อุตุฯ ประกาศภาคใต้ยังมีฝนกตกหนัก อ่าวไทยคลื่นสูง 2-3 เมตร นครศรีธรรมราชฝนตกไม่หยุด ผู้ว่าฯ สั่ง ปภ.ออกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ อ.ทุ่งสง ย่านเศรษฐกิจอ่วม ลานสกา นบพิตำ ขนอมก็สถานการณ์ไม่ดี พัทลุง ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ อ.กงหราสั่งช่วยชาวบ้านถูกน้ำท่วม สุราษฎร์ธานี ตัวเมืองถูกน้ำท่วม เช่นเดียวกับที่ อ.ดอนสัก
    ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง "ฝนตกหนัก คลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 17 ธันวาคม 2561)" ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2561
    1.ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้ โดยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบดังนี้ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2561 บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล
    ในวันที่ 17 ธันวาคม 2561 บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล สำหรับคลื่นลมมีกำลังแรง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณทะเลอันดามัน ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก (ฝั่งอ่าวไทย) ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 17 ธันวาคม 2561
    2.อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 16-17 ธันวาคม 2561 บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป กับมีลมแรง บริเวณเทือกเขาสูงมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-15 องศาเซลเซียส โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง
    สภาพอากาศในภาคใต้ยังมีฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่กลางดึกย่างเข้าวันอาทิตย์จนถึงเช้าวันเดียวกัน เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยในเขตเมืองนครศรีธรรมราชฝนยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำท่วมผิวการจราจรหลายจุด เพราะระบบระบายน้ำไม่คล่องตัวเท่าที่ควร ขณะที่หลายหน่วยงานได้แจ้งเตือนผ่านระบบสื่อสารทุกช่องทาง โดยเฉพาะทางโซเชียลมีเดีย พร้อมทั้งการรายงานสถานการณ์ระดับน้ำและปริมาณฝนในอำเภอต่างๆ นอกจากนี้ ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากในบริเวณเส้นทางน้ำจากเทือกเขาหลวงหลายจุด เช่น บริเวณธารน้ำตกท่าหา ต้นน้ำท่าดี บ้านคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา แต่สถานการณ์ยังไม่รุนแรง เนื่องจากพื้นที่ลุ่มต่ำยังสามารถรับน้ำได้ ขณะที่หลายจุดเริ่มมีภาวะน้ำล้นตลิ่ง ทุกหน่วยงานเตรียมกำลังและความพร้อมในการเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันที 
    นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งการให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช และหน่วยงานที่รับผิดชอบ เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมอพยพชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย โดยที่ อ.ทุ่งสง น้ำป่าจากยอดเขาเหมน เขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง ไหลเข้าท่วมถนนย่านเศรษฐกิจสำคัญ ระดับน้ำในคลองสายต่างๆ ล้นทะลักท่วมถนนชนปรีดา เขตเทศบาลเมืองทุ่งสง ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร การสัญจรค่อนข้างลำบาก ขณะที่ อ.ลานสกา มวลน้ำป่าจากเทือกเขาหลวงได้ไหลบ่าลงผ่านคลองท่าหา และคลองท่าดี และจะไหลเข้าสู่พื้นที่ อ.พระพรหม และ อ.เมือง ด้าน อ.นบพิตำ เกิดน้ำป่าไหลเต็มคลองกลาย ระดับน้ำสูงและท่วมหลายพื้นที่ เช่นเดียวกับ อ.ขนอม มีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน
    ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์อุทกภัย จังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดฝนตกหนักในวันที่ 14-15 ธ.ค.61 วัดปริมาณฝนสะสม ที่ อ.ขนอม รวม 129.5 มม. และที่ อ.จุฬาภรณ์ 109.0 มม. ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.พรหมคีรี อ.นบพิตำ อ.ขนอม อ.สิชล อ.ลานสกา อ.ปากพนัง และ อ.ท่าศาลา ปัจจุบันคลองท่าดีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.34 ม. และคลองต่างๆ มีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้น สำหรับการช่วยเหลือและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่น้ำท่วม โครงการชลประทานจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในเขตอำเภอเมือง จำนวน 8 เครื่อง และที่ อ.ปากพนัง ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 5 เครื่อง พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ โดยที่สถานี อ.เมืองนครศรีธรรมราช ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
    พัทลุง ฝนตกตลอดทั้งคืนจนถึงเช้าเช่นเดียวกัน นอกจากนี้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดบวกกับน้ำฝนที่ตกลงมา ทำให้เกิดน้ำป่าก้อนใหญ่หลากลงมาท่วมยังพื้นที่ด้านล่างในพื้นที่ ต.ชะรัด อ.กงหรา โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 8 ต.ชะรัด น้ำป่าที่ไหลลงมาตามลำคลองทรายขาว ผ่านคลองพญาโฮ้ง ได้ไหลหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตร สวนยาพารา สวนไม้ผล เส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้าน โดยบางจุดมีระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร ขณะที่ชาวบ้านหลายครอบครัวขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงไม่ทัน จมน้ำได้รับความเสียหาย และเวลาเดียวกัน น้ำที่ท่วมในพื้นที่ดังกล่าวยังเพิ่มระดับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและกำลังขยายวงกว้างขึ้น 
    ส่วนที่ อ.ควนขนุน น้ำจากพื้นที่ อ.ศรีบรรพต ไหลท่วมถนนสายพัทลุง-ศรีบรรพต บริเวณสี่แยกโพธิ์ทอง สูงประมาณ 30 เซนติเมตร และท่วมวัดล้อ ต.ชะมวง รวมทั้งเอ่อท่วมถนนในเขตเทศบาลตำบลควนขนุน น.ส.สรอนงค์ สงสมพันธุ์ นายอำเภอควนขนุน ออกแจ้งเตือนชาวบ้านในพื้นที่ ต.ชะมวง ต.ควนขนุน ต.ดอนทราย เร่งอพยพสิ่งของขึ้นที่สูง เนื่องจากระดับน้ำจากฝายท่าแนะในพื้นที่ ต.เขาย่า อ.ควนขนุน มีปริมาณเพิ่มและน้ำล้นสปิลเวย์
    ด้านนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้ลงพื้นที่ ต.ชะรัด อ.กงหรา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งติดตามฝายกันน้ำและประตูเปิด-ปิดน้ำของชลประทาน ให้เปิดบานประตูน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลงทุ่งเลี่ยงกันท่วมบ้านเรือนประชาชนให้มากที่สุด 
    สุราษฎร์ธานี เกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 15 ธ.ค. ถึงวันที่ 16 ธ.ค. ส่งผลให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้วที่ อ.ดอนสัก 3 ตำบล 5 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 32 ครัวเรือน สภาพน้ำล้นเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน ชาวบ้านต้องรีบขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงเมื่อช่วงกลางดึก ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างสำรวจ นอกจากนี้ พื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ถนนสายเลี่ยงเมืองขาไปสี่แยกบางกุ้ง เกิดน้ำท่วมเป็นรอบที่ 2 ช่วงหน้า รพ.ค่ายวิภาวดี-หน้าบริษัท โตโยต้า ตาปี มีสภาพเป็นคลอง เนื่องจากน้ำระบายไม่ทัน บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านสวยเฟส 2 ระดับน้ำสูงท่วมล้อรถยนต์ รถเล็กสัญจรได้ยากลำบาก มีรถจอดเสียหลายคัน และถนนโฉลกรัฐ ตั้งแต่หน้าร้านอาหารชิดลม เชื่อมถนนสายเลี่ยงเมือง น้ำเจิ่งนองเต็มถนน ร้านค้าต่างๆ ต้องปิดโดยปริยาย     
    ช่วงหลังค่ายวิภาวดีถึงสี่แยกแยกบางใหญ่มีน้ำท่วมสูง รถยนต์ติดยาวต่อเนื่อง ต้องไปเลี้ยวกลับหน้าที่โรงแรมแก้วสมุยรีสอร์ท เพื่อเลี่ยงไปเส้นทางอื่น และมีรถยนต์จอดเสียหน้าโรงแรมแก้วสมุยรีสอร์ท โดยมีป้ายทะเบียนรถยนต์หลุดกว่า 10 คัน ชาวบ้านที่พบนำไปฝากไว้ที่ป้อมตำรวจสี่แยกบางใหญ่
    นราธิวาส ฝนตกต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ล่าสุดปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งรองรับมวลน้ำป่าจากต้นน้ำในพื้นที่ อ.สุคิริน มีระดับสูงขึ้นจนน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนชุมชนท่าประปา เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จำนวน 15 ครัวเรือน ระดับน้ำสูง 30-50 ซม. และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหากฝนยังไม่หยุดตก สร้างความกังวลให้กับประชาชน เกรงว่าจะเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่เหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา รวมถึงชาวเมืองรันตูปันหยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ซึ่งอาศัยตามแนวชายแดน  ด้านนายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก ได้สั่งกำลังพลอาสาสมัครรักษาดินแดนนำเต็นท์และเรือท้องแบนเตรียมความพร้อมบริเวณชุมชนท่าประปา และให้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนอพยพได้ทันไปยังศูนย์อพยพชั่วคราวภายในอาคารเรียนโรงเรียนเทศบาล 4 และโรงเรียนเทศบาล 1
    สงขลา แม้สถานการณ์จะยังไม่รุนแรง แต่หน่วยราชการก็เตรียมพร้อมเพื่อช่วยเหลือประชาชนหากประสบอุทกภัย อย่างไรก็ตาม ที่บริเวณชายฝั่งทะเลด้าน ต.เขารูปช้าง ที่ทะเลมีคลื่นลมแรง เนื่องจากอยู่ในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ หอยเสียบจะถูกคลื่นซัดมาเกยฝั่งและฝังตัวตามชายหาดกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านย่านนั้นออกไปหาหอยเสียบด้วยการใช้วิธีคราดหอย มีรายได้วันละ 500-600 บาท จากปกติจะอยู่ที่ราว 200-300 บาท.