16 ธ.ค.61- เมื่อเวลา 17.30 น. ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ กลุ่มชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาการสร้างเขื่อน อาทิโครงการฝายราษีไศล, อ่างเก็บน้ำห้วยด่าน , อ่างเก็บน้ำอำปึล  ,โครงการฝายห้วยหลวง , โครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร, เขื่อนสิรินธร, โครงการก่อสร้างเขื่อนน้ำอูน  เดินทางมาปักหลักชุมนุมเพื่อเรียกร้องการแก้ไขจากรัฐบาล ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และ อส. 

ทั้งนี้ในวันที่ 18  ธ.ค.61  คณะจากสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับผู้แทน กระทรวงเกษตรฯ ได้เดินทางมาร่วมประชุมแก้ไขปัญหากับกลุ่มแกนนำฯ ที่ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์  ประกอบด้วย  นายมีศักดิ์ ภักดีคง รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ นายมนัส กำเนิดมณี รองอธิบดีกรมชลประทาน และเจ้าหน้าทีเกี่ยวข้อง

 นายศักดา กาญจนเสน แกนนำกลุ่มชาวบ้าน กล่าวว่า การดำเนินการก่อสร้างเขื่อน และอ่างเก็บน้ำทั้งหลายของรัฐ ทำให้ที่ดินทำกินของเกษตรกรได้รับผลกระทบ ที่ดินทำกินที่ทำกินตามปกติก็ถูกน้ำท่วม ราษฏรก็ไม่สามารถใช้ที่ดินประกอบอาชีพได้ จึงเป็นที่มาของปัญหาความเดือนร้อน ชาวบ้านได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเขื่อนราษีไศล กระทบกว่า 100,000ไร่ เขื่อนอุบลรัตน์ กระทบ 180,000 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบเพื่อเสนอรับความช่วยเหลือ ตามแนวทางปฎิบัติ 

นายศักดา ระบุว่า การรวมตัวกันวันนี้ของชาวบ้านทีประสบปัญหาเพื่อเป็นการกระตุ้น เพราะว่าตลอดระยะเวลา 3-4 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล คสช. ราชการและหน่วยงานค่อนข้างล่าช้า ยังไม่มีการเสนอคณะรัฐมนตรี  โดยก่อนหน้านี้ ชาวบ้านจะไปรวมตัวกันหน้ากระทรวงเกษตรฯ แต่ทางทำเนียบรัฐบาล ได้ต่อรองให้มาคุยกันก่อนที่นี่ หากยังไม่มีความคืบหน้าค่อยเข้ากรุงเทพฯ  ตนเองอยากสื่อสารผ่านสื่อมวลชนว่า ท่านมาเป็นนายกรัฐมนตรีปกครองประเทศนี้ 4-5 ปีแล้ว ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในส่วนนี้ ไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรีทราบหรือไม่ว่ายังมีความเดือดร้อนเรื่องเหล่านี้อยู่ 

"อยากให้นายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอแก้ไขปัญหาโดยเร็ว เพราะอำนาจในการแก้ไขปัญหาอยู่ที่คณะรัฐมนตรี ตามที่ท่านนายกฯ กล่าวว่า “จะไม่ทิ้งใครเอาไว้ข้างหลัง” แต่วันนี้พวกเราถูกทิ้งมานานหลายปีแล้วและหากไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาทางกลุ่มจะมีการยกระดับในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญให้ถึงที่สุด" นายศักดา ระบุ.