ใกล้ช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ “ช็อกโกแลต” (Chocolate) จัดเป็นของขวัญยอดนิยมที่คนมักจะซื้อหาให้กัน เพราะช็อกโกแลตถือเป็นอาหารยอดนิยมอย่างยาวนานในหลายประเทศ และมีการพัฒนาสูตรการผลิตออกไปอย่างมากมายและหลากหลาย ทำให้ครองใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่แทบทุกคนที่ได้ลองลิ้มรส จนกลายเป็นคำยอดฮิตติดปากหลายคนว่า “ช็อกโกแลตจะเยียวยาทุกสิ่ง” แต่ถึงอย่างไรก็ตามเมื่อรับประทานกันมากขึ้น คำถามถึงประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพจึงเกิดขึ้นตามมา ในบรรดาช็อกโกแลตหลากหลาย

      ช็อกโกแลตที่มีในปัจจุบัน ชนิดที่ได้รับการยอมรับและมีรายงานว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุดคือ ช็อกโกแลตชนิดดำ (Dark chocolate) ซึ่งมีความแตกต่างจากชนิดอื่นๆคือ การผสมนมวัว วานิลลา เพื่อให้สีและกลิ่นน่าดื่ม โดยช็อกโกแลตชนิดดำนี้จะมีโกโก้มากกว่า หรือเท่ากับ 70-80% ของปริมาณทั้งหมด และมักเก็บในรูปเป็นแท่ง เมื่อนำมาดื่มก็จะเอามาละลายและทำให้อุ่น ปกติแล้วจะมีรสชาติขมมาก จึงต้องอาศัยการปรุงรสพอควร

      กับรสชาติแสนอร่อยที่มีประโยชน์นั้น ทีมแพทย์โรงพยาบาลในเครือบริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด ได้ให้ข้อมูลว่า “อันดับแรก “ผลดีต่อการทำงานของหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต” มีงานวิจัยที่พบว่าสารเคมีที่ชื่อ flavanols ในช็อกโกแลตชนิดดำนั้นช่วยกระตุ้นให้ผนังหลอดเลือดแดง (arteries) มีความยืดหยุ่นมากขึ้นซึ่งมีผลทำให้ความดันโลหิตลดต่ำลงได้เล็กน้อย ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้เม็ดเลือดขาวยึดเกาะกับผนังหลอดเลือดมากเกินไป ซึ่งเป็นการช่วยลดการเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตัน

      รองลงมาคือ “ผลดีในการลดความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดสมองตีบตัน” (Stroke) เนื่องจากมีงานวิจัยที่ทำในประเทศฟินแลนด์พบว่า ในคนที่รับประทานช็อกโกแลตนั้นมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบตันลดลงประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ย นับเป็นเรื่องที่หมอคิดว่าน่าสนใจมากครับ แต่ทั้งนี้เราคงต้องรอผลงานวิจัยเพิ่มเติมกันต่อไป นอกจากนี้ ในช็อกโกแลตยัง “เต็มเปี่ยมด้วยใยอาหารและแร่ธาตุที่มีประโยชน์” เนื่องจากในช็อกโกแลตชนิดดำที่มีคุณภาพดี คือมีปริมาณผงโกโก้อยู่ที่ 70-85% นั้น จะประกอบด้วยใยอาหารและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายครับ ยกตัวอย่างเช่น ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม ทองแดง โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสีและซีรีเนียม นอกจากนี้ ในโกโก้ของช็อกโคแลตนั้นยังมีสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทช่วยให้ตื่นตัวคล้ายกับกาเฟอีน แต่ให้การตื่นตัวน้อยกว่ามาก

      ที่สำคัญ “ช็อกโกแลตชนิดดำสามารถเพิ่มระดับไขมันชนิดดี” (HDL) และลดระดับไขมันชนิดไม่ดี (LDL)ในงานวิจัยพบว่าผงโกโก้ สามารถลดระดับไขมันชนิดไม่ดีคือ LDL ลงได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ทั้งนี้ยังสามารถเพิ่มระดับไขมันชนิดดี คือ HDL ขึ้นได้ด้วย ซึ่งส่งผลให้ไขมันชนิดไม่ดีนั้นสามารถทำอันตรายผนังหลอดเลือดแดงในหัวใจของเราได้น้อยลง นอกจากนั้นยังพบว่าช็อกโกแลตชนิดดำสามารถลดระดับภาวะการดื้อต่ออินซูลินลงได้ด้วย ซึ่งสิ่งนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นสาเหตุสำคัญต่อการเกิดโรคเบาหวานและโรคหัวใจอีกด้วย

      รวมถึง “ช็อกโกแลตมีผลดีต่อผิวหนัง” เพราะมีการพบว่าสาร flavonols ในช็อกโกแลตสามารถป้องกันผิวหนังของเรา จากความเสียหายหลังการสัมผัสกับแสงแดดที่รุนแรง เพิ่มความสามารถในการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงผิวหนัง ทั้งนี้ยังสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังได้อีกด้วย สิ่งเหล่านี้คงมีประโยชน์มากนะครับในเมืองร้อนอย่างบ้านเรา ที่ลืมไม่ได้ช็อกโกแลตยังช่วย “เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง” มีงานวิจัยหนึ่งแสดงให้เห็นว่า การรับประทานช็อกโกแลตที่มีสาร flavanol ในผงโกโก้ในขนาดสูงจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงสมอง นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในด้านความจำในผู้สูงอายุที่ปัญหาด้านความจำอีกด้วย โดยเชื่อว่าเป็นเพราะการที่โกโก้นั้นมีสารกระตุ้นระบบประสาทคล้ายกาแฟนั่นเอง

      ปิดท้ายกันด้วย “อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ” ในเรื่องนี้มีงานวิจัยหลายงานวิจัยที่สมาคมแพทย์โรคหัวใจอเมริกา AHA อ้างถึง โดยเฉพาะสาร flavonoids นับว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม โดยพบว่าในช็อกโกแลตชนิดดำมีปริมาณสูงมากเมื่อเทียบกับผลไม้ต่างๆ รวมถึงคู่แข่งอย่างชาเขียวครับ ซึ่งสารนี้มีผลในการลดความดันโลหิต ทำให้การทำงานของฮอร์โมนอินซูลินดีขึ้น และมีวารสารที่กล่าวถึงการลดการอักเสบในร่างกายได้มากมาย

      แต่ทั้งนี้ก็ควรบริโภคช็อกโกแลตตามทางสายกลางดีที่สุด เนื่องจากช็อกโกแลตเองก็ยังจัดเป็นอาหารที่ให้พลังงานในระดับสูงเช่นกัน และที่สำคัญหากได้ลิ้มรสแล้วก็ยากที่จะหยุด นอกจากนี้อย่าลืมว่าช็อกโกแลตที่ได้รับการแนะนำว่ามีประโยชน์นั้นคือ “ช็อกโกแลตชนิดดำ” ซึ่งมักมีรสชาติค่อนข้างขม อาจไม่ได้อร่อยเหมือนช็อกโกแลตชนิดอื่นๆ ทั่วไป.