ปฏิกิริยาของรัฐบาลจีนต่อการที่สหรัฐฯ สั่งจับ "เมิ่งหวั่นโจว" ลูกสาวเข้าของหวาเว่ย บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ของจีนว่ารุนแรงและเข้มข้นแล้ว
ก็ยังไม่เท่ากับการแสดงออกของคนจีนที่ต่อต้านสหรัฐฯ อย่างกว้างขวาง
จนกลัวกันว่าหากคนจีนในสาขาวิชาชีพต่างๆ เกิดกระแส "ชาตินิยมต่อต้านมะกัน" ขึ้นมาอาจจะนำไปสู่ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ที่คิดไม่ถึงก็ได้
บางคนใน social media จีนเสนอว่า ทางการจีนควรจะตอบโต้ด้วยการสั่งจับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทไฮเทคมะกันบ้าง เช่นอาจมีผู้บริหารของบริษัทสหรัฐฯ บางแห่งเดินทางไปฮ่องกง เจ้าหน้าที่จีนก็อาจจะขอให้ทางการฮ่องกงจับตัวเอาไว้ด้วยข้อหาที่ไม่จำเป็นต้องแจ้งอะไรเป็นทางการ
เหมือนกับที่สหรัฐฯ และแคนาดาไม่ให้รายละเอียดข้อกล่าวหาเมิ่งหวั่นโจวว่าคืออะไรกันแน่
นอกจากจะมีข่าวรั่วออกมาว่าเป็นประเด็นที่โยงถึงการที่หวาเว่ยอาจจะค้าขายกับอิหร่าน อันเป็นการขัดต่อมติของคณะมนตรีความมั่นคงฯ
แต่ก็มีเสียงแย้งว่า CFO ของหวาเว่ยคนนี้เพียงแค่เปลี่ยนเที่ยวบินที่เมืองแวนคูเวอร์ของแคนาดาเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินของแคนาดาด้วยซ้ำไป แต่ทางการแคนาดาก็ไม่ฟังเสียง จัดการรวบตัวเธอเพื่อส่งขึ้นศาลเตรียมจะส่งตัวให้สหรัฐฯ ภายใต้สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกันเลยทีเดียว
คนจีนในหลายวงการต่างก็เดือดร้อนเป็นการใหญ่ เพราะเห็นว่าการกระทำเช่นนี้ของสหรัฐฯ และแคนาดาเป็นการตบหน้ารัฐบาลจีนและคนจีนกันชัดๆ
ทำให้บริษัทเทคโนโลยีของจีนหลายแห่งประกาศว่าให้คนของตนใช้ผลิตภัณฑ์ของหวาเว่ยเท่านั้น
และยังเสนอเงินสนับสนุนช่วยเหลือให้พนักงานซื้อสินค้าของหวาเว่ยด้วยเพื่อเป็นการประกาศจุดยืนช่วยชาติกันอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกันหากคนจีนคนไหนซื้อไอโฟน ผู้บริหารบริษัทจีนนั้นๆ จะตัดโบนัสพนักงานคนนั้น ทั้งนี้เป็นการแสดงพลังต่อต้านการจับกุมเมิ่งหวั่นโจวให้เห็นเป็นประจักษ์ด้วย
ข่าวบอกว่ากลุ่มบริษัทส่านซีลี่อัน ถึงกับออกประกาศว่าจากนี้ไปศูนย์ข้อมูลของของบริษัทจะใช้ผลิตภัณฑ์ของหวาเว่ยเท่านั้น อีกทั้งยังให้ผู้บริหารระดับกลางขึ้นไปใช้โทรศัพท์มือถือของหวาเว่ยอย่างเดียว ส่วนพนักงานของบริษัทนั้นหากซื้อผลิตภัณฑ์ของหวาเว่ย บริษัทจะควักกระเป๋าสนับสนุนเงินช่วยเหลือ 20% ของราคาตามใบเสร็จ
ไม่แต่เท่านั้น บริษัทท่องเที่ยวในเครือของบริษัทนี้จะจัดการประกวดภาพถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือของหวาเว่ยในต้นปีหน้าอีกด้วย
ให้รู้กันไปว่ามะกันจะมากลั่นแกล้งรังแกจีนไปถึงไหน
อีกบริษัทหนึ่งชื่อเฉิงตูหร่วนอี้ต๋า ก็มีคำประกาศแจ้งให้พนักงานใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์หวาเว่ยเท่านั้นอีกเช่นกัน และระบบสำรองข้อมูลของบริษัทก็ให้ใช้ระบบ Huawei Cloud แทนระบบของต่างชาติ
แถมบริษัทจะสนับสนุนเงินช่วยเหลือ 15% สำหรับพนักงานหากซื้อผลิตภัณฑ์ของหวาเว่ย แต่จำกัดให้ไม่เกินคนละ 2 เครื่อง เพื่อไม่มีการฉวยโอกาสทำมาค้าขายกับนโยบายเฉพาะกิจเพื่อแสดงความรักชาติครั้งนี้
มาตรการที่บรรดาบริษัทจีนนำมาใช้ มีทั้งจำกัดให้ใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของหวาเว่ย ยกเว้นเทคโนโลยีที่ไม่สามารถทดแทนได้
แต่ก็ระบุว่าในการจัดซื้อของบริษัทให้พิจารณาผลิตภัณฑ์ของหวาเว่ยก่อนทางเลือกอื่น
บางบริษัทออกมาตรการเข้มข้นกว่านั้นอีก
บริษัทเมิ่งไพ่เทคโนโลยี คู่ค้ารายสำคัญของหวาเว่ยประกาศชัดแจ้งว่า หากพนักงานซื้อโทรศัพท์ไอโฟนหรือสินค้าของเครือข่าย Apple จะถูกตัดเงินโบนัสเท่ากับราคาสินค้าที่ซื้อด้วย
ให้มันรู้ว่าไผเป็นไผ
บริษัทเดียวกันนี้บอกว่า ถ้าพนักงานหรือผู้แทนการค้าคนไหนสามารถได้คำสั่งซื้อสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐจะได้รับโบนัส 2 เท่าอีกด้วย
คนจีนไม่น้อยเชื่อว่าการจับผู้บริหารของหวาเว่ยครั้งนี้ป็นส่วนหนึ่งของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน จึงจำเป็นที่มวลมหาประชาชนชาวจีนจะต้องร่วมกันต่อต้านการแสดงอำนาจบาตรใหญ่ของสหรัฐ
อีกสาเหตุหนึ่งที่คนจีนจำนวนไม่น้อยเลิกใช้โทรศัพท์ไอโฟนและผลิตภัณฑ์ของ Apple ก็เพราะราคาแพงขึ้นทุกวัน บางคนบอกว่าเทคโนโลยีของสหรัฐ เช่น Apple, Google, Windows ต่างก็มีลักษณะผูกขาดและมีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้เช่นเดียวกัน ไม่ต่างอะไรกับที่มะกันกล่าวหาหวาเว่ย
จึงถึงเวลาที่ชาวจีนควรหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีของตนเองและเลิกอุดหนุนสินค้าอเมริกันได้แล้ว
กระแสต่อต้านอเมริกันในจีนจะแรงขึ้นหากโดนัลด์ ทรัมป์ไม่รีบตัดไฟแต่ต้นลม
แต่ก็หวังได้ยากเพราะทรัมป์คือคนจุดไฟเผาบ้านคนอื่นเสียเอง!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |