พบคนไทยเสพติดหวย ซื้อสลาก-หวยปีละ 2.5 แสนล้านบาท เท่ากับเงินลงทุนสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ส่วนใหญ่อยู่ในวัยสร้างครอบครัวทั้งมนุษย์เงินเดือนและเจ้าของกิจการ กระทั่งนักเรียนนักศึกษาก็ตกเป็นทาสเพราะสภาพแวดล้อมเป็นพิษ
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (ธนาคารทหารไทย) เปิดเผยผลสำรวจการเสี่ยงโชคลอตเตอรี่และหวยใต้ดิน พบว่า คนไทยกว่า 9 ล้านคน เสพติดหวย แบ่งเป็นชอบ 7.6 ล้านคน และติดหวย 1.3 ล้านคน ส่วนใหญ่ครอบครัวมีภาระซื้อลอตเตอรี่ เพราะหวังรวยทางลัดและอยากเสี่ยงโชค แม้เศรษฐกิจไม่ดีก็ยังซื้อ และคนไทย 1 ใน 4 หรือประมาณ 20 ล้านคน ซื้อลอตเตอรี่และหวยรวมกันกว่า 250,000 ล้านบาท/ปี หรือคิดเป็น 3 เท่าของมูลค่าซื้อกองทุน LTF และ RMF หรือเทียบเท่ากับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
รายงานระบุว่า เสียงสะท้อนจากสื่อโซเชียลส่วนใหญ่และผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 55 มองว่าหวยเป็นความฝันและความหวังที่ทำให้รวยและมีความเป็นอยู่ที่ดี แต่จากสถิติชี้ว่า โอกาสที่จะรวยจากการถูกรางวัลมีน้อยมาก ทั้งนี้ คนที่คาดหวังว่าจะถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 คิดเป็นร้อยละ 44 แต่โอกาสถูกจริง 1 ในล้านเท่านั้น ส่วนคนเล่นหวยคาดว่าถูก 2-3 ตัวบนล่าง มีอยู่ร้อยละ 78 โอกาสถูกจริงร้อยละ 0.4-2
ส่วนกูเกิล เทรนด์ ยังพบว่า 15 ปีที่ผ่านมา คนไทยมีคำฮิตทั่วไทยในค้นหาคือคำว่า เลขเด็ด เพิ่มขึ้นปีละร้อยละ 18 ขณะที่การสืบค้นคำว่า ฝากเงิน เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 9 ต่อปี และกระจุกเพียงในหัวเมืองเท่านั้น ขณะเดียวกันยังพบว่า ภาวะเศรษฐกิจไม่มีผลต่อยอดการซื้อหวย โดยสะท้อนจากปี 2552 รายจ่ายในการซื้อลอตเตอรี่และหวยของคนไทยอยู่ที่ 340 บาท/เดือน หรือคิดเป็นร้อยละ 2.1 ต่อรายได้ทั้งหมด เทียบกับช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวปี 2560 รายจ่ายด้านนี้อยู่ที่ 452 บาท/เดือน หรือติดเป็นร้อยละ 2.1 ต่อรายได้ทั้งหมด ซึ่งสะท้อนได้ว่า คนไทยเชื่อว่าหวยเป็นความหวังและทำให้ชีวิตดีขึ้น แม้ในภาวะที่รายได้ตกต่ำ แต่คนไทยก็ยังเลือกที่จะเสี่ยงโชค และหวยมีบทบาทและกลายเป็นสินค้าจำเป็นตามหลักเศรษฐศาสตร์เข้าไปทุกที
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี ยังพบว่า คนไทยทุกกลุ่มรายได้เสี่ยงโชคด้วยการซื้อหวย โดยกลุ่มที่มีรายได้สูงกว่าเดือนละ 15,000 บาท ซื้อหวยเฉลี่ยเดือนละ 680 บาท หรือมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 1.2 ของรายได้ ส่วนคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท/เดือน ซื้อเฉลี่ย 350 บาท/เดือน มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 2.2 ของรายได้ การซื้อหวยครอบคลุมทุกช่วงอายุ แต่กลุ่มที่ซื้อมากที่สุดคือ วัยสร้างครอบครัว โดยมีอายุ 33-55 ปี เฉลี่ยเดือนละ 500 บาท ส่วนวัยทำงานและวัยเกษียณเฉลี่ยเดือนละประมาณ 400 บาท โดยมีอายุระหว่าง 33-55 ปี และพบด้วยว่า นักเรียนนักศึกษาซื้อหวยเฉลี่ย 187 บาทต่อเดือน สะท้อนได้ว่าเล่นหวยตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเหตุจูงใจมาจากผู้ปกครอง คนรอบข้างและสื่อโซเชียล
จากการเก็บข้อมูลยังพบว่า ร้อยละ 50 ของมนุษย์เงินเดือนและเจ้าของธุรกิจ คิดเป็น 12 ล้านคนเล่นหวย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม โดยร้อยละ 26 เล่นเพื่อสนุก ร้อยละ 63 ชอบและหวังเงินรางวัล และร้อยละ 11 ติดหวย โดยสรุปได้ว่า มนุษย์เงินเดือนและเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ หรือประมาณ 9 ล้านคน ชอบลุ้นรางวัลหวังว่าจะรวยขึ้น ซึ่งพฤติกรรมการซื้อหวยของกลุ่มคนชอบหวย พบว่ากว่าร้อยละ 80 ซื้ออย่างน้อยเดือนละครั้ง เฉลี่ยเดือนละ 420 บาท และซื้อเพิ่มขึ้นจากครั้งแรกของการเล่นหวยประมาณร้อยละ 18 ซึ่งบางคนซื้อทุกงวด หรือ 24 ครั้งต่อปี จ่ายค่าหวยมากกว่ากลุ่มชอบหวยถึง 2 เท่า และซื้อเพิ่มขึ้นจากครั้งแรกร้อยละ 26 ทั้งนี้ หากกลุ่มเหล่านี้ซื้อต่อเนื่อง 50 ปี เงินที่เสียไปสามารถซื้อรถยนต์ซิตี้คาร์ หรือบ้านได้ 1 หลัง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวสะท้อนได้ว่าหวยคือความฝันที่แลกด้วยเงินล้านของคนไทย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |