ทุ่ม1.2หมื่นล้าน 2เมกะโปรเจ็กต์ บรรเทาน้ำท่วม


เพิ่มเพื่อน    

    "บิ๊กตู่" ประชุม "กนช." กำชับเร่งขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการน้ำแก้ปัญหาภัยน้ำท่วม-ภัยแล้ง ไฟเขียว 2 โครงการใหญ่บรรเทาอุทกภัยวงเงินรวม 1.2 หมื่นล้าน ทั้งสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองเปรมประชากร และปรับปรุงคลองยม-น่าน จ.สุโขทัย พร้อมชง ครม.อนุมัติทันที
    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 19 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 4/2561 เพื่อติดตามความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ทรัพยากรน้ำที่ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว และกำลังเข้าสู่ขั้นตอนการปรับปรุงแผนให้สอดคล้องกับการปฏิรูปประเทศ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บท 20 ปี ที่จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ในกลางเดือน ม.ค.2562
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอให้คณะกรรมการชุดต่างๆ พิจารณาให้ครอบคลุมและเสนอข้อคิดเห็นขึ้นมา เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำของประเทศ มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการวางแผนเพื่ออนาคตให้สามารถนำน้ำมาใช้ประโยชน์ได้ในทุกมิติ ทั้งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค การเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และพื้นที่เพาะปลูกแบบอินทรีย์ตามที่วางแผนไว้ ครอบคลุมไปถึงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยในระยะยาว ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ภายใน 1 ถึง 2 ปี เพื่อให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
    ขณะที่นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้วิเคราะห์โครงการขนาดใหญ่-โครงการสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการปี 2562-2565 พบยังไม่สามารถขับเคลื่อนโครงการได้ทั้งหมดตามที่ระบุในแผนแม่บทฯ น้ำภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ เช่น ในปี 2563 มีงบผูกพันต่อเนื่องมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งการคาดการณ์กรอบงบประมาณแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำประมาณปีละ 63,000 ล้านบาท แต่มีความต้องการงบประมาณมากถึงแสนล้านบาท จึงมอบสำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังพิจารณาหาแนวทางอื่นให้สามารถขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญที่อยู่ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปีให้เกิดขึ้นโดยเร็ว 
    ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการขนาดใหญ่ที่สำคัญ 2 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองเปรมประชากร กรุงเทพมหานคร วงเงิน 9,800 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ปี 2563-2569 ซึ่งเป็นโครงการที่แก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในเขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม และบางเขน รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียง โดยอุโมงค์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.70 เมตร 1 แห่ง ความยาว 13.5 กม. อาคารรับน้ำ 4 แห่ง และสถานีสูบน้ำและอาคารระบายน้ำขนาด 60 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำในเขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม และบางเขน ครอบคลุมพื้นที่ 109 ตารางกิโลเมตร 2
    นอกจากนี้ 2.โครงการปรับปรุงคลองยม-น่าน จ.สุโขทัย เพื่อบรรเทาอุทกภัย และเป็นแหล่งเก็บกักน้ำต้นทุน พร้อมทั้งส่งน้ำอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศ วงเงิน 2,875 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ ปี พ.ศ.2563-2567 ซึ่งโครงการนี้เป็นการปรับปรุงคลองหกบาท จากเดิมเพิ่มอีก 1 เท่าตัวเป็น 500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และการปรับปรุงคลองยม-น่าน ให้สามารถระบายน้ำได้ 300 ลูกบาศก์เมตร/วินาที พร้อมด้วยการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารประกอบตามแนวคลองส่งน้ำ ความยาวรวม 42 กิโลเมตร เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะสามารถบรรเทาปัญหาอุทกภัยในตัวเมืองสุโขทัยในฤดูฝน ตลอดจนเก็บกักน้ำในคลองไว้ใช้ประโยชน์บริเวณ 2 ฝั่งคลองตลอดสายในระหว่างฝนทิ้งช่วงฤดูแล้ง ครอบคลุมพื้นที่รับประโยชน์ 7,300 ไร่ 
    ทั้งนี้ สำหรับ 2 โครงการดังกล่าว จะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติเปิดโครงการและงบประมาณต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"