ฝนถล่มนครศรีธรรมราช น้ำท่วมหนัก รถไฟประกาศหยุดวิ่งหลายขบวน ขณะที่ทางหลวงในนครศรีฯ สุราษฎร์ฯ และพัทลุง รวม 8 เส้นทางน้ำท่วม ปภ.รายงานสถานการณ์ 3 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 1.6 แสนคน สูญหาย 1 รายเป็นเด็กชายวัย 10 ขวบ บิ๊กป้อมสั่งทุกเหล่าทัพออกช่วยผู้ประสบอุทกภัยเร่งด่วน
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมนี้ ฝ่ายประชาสัมพันธ์การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า เนื่องด้วยมีฝนตกหนักในภาคใต้ ส่งผลให้พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. ถึงวันที่ 17 ธ.ค. มีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้มีน้ำเข้าท่วมทางรถไฟระหว่างสถานีโคกคราม-นครศรีธรรมราช ทำให้ขบวนรถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ การรถไฟฯ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงการเดินขบวนรถโดยสารสายนครศรีธรรมราช ดังนี้ ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ขบวนรถออกต้นทางที่สถานีชุมทางทุ่งสง ช่วงนครศรีธรรมราช-ชุมทางทุ่งสง งดเดิน ขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์จากสถานีนครศรีธรรมราชมาขึ้นรถที่สถานีชุมทางทุ่งสง ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ขบวนรถออกต้นทางที่สถานีชุมทางทุ่งสง ช่วงนครศรีธรรมราช-ชุมทางทุ่งสง งดเดิน ขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์จากสถานีนครศรีธรรมราชมาขึ้นรถที่สถานีชุมทางทุ่งสง ขบวนรถท้องถิ่นที่ 451 นครศรีธรรมราช-สุไหงโก-ลก ออกต้นทางสถานีชุมทางเขาชุมทอง ช่วงสถานีนครศรีธรรมราช-ชุมทางเขาชุมทอง งดเดิน ขบวนรถท้องถิ่นที่ 456 ยะลา-นครศรีธรรมราช เดินรถถึงสถานีพัทลุง ช่วงพัทลุง-นครศรีธรรมราช งดเดิน และขบวนรถท้องถิ่นที่ 455 นครศรีธรรมราช-ยะลา ออกต้นทางสถานีพัทลุง ช่วงนครศรีธรรมราช-พัทลุง งดเดิน
ขณะที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า ตามที่ได้มีฝนตกหนักทางภาคใต้ ทำให้เกิดน้ำท่วมบนทางหลวงสายต่างๆ ทั้งสิ้น 3 จังหวัด จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดพัทลุง และมีดินสไลด์ 1 แห่ง ซึ่งทุกเส้นทางการจราจรสามารถผ่านได้ ดังนี้ จังหวัดนครศรีธรรมราช 3 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 403 นครศรีธรรมราช-เสาธง อำเภอพระพรหม ช่วง กม.ที่ 10-11 ระดับน้ำสูง 15-20 ซม. ทางหลวงหมายเลข 403 เสาธง-สวนผัก อำเภอร่อนพิบูลย์ ช่วงกม.ที่ 15-19 ระดับน้ำสูง 15 ซม. ทางหลวงหมายเลข 4151 ควนหนองหงส์-น้ำตก อำเภอควนหนองหงส์ ช่วง กม.ที่ 30-31 ระดับน้ำสูง 5 ซม.
จังหวัดสุราษฎร์ธานี 4 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 401 บางกุ้ง-เขาหัวช้าง อำเภอกาญจนดิษฐ์ ช่วง กม.ที่ 117-118 และ กม.ที่ 183-184 ระดับน้ำสูง 5 ซม. ทางหลวงหมายเลข 4248 ท่าเรือใต้-เขาหัวควาย อำเภอพุนพิน ช่วง กม.ที่ 11-12 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 4170 สระเกศ-หัวถนน อำเภอเกาะสมุย ช่วง กม.ที่ 0-1 และ กม.ที่ 14 ระดับน้ำ สูง 10-20 ซม. ทางหลวงหมายเลข 4191 ไชยา-เขาหลัก อำเภอไชยา ช่วง กม.ที่ 2-3 ระดับน้ำสูง 5 ซม.
จังหวัดพัทลุง 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 4187 สี่แยกโพธิ์ทอง-ควนขนุน อำเภอควนขนุน ช่วง กม.ที่ 1-2 ระดับน้ำสูง 5 ซม. จังหวัดเพชรบูรณ์ 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 12 น้ำดุก-ห้วยซำมะคาว อำเภอหล่มสัก เกิดเหตุดินสไลด์ช่วง กม.ที่ 376 การจราจรผ่านได้ 1 ช่องจราจร
ส่วนกรมทางหลวงชนบท (ทช.) แจ้งว่า ขณะนี้มีถนนทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม จำนวน 4 สายทาง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช สามารถสัญจรผ่านได้ 2 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 2 สายทาง ดังนี้ ถนนทางหลวงชนบทสาย นศ.2034 แยก ทล.41-บ้านก้างปลา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช (ดินไหล่เขาสไลด์ สามารถสัญจรผ่านได้) ถนนทางหลวงชนบทสาย นศ.3024 แยก ทล.403-บ้านกะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช (สามารถสัญจรผ่านได้) ถนนทางหลวงชนบทสาย นศ.3109 แยก ทล.403-ถนนเทวบุรี อ.พระพรหม, เมือง จ.นครศรีธรรมราช (น้ำท่วมสูง 35 ซม. ไม่สามารถสัญจรผ่านได้) ถนนทางหลวงชนบทสาย นศ.4002 แยก ทล.4224-บ้านทานพอ อ.พิปูน, ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช (น้ำท่วมสูง 40 ซม. ไม่สามารถสัญจรผ่านได้)
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และพัทลุง รวม 28 อำเภอ 111 ตำบล 528 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 52,963 ครัวเรือน 166,513 คน สูญหาย 1 ราย ประกอบด้วย
นครศรีธรรมราช น้ำท่วมพื้นที่ 17 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ชะอวด พิปูน ช้างกลาง สิชล นบพิตำ ท่าศาลา พระพรหม ร่อนพิบูลย์ ลานสกา พรหมคีรี จุฬาภรณ์ ขนอม ทุ่งสง ปากพนัง เฉลิมพระเกียรติ และอำเภอเชียรใหญ่ รวม 77 ตำบล 377 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49,840 ครัวเรือน 155,862 คน สูญหาย 1 ราย ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าฉาง ไชยา เกาะสมุย เมืองสุราษฎร์ฯ กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก และอำเภอท่าชนะ รวม 25 ตำบล 110 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,123 ครัวเรือน 10,651 คน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
พัทลุง น้ำท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกงหรา ควนขนุน เมืองพัทลุง และอำเภอเขาชัยสน รวม 9 ตำบล 41 หมู่บ้าน อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจความเสียหาย ปัจจุบันระดับน้ำลดลง นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 17-19 ธันวาคมนี้ มีพื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
พื้นที่เฝ้าระวังดินโคลนถล่ม ได้แก่ ชุมพร (อำเภอสวี อำเภอท่าแซะ อำเภอหลังสวน อำเภอละแม อำเภอปะทิว อำเภอพะโต๊ะ และอำเภอทุ่งตะโก) สุราษฎร์ธานี (อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอวิภาวดี อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอท่าฉาง อำเภอคีรีรัฐนิคม และอำเภอเกาะสมุย) และนครศรีธรรมราช (อำเภอสิชล อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอท่าศาลา อำเภอขนอม อำเภอนบพิตำ อำเภอลานสกา อำเภอพิปูน และอำเภอพรหมคีรี)
พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ตรัง และสตูล
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผวจ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช ประชุมคณะทำงานส่วนสนับสนุนการปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉิน (สปฉ.) ในระดับพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนี้ น้ำป่าที่ไหลบ่าเข้าท่วมในเขตย่านเศรษฐกิจของเขตตัวเมืองนครนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เมื่อคืนวันอาทิตย์ ยังคงทรงตัว โดยเฉพาะบนถนนย่านพัฒนาการคูขวาง ร้านค้านับร้อยหยุดให้บริการ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าการจราจรเป็นไปอย่างติดขัด เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูงเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร บ้านเรือนประชาชนในย่านดังกล่าวต่างถูกน้ำท่วม
มีรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ โรงเรียนในจังหวัดนครศรีธรรมราช พื้นที่ 16 อำเภอรวม 35 แห่ง ประกาศหยุดเรียนชั่วคราว โดยส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนในเขตพื้นที่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช อาทิ โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช โรงเรียนเบญจมราชูทิศ โรงเรียนท่านครญาณวโรภาสอุทิศ โรงเรียนท่าศาลาประสิทธิ์ศึกษา
ส่วนการค้นหา ด.ช.ศุภกิจ ไชยคง อายุ 10 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 3 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด ที่ถูกกระแสน้ำพัดหายตกลงไปในห้วย ณ บ้านมาบเอื้อง หมู่ 2 ต.วังอ่าง เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างค้นหา แต่ยังไม่พบตัว โดยพบเพียงรองเท้าและเสื้อของเด็กที่ใส่ตะกร้ารถจักรยานลอยอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไม่มากนัก
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สั่งการให้ทุกเหล่าทัพนำกำลังพลและเครื่องมือช่างเร่งเข้าไปให้การช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่หลายจังหวัดภาคใต้ ได้แก่ นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, พัทลุง, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส ตรังและสตูล รวมทั้ง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีคลื่นลมแรงและระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวงกว้าง มีประชาชนได้รับผลกระทบแล้วกว่า 15,000 ครอบครัว
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 15 ว่ามรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ในบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |