคล้ายนโยบายรัฐบาล  
    ที่หอประชุมสภากรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการ กทม. 2 เขตดินแดง เวลา 13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานพิธีเปิดตัวรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าชธรรมชาติ (NGV) ใหม่ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นวันสำคัญ จึงมีความภาคภูมิใจร่วมกับชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เหมือนท้องมาหลายเดือน แต่แท้งมาตลอด วันนี้ก็คลอดออกมาได้แล้ว หลังจากนี้ก็ต้องทำให้แข็งแรงและปลอดภัย การที่ทุกคนต้องการสิ่งที่ดีก็ต้องร่วมมือกับรัฐบาล โดยอยากให้มองโดยใช้สติปัญญาในการร่วมมือกับรัฐบาลให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ไม่ใช่เพียงต่อว่ากันไปมา ว่างบประมาณมาจากไหน และขาดทุน ซึ่งไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล รวมถึง ขสมก. ประชาชนและนักการเมืองที่จะมาเป็นรัฐบาลต่อไปก็ต้องคิดแบบนี้ ร่วมมือกันในการพัฒนา ไม่ใช่แค่ขนส่งมวลชนเท่านั้น แต่รวมถึงเรื่องสวัสดิการแห่งรัฐ และดูแลผู้มีรายได้น้อย ถ้าขัดแย้งและต้องการเหมือนกันทั้งหมด ก็เป็นไปได้ยาก
    "โครงการนี้ทำให้เกิดความเท่าเทียมและโอกาสที่ประชาชนเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนทั้งรถเมล์และรถไฟ ไม่เช่นนั้นจะมองว่าสร้างให้คนรวยใช้เพียงอย่างเดียว ตนไม่ได้ทำงานเพื่อหวังให้ใครมารักหรือเกลียด ใครจะเกลียดก็เกลียดไป แต่ต้องทำทั้งหมดเพื่อประเทศไทย เราต้องแก้ปัญหาแบบนี้ และถามว่าจะซื้อรถเมล์ NGV 3,000 คัน จะเอาเงินที่ไหนซื้อ วันนี้ตนเองไม่พูดการเมือง แต่พูดถึงหลักคิดว่าวันนี้เดินหน้าเพื่อใคร ยืนยัน 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ทำไปเยอะ และไม่ได้พูดเพื่อหาเสียง เพราะรัฐบาลไม่ได้อยู่ต่อ และตนเองก็ไม่ได้ไปลงเลือกตั้ง" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    จากนั้น นายกฯ ทำพิธีเปิดตัวรถโดยสารเอ็นจีวีใหม่ 50 คัน เพื่อให้บริการกับประชาชน แต่ปรากฏว่าช่วงที่ก้าวลงบันไดจากเวทีนายกฯ หันไปหยิบไมโครโฟนเพื่อพูดต่อ แต่ก้าวลงบันไดผิดจังหวะ ทำให้เซเล็กน้อยจนทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยถึงกับตกใจ แต่นายกฯ สามารถประคองตัวได้ทันท่วงที หลังจากนั้นนายกฯ ทำพิธีปล่อยขบวนรถโดยสารเอ็นจีวีใหม่ 50 คันเพื่อให้บริการกับประชาชน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกฯ และคณะปล่อยรถไปได้ระยะหนึ่ง นายกฯ ได้ขึ้นรถเมล์สาย 168 สวนสยาม-อนุสาวรีย์ชัยฯ คันที่ 11 ทะเบียน 16-2053 ซึ่งคณะทั้งหมดขึ้นอยู่บนรถ คนขับกำลังจะเคลื่อนรถออกจากจุด ปรากฏว่าได้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อปลั๊กไฟที่เสียบต่อกับเครื่องอาร์คเวย์หรือซุ้มโค้งพองลมที่อยู่หน้าพิธีเปิดงานได้หลุด ทำให้ลมถูกปล่อยออกจากอาร์คเวย์ และค่อยๆ ล้มลง ขวางรถคันที่นายกฯ ขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต่างพากันตกใจรีบลากอาร์คเวย์ออกพ้นจากเส้นทางเพื่อให้รถนายกฯ ออกไปได้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเดิมนั่งอยู่ที่เบาะด้านซ้ายริมหน้าต่าง ถึงกับลุกมายืนชะโงกดูหน้ารถ พร้อมทำหน้าเซ็งๆ แต่ทุกอย่างสามารถลุล่วงผ่านพ้นไปได้ บรรดาเจ้าหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับการปล่อยขบวนรถและฝ่ายผู้จัดงานต่างรีบแก้ตัวว่า เนื่องจากไฟไม่พอทำให้ไฟตก ทำให้เกิดเหตุนี้ขึ้น และเจ้าหน้าที่ถึงกับบ่นว่าไม่น่าเกิดเหตุเช่นนี้เลย เสียฤกษ์ไปหมด ที่สำคัญมาเกิดต่อหน้ารถคันที่นายกฯ นั่งด้วย สงสัยจะลางไม่ดี
    หลังจากนายกฯ ได้นั่งรถกลับมาได้บอกว่า "นั่งแล้วสบายดี สื่อลองนั่งบ้าง มาตามอยู่ทำไม จะได้ไปอธิบายประชาชนได้"
    ก่อนหน้านั้น ในช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2561 (The Prime Minister's Industry Award 2018) 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การดำเนินงานของอุตสาหกรรมต่างๆ นอกจากคำนึงถึงผลประกอบการแล้ว ก็ขอให้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ดูแลบุคลากร และดูแลประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบให้เกิดความสุขและมีความพึงพอใจ ทุกคนจะต้องคำนึงถึงเพื่อลดความขัดแย้งและความไม่เข้าใจ วันนี้รัฐบาลปลดล็อกไปหลายประการ เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม ซึ่งอยากให้มองว่ารัฐบาลทุกรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลทุกภาคส่วน ทุกอาชีพ ทั้งผู้มีรายได้น้อย รายได้ปานกลาง และรายได้สูง ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดผลกระทบ มีความขัดแย้งในแง่ของคนรวยคนจน การเป็นเจ้าของสินทรัพย์ต่างๆ ซึ่งในความเป็นจริงก็มีอยู่แล้ว ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกัน ไม่เช่นนั้นรัฐบาลก็จะมีปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดิน ส่งผลเสียต่อการเดินหน้าทางการเมือง 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนพูดกับประชาชนไปหลายครั้งแล้วว่าประเทศไทยมีความต้องการในการดูแลผู้มีรายได้น้อย ประมาณ 30 ล้านคน ถือว่าเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งส่วนนี้มีความต้องการมากขึ้น เพราะคนเยอะขึ้น รัฐบาลจึงมีมาตรการต่างๆ ออกไปดูแล หารายได้มาเพิ่มเติม ดังนั้นถ้าทุกอุตสาหกรรมดีขึ้น มีรายได้มากขึ้น ภาษีมากขึ้น ก็จะมีเงินเข้ามาเติมในส่วนของการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย รัฐบาลมีรายได้อย่างเดียวจากการเก็บภาษี ดังนั้นถ้าเราใช้อะไรมากเกินไป เกินสัดส่วนที่มีอยู่ก็จะทำให้เกิดปัญหาได้
    "การทำนโยบายต่างๆ รัฐบาลไม่ได้ต้องการสืบทอดอำนาจ แต่เป็นการสืบทอดอำนาจทางการบริหารของรัฐบาลทุกรัฐบาลต่อไป ในการเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ชาติ อุตสาหกรรมต้องมีส่วนร่วมในยุทธศาสตร์ชาติทุกด้าน เพื่อทำให้เกิดความมั่นคง การเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนา การลดความเหลื่อมล้ำ เราต้องคิดให้กว้าง รัฐบาลไม่ได้หวังสืบทอดอำนาจของใครก็แล้วแต่ แต่เป็นการสืบทอดอำนาจของประเทศ ในการกำหนดวิธีการในการเดินหน้าประเทศไทยในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม กฎหมายต่างๆให้มีความเป็นสากล" นายกฯ กล่าว
    ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) กล่าวว่า รัฐบาลย้ำมาตลอดว่ามาตรการสารพัดแจกไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่ใช่การหาเสียงให้พรรคใดพรรคหนึ่ง แต่การกระทำสำคัญกว่าคำพูด เพราะขณะนี้ได้รับแจ้งประชาชนหลายคนในพื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีโทรศัพท์หมายเลข 0936499*** อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง โทร.เข้ามือถือ ซึ่งคงได้เบอร์จากการลงทะเบียนรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สอบถามความพึงพอใจที่ได้เข้าร่วมโครงการ ได้เงิน 500 บาท จากนั้นก่อนวางสายก็เอ่ยปากฝากให้เลือกพรรคการเมืองที่ชื่อคล้ายนโยบายรัฐบาล
    "เรื่องแบบนี้ถ้าเกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอหนึ่ง ก็น่าเชื่อได้ว่าจะระบาดไปทั่วประเทศ ไม่ทราบว่า กกต.สนใจจะตรวจสอบหรือไม่ และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่รัฐบาลไม่ยินดีให้นานาชาติเข้าสังเกตการณ์การเลือกตั้งหรือไม่" นายณัฐวุฒิกล่าว
    ปธ.คกก.รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ทษช.กล่าวว่า ถ้ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐจริง ก็ขอให้รัฐบาลสั่งการให้ยุติการกระทำทันที หากไม่ใช่ก็น่าสนใจว่ามีขบวนการใต้ดินที่ไหนเคลื่อนไหวแบบนี้ หรือมีพรรคการเมืองบางพรรคคิดว่าตัวเองใหญ่มาก และได้ประโยชน์ทางการเมืองจากนโยบายรัฐบาล จึงใช้คนทำเรื่องดังกล่าว 
    "ถ้ารัฐมนตรี 4 กุมารนับเงินระดมทุนเสร็จแล้วก็ควรหันมาสนใจเรื่องพวกนี้ด้วย เพราะการให้เงินแล้วบอกให้เลือกพรรคนั้นพรรคนี้ คือการซื้อเสียง ซึ่งรัฐบาลนี้แสดงออกว่ารังเกียจและโจมตีนักการเมืองมาตลอด แต่ตัวเองกำลังจะทำสิ่งที่เรียกว่าใช้งบประมาณแผ่นดินซื้อเสียงประชาชนหรือไม่" ปธ.คกก.รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ทษช.กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"