มูลนิธิโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ตกลงจะยุบมูลนิธิซึ่งตั้งชื่อตามชื่อประธานาธิบดีเจ้าปัญหาของสหรัฐแล้ว ตามคำสั่งของอัยการสูงสุดรัฐนิวยอร์กที่ดำเนินคดีทรัมป์และลูก 3 คนโต ฐานใช้เงินของมูลนิธินี้อย่างผิดกฎหมายในแบบที่น่าตกใจ เพื่อประโยชน์ส่วนตนและหวังผลคะแนนเสียง พร้อมสั่งให้คืนเงิน 2.8 ล้านดอลลาร์และโอนเงินที่เหลืออยู่เข้ามูลนิธิอื่นๆ

แฟ้มภาพ วันที่ 11 มกราคม 2560 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถ่ายรูปกับลูก 3 คนที่มีชื่อเป็นกรรมการมูลนิธินี้ จากซ้าย เอริก, อีวานกา และโดนัลด์ จูเนียร์ / AFP

    คำแถลงของอัยการสูงสุด บาร์บารา อันเดอร์วูด แห่งรัฐนิวยอร์ก เมื่อวันอังคารที่ 18 ธันวาคม 2561 กล่าวว่า ข้อตกลงไกล่เกลี่ยนี้ซึ่งยังต้องได้รับการอนุมัติจากศาลรัฐนิวยอร์ก จะให้อำนาจอัยการอันเดอร์วูดเป็นผู้กำกับดูแลการถ่ายโอนทรัพย์สินของมูลนิธิทรัมป์ไปยังมูลนิธิอื่นๆ ที่มีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม คดีที่อัยการดำเนินการกับประธานาธิบดีทรัมป์ และลูก 3 คนโตของเขา ซึ่งได้แก่ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์, อีวานกา และเอริก จะยังเดินหน้าต่อไป

    อันเดอร์วูดกล่าวในแถลงการณ์ว่า มีแบบแผนของการดำเนินการโดยมิชอบด้วยกฎหมายที่น่าตกใจเกี่ยวข้องกับมูลนิธินี้ ซึ่งรวมถึงการประสานความร่วมมือกับการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์อย่างผิดกฎหมาย, การดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนโดยจงใจครั้งแล้วครั้งเล่า และอื่นๆ ซึ่งแทบไม่ต่างกับการที่มูลนิธิทรัมป์ทำหน้าที่เป็นสมุดเช็กสำหรับธุรกิจและผลประโยชน์ทางการเมืองของทรัมป์เอง

    เอเอฟพีรายงานว่า อัยการสูงสุดรัฐนิวยอร์กยื่นฟ้องมูลนิธิทรัมป์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่ามูลนิธินี้ดำเนินการผิดกฎหมายอย่างไม่หยุดหย่อน คำฟ้องนี้กล่าวโทษทั้งประธานาธิบดีทรัมป์และลูก 3 คนของเขา ซึ่งเป็นกรรมการของมูลนิธิ โดยอันเดอร์วูดกล่าวว่า การดำเนินคดีกับพ่อ-ลูกทั้ง 4 จะดำเนินต่อไปเพื่อให้มั่นใจว่ามูลนิธิทรัมป์และผู้บริหารทั้งหลายจะต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดกฎหมายของรัฐและของรัฐบาลกลางอย่างชัดเจนครั้งแล้วครั้งเล่า

    คำฟ้องสั่งให้มูลนิธิชดใช้เงินคืนจำนวน 2.8 ล้านดอลลาร์ และห้ามพ่อ-ลูกทรัมป์ทั้ง 4 รับตำแหน่งในกรรมการบริหารขององค์กรไม่แสวงหากำไรองค์กรอื่นๆ ในรัฐนิวยอร์กด้วย  

    รายงานบีบีซีกล่าวว่า เอกสารคำฟ้องความยาว 41 หน้าที่อัยการยื่นต่อศาลฎีกานิวยอร์กเมื่อเดือนมิถุนายน บรรยายถึงคำกล่าวหาว่ามูลนิธินี้ละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงกำไรหลายกรณีด้วยกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งไม่เคยควักเงินส่วนตัวสมทบทุนมูลนิธินี้มาตั้งแต่ปี 2551 เป็นเพียงบุคคลเดียวที่ลายเซ็นอยู่ในสมุดบัญชีธนาคารของมูลนิธิ และมีอำนาจลงนามอนุมัติเงินทั้งหมด

    เอกสารหลายหน้ากล่าวถึงงานระดมทุนสำหรับทหารผ่านศึกที่รัฐไอโอวาเมื่อเดือนมกราคม 2559 ซึ่งทรัมป์เลือกจะเข้าร่วมงานนี้ แทนที่จะไปร่วมการโต้อภิปรายทางทีวีกับคู่แข่งร่วมพรรครีพับลิกันคนอื่นๆ ก่อนหน้าการหยั่งเสียงของพรรคเพื่อหาตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี งานครั้งนี้สามารถระดมทุนได้มากกว่า 2.8 ล้านดอลลาร์ คำฟ้องกล่าวหาว่าเงินที่ได้จากการระดมทุนจากประชาชนครั้งนี้ถูกนำไปใช้สนับสนุนการหาเสียงของทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการหยั่งเสียงในรัฐไอโอวา

    คำฟ้องกล่าวหามูลนิธิทรัมป์ด้วยว่า นำเงิน 100,000 ดอลลาร์ไปใช้ไกล่เกลี่ยคดีที่รีสอร์ตมาร์-อะ-ลาโกของทรัมป์ที่โดนฟ้องร้อง, อีก 158,000 ดอลลาร์ใช้ไกล่เกลี่ยคดีที่ฟ้องร้องกอล์ฟคลับแห่งหนึ่งของทรัมป์ และมูลนิธินี้ยังใช้เงิน 10,000 ดอลลาร์ซื้อภาพเขียนของทรัมป์ที่แขวนอยู่ที่กอล์ฟคลับอีกแห่งของทรัมป์.