18 ธ.ค.61 -  พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่าขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองประชาชรประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ ความแตกแยก และส่อเค้าทุจริต ด้วยอำนาจรัฐประหารที่เข้ามาบริหารประเทศเป็นเวลาเกือบ5 ปี  หากต้องการเห็นประเทศชาติจะหลุดพ้นจากสถานการณ์ดังกล่าวนี้ ประชาชนต้องออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะ โดยเฉพาะตัวเองกล้าสู้กับเผด็จการทหาร ถ้าไปเลือกพรรคที่ไม่กล้าปราบทหาร มันไม่มีทางที่จะไปรอด

“หากประชาชนต้องการให้ผมเป็นนายกฯ ก็ขอให้เลือกผู้สมัครพรรคเสรีรวมไทย ผมจะจัดการเผด็จการทหารให้ดู อย่างที่เคยพูดไว้ต้องเชื่อมั่น คนอย่างผม พูดคำไหน คำนั้น ไม่มีเปลี่ยนแปลง"

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า หากเลือกตนจะแตกต่างจากแคนดิเดตนายกฯคนอื่นๆ   ไม่เชื่อลองนึกดูหากเลือกนายชวน หลีกภัย หรือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนใดคนหนึ่งในนามพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกฯ ถามว่าบ้านเมืองจะเป็นเช่นเดิมหรือไม่  หากเลือกพรรคเพื่อไทยชูคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นนายกฯ ก็เหมือนเดิม  พรรคภูมิใจไทย เลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ บ้านเมืองก็เหมือนเดิม  แต่หากพลังประชารัฐ เลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็นนายกฯอีกครั้งแย่กว่าเดิม เพราะปัจจุบันบริหารประเทศโดยไม่มีฝ่ายค้าน และมีมาตรา 44 ยังทำให้คนจนลงทั้งประเทศ  แล้วหากเข้ามาบริหารประเทศต้องเจอฝ่ายค้านจำนวนมาก และ ตนด้วยมีหวังเรียบร้อยคารัฐสภา

“ถ้าได้ผมเป็นนายกฯรับรองไม่เหมือนเดิม ดูได้จากสมัยเป็นผบ.ตร. ผมไม่มีอะไรเลย ทำงานแต่ปีเดียว ตำรวจยังบอกว่าเป็นอธิบดีทำงานได้เกือบเท่า อธิบดีเผ่า  (พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ)  และในวงการตำรวจเรียกผมว่าเบอร์สองรองจากอธิบดีเผ่า ที่ขณะนั้นท่านอธิบดีเผ่าเป็นอธิบดีตำรวจ  เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย   เป็นเลขาธิการพรรคเสรีมนังคศิลา เรียกได้ว่ารองแค่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เท่านั้น และท่านสร้างวงการตำรวจให้เจริญก้าวหน้ามาก กลับมาที่ตัวผมวันนี้ไม่มีอำนาจอะไรเลย แต่ถูกมองว่าความสามารถเบอร์สองรองจากอธิบดีเผ่า ดังนั้นหากมีโอกาสบริหารประเทศ คนที่เอยชื่อจะมาเป็นนายกฯ ไม่ต้องมาเทียบผมและหากผมได้10 ล้านเสียงจะเปลี่ยนประเทศให้ดู”หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว .