ส.ว.ค้ำบัลลังก์แค่ภาพลวงตา


เพิ่มเพื่อน    

    เหมือนผีเห็นผี 
    งานนี้มีคนบอกว่า..."ทนายวันชัย" พลาด!
    โชว์ออฟ...ว่าเป็นตัวตั้งตัวตีเขียนรัฐธรรมนูญให้ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีได้ 
    จริง-ไม่จริง ไปรื้อดูข่าวเก่าๆ มีให้อ่านเป็นกระบุง
    แต่....มีความจริงอยู่ประการหนึ่งคือ รู้กันมานานแล้วไม่ใช่หรือว่า วุฒิสภา ๒๕๐ เสียง ถูกกำหนดโดยรัฐธรรมนูญ ให้เลือกนายกฯ ร่วมกับสภาผู้แทนราษฎร
    ใช่ว่าเพิ่งมารู้เอาตอนที่เห็นคลิป ทนายวันชัย พูดกับเด็กวัดไตรมิตร (หลวงพ่อทองคํา) ในงานคืนสู่ย่ามอารามบอย เมื่อ ๘ ธันวาคมที่ผ่านมา
    แล้วทำไมนักการเมืองถึงรุมเหยียบทนายวันชัย? 
    ง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน วันนี้เข้าสู่บรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งเต็มตัวแล้ว  
    สิ่งที่รัฐบาลลุงตู่ พรรคพลังประชารัฐ จะโดนไปยันวันเลือกตั้ง คือเสียงก่นด่าว่า...
    พวกเผด็จการ! 
    แค่คลิปทนายวันชัย โผล่มาเข้าทางตีนพอดี 
    วันนี้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ทั้งฉบับ กำลังถูกทำให้เป็นกติกาอันชั่วร้าย ต้องล้มล้างทันทีที่มีโอกาส
    หลายพรรคการเมืองเริ่มประกาศในนโยบายหาเสียงแล้วว่า หลังเลือกตั้ง จะล้างรัฐธรรมนูญฉบับคสช. 
    หาเสียงคุยคำโต ราวกับไม่เคยเห็นวิกฤติรัฐธรรมนูญในอดีต 
    รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน อัปรีย์-จัญไร จริงๆ อย่างนั้นหรือ 
    หรือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ควบคุมการใช้อำนาจของนักการเมืองมากกว่ารัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ผ่านมากันแน่
    ไม่พูดเยอะเจ็บคอ...เอาแค่ประเด็น ส.ว.เลือกนายกฯ เพราะนักการเมือง พยายามทำตัวราวกับเด็กงอแงถูกแย่งของเล่น 
    ราวกับว่าเผด็จการจะครองเมืองไปอีก ๒๐ ปี 
    การสืบทอดอำนาจที่นำมาโจมตีกันในเวลานี้ หลักๆ แล้วมาจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช ๒๕๖๐ บทเฉพาะกาล มาตรา ๒๗๒ ที่บัญญัติเอาไว้ว่า
    ....ในระหว่างห้าปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ การให้ ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้ดําเนินการตามมาตรา ๑๕๙ เว้นแต่ การพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๕๙ วรรคหนึ่ง ให้กระทําในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา และ มติที่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา ๑๕๙ วรรคสาม ต้องมีคะแนนเสียง มากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
    ในระหว่างเวลาตามวรรคหนึ่ง หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ใน บัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา ๘๘ ไม่ว่าด้วยเหตุใด และสมาชิกของทั้งสองสภารวมกัน จํานวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาเข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา ขอให้รัฐสภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมือง แจ้งไว้ตามมาตรา ๘๘ ในกรณีเช่นนั้น ให้ประธานรัฐสภาจัดให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยพลัน และในกรณีที่รัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของ ทั้งสองสภาให้ยกเว้นได้ ให้ดําเนินการตามวรรคหนึ่งต่อไป โดยจะเสนอชื่อผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมือง แจ้งไว้ตามมาตรา ๘๘ หรือไม่ก็ได้...
    สรุปคือ ส.ว.มีสิทธิ์เลือกนายกฯ แค่ ๕ ปี 
    ที่มา ส.ว.ตามบทเฉพาะกาลก็มาจาก คสช. จึงเป็นขุมกำลังให้ คสช. ประเด็นนี้รู้กันทั่ว รู้กันนานแล้ว ไม่มีอะไรใหม่ 
    แต่หลุดจาก ๕ ปีแล้วก็กลับไปใช้ มาตรา ๑๐๗ เต็มตัว 
    รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๗ บัญญัติไว้อย่างไร...
    ....วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกจํานวนสองร้อยคน ซึ่งมาจากการเลือกกันเอง ของบุคคลซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะ หรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทํางาน หรือเคยทํางานด้านต่างๆ ที่หลากหลายของสังคม โดยในการแบ่งกลุ่มต้องแบ่งในลักษณะที่ทําให้ประชาชน ซึ่งมีสิทธิสมัครรับเลือกทุกคนสามารถอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้
    การแบ่งกลุ่ม จํานวนกลุ่ม และคุณสมบัติของบุคคลในแต่ละกลุ่ม การสมัครและรับสมัคร หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกกันเอง การได้รับเลือก จํานวนสมาชิกวุฒิสภาที่จะพึงมีจากแต่ละกลุ่ม การขึ้นบัญชีสํารอง การเลื่อนบุคคลจากบัญชีสํารองขึ้นดํารงตําแหน่งแทน และมาตรการอื่นใดที่จําเป็น เพื่อให้การเลือกกันเองเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา และเพื่อประโยชน์ในการดําเนินการให้การเลือกดังกล่าวเป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม จะกําหนดมิให้ผู้สมัครในแต่ละกลุ่มเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน หรือจะกําหนดให้มี การคัดกรองผู้สมัครรับเลือกด้วยวิธีการอื่นใดที่ผู้สมัครรับเลือกมีส่วนร่วมในการคัดกรองก็ได้
    การดําเนินการตามวรรคสอง ให้ดําเนินการตั้งแต่ระดับอําเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ เพื่อให้สมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยในระดับประเทศ
    ในกรณีที่ตําแหน่งสมาชิกวุฒิสภามีจํานวนไม่ครบตามวรรคหนึ่ง ไม่ว่าเพราะเหตุตําแหน่งว่างลง หรือด้วยเหตุอื่นใดอันมิใช่เพราะเหตุถึงคราวออกตามอายุของวุฒิสภา และไม่มีรายชื่อบุคคลที่สํารองไว้เหลืออยู่ ให้วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกวุฒิสภาเท่าที่มีอยู่ แต่ในกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภาเหลืออยู่ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ของจํานวนสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดและอายุของวุฒิสภาเหลืออยู่เกินหนึ่งปี ให้ดําเนินการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ขึ้นแทนภายในหกสิบวันนับแต่วันที่วุฒิสภามีสมาชิกเหลืออยู่ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ในกรณีเช่นว่านี้ ให้ผู้ได้รับเลือก ดังกล่าวอยู่ในตําแหน่งได้เพียงเท่าอายุของวุฒิสภาที่เหลืออยู่
    การเลือกสมาชิกวุฒิสภาให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และภายในห้าวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกา มีผลใช้บังคับ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งกําหนดวันเริ่มดําเนินการเพื่อเลือกไม่ช้ากว่าสามสิบวันนับแต่วันที่ พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีผลใช้บังคับ การกําหนดดังกล่าวให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และให้นําความใน มาตรา ๑๐๔ มาใช้บังคับโดยอนุโลม....
    เมื่อหลุดจาก ๕ ปี ก็กลับไปเลือกตั้ง 
    แม้ไม่ใช่การเลือกตั้งแบบ ส.ส. แต่ก็เลือกกันในระดับอำเภอ เรื่อยไปยันระดับประเทศ 
    และอาจจะฉิบหายได้อีก หากนักการเมืองส่งลูกส่งเมียไปร่วมวงตามหลักเกณฑ์ มาตรา ๑๐๗  
    แล้วใน ๕ ปี นักการเมืองที่อ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตยกลัวอะไร 
    กลัวไม่ได้เป็นรัฐบาลเลยตลอดทั้ง ๕ ปี 
    หรือกลัวประเทศจะถูกปกครองโดยเผด็จการกันแน่ 
    เอาให้ชัด.... 
    นักการเมืองก็รู้ดีว่า ถึง "ลุงตู่" จะได้เป็นนายกฯ ด้วยการอุ้มชูของวุฒิสภา ก็ใช่ว่าจะอยู่รอด หากมีการปั่นกระแสว่าประเทศยังปกครองโดยเผด็จการทหาร
    แล้วปลุกม็อบลงเดินบนถนน
    แม้ในความเป็นจริงเผด็จการทหารช่วงเวลานั้นคงหมดไปแล้ว 
    จะมีก็เป็นเผด็จการรัฐสภา 
    และหากเกิดเผด็จการรัฐสภาขึ้นจริง ก็ไม่ถือเป็นครั้งแรก 
    เพราะรัฐบาลระบอบทักษิณ ได้สร้างปรากฏการณ์เผด็จการรัฐสภาให้เห็นมาแล้วในอดีต ตั้งหน้าตั้งตาใช้เสียงข้างมากทุจริตเชิงนโยบาย สร้างความขัดแย้งทางการเมืองต่อเนื่องมาถึงวันนี้
     มองลึกลงไปหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี อีกสมัย กว่าจะถึงวันนั้นต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง  
    และวุฒิสภา คือสภาที่กุมชะตาทางการเมืองทุกอย่างไว้ใช่หรือไม่? 
    ในทางการเมือง พรรคตระกูลเพื่อและเครือข่ายต่างรู้ดีว่า ส.ว.จะมีบทบาทสำคัญเพียงวันที่เลือกนายกฯ เท่านั้น 
    หลังจากนั้นก็ใช้อำนาจหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ตามปกติ ไม่มีอะไรพิสดาร 
    แต่ที่ชี้เป็นชี้ตายคือในสภาผู้แทนราษฎร
    ฉะนั้นการมี ๒๕๐ ส.ว.ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์อยู่ยาว
    เพราะยาวหรือไม่อยู่ที่การจัดตั้งรัฐบาลต่างหาก
    การเลือกนายกฯ ต้องใช้เสียงกึ่งหนึ่งของทั้ง ๒ สภา 
    สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๕๐๐ เสียง
    สมาชิกวุฒิสภา ๒๕๐ เสียง 
    รวม ๗๕๐ เสียง 
    กึ่งหนึ่งก็คือ ๓๗๖ เสียง 
    แต่ใช่ว่า มีเสียง ส.ว. ๒๕๐ เสียงอยู่ในมือแล้ว ไปหาจากสภาผู้แทนฯ เพิ่มอีก ๑๒๖ เสียง พล.อ.ประยุทธ์จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี 
     การเลือกนายกฯ ก็คือการตั้งรัฐบาล! 
    ฉะนั้นหากมีเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเพียง ๑๒๖ เสียง รัฐบาลอยู่ได้วันเดียวก็จบเห่ 
    เพราะเสียงกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ คือ ๒๕๐ เสียง! 
    ฉะนั้นมีหรือไม่มีวุฒิสภา เสียงโหวตจากสภาผู้แทนฯ เพื่อให้ "ลุงตู่" เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมากกว่า ๒๕๐ เสียง
    ใครที่บอกว่า ๒๕๐ เสียงของวุฒิสภา คือเสียงชี้เป็นชี้ตาย....มันไม่ใช่เลย 
    แค่ไม้ประดับ
    หรือถ้ายังนึกภาพไม่ออก ให้กลับไปดูการเลือกนายกฯ ในสภาผู้แทนฯ นับแต่รัฐธรรมนูญปี ๒๕๔๐   ประกาศใช้ 
    เสียงที่ฟาดฟันกันคือเสียงในสภาผู้แทนฯ 
    ฝ่ายไหนรวมเสียงได้มากกว่าฝ่ายนั้นได้ตั้งรัฐบาล 
    และในความจริงไม่มีรัฐบาลไหนรวมเสียงแค่กึ่งหนึ่งก็พอแล้ว แต่ต้องมี ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งอย่างน้อย  ๓๐ ที่นั่ง เพื่อเป็นหลักประกันว่า รัฐบาลจะไม่แพ้โหวตในสภา 
    เพราะนั่นจะนำไปสู่การคว่ำรัฐบาล
    ครั้งนี้ก็เช่นกันหากพรรคตระกูลเพื่อรวมเสียงแล้วได้เกิน ๒๕๐ เสียง ต่อให้ ส.ว.โหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ครบทั้ง ๒๕๐ เสียง พล.อ.ประยุทธ์ตั้งรัฐบาลได้ แต่อยู่ไม่ได้ 
    จะเป็นเพียงรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนฯ 
    บริหารประเทศไม่ได้ 
    ก็ต้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่
    หรือลาออกให้พรรคตระกูลเพื่อที่คุยโม้โอ้อวดว่าได้แน่ ๓๐๐ ที่นั่ง จัดตั้งรัฐบาลแทน 
    ไปขอแรง ส.ว. ๗๖ เสียงช่วยโหวตให้คนของพรรคตระกูลเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี
    และในความเป็นจริงแล้วใช่ว่า ส.ว. ๒๕๐ เสียงจะเป็นคนของ คสช.ไปเสียทั้งหมด 
    สรุปแล้วที่โอดโอยว่าวุฒิสภาคือปีศาจอุ้มเผด็จการทหาร.... 
    ก็แค่ภาพลวงตา. 
                            ผักกาดหอม


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"