หากอยากเป็นเจ้าของหัวใจผู้บริโภค ท่ามกลางพายุการแข่งขันที่โหมกระหน่ำในหลายกลุ่มธุรกิจ แต่ละค่ายย่อมมีกลยุทธ์แตกต่างกันออกไป โดยเป้าหมายก็คงไม่พ้นว่าอยากประสบความสำเร็จ เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ถูกเลือกซื้อและใช้บริการ ในบางครั้งการตลาดแบบลดแลกแจกแถมอาจสร้างความสนใจได้เพียงแค่ชั่วครู่ ไม่ใช่ประตูไปสู่ชัยชนะเสมอไป แต่หากต้องรวมหลายเหตุผลมาประกอบร่วมกัน

รรินทร์ ทองมา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อาเทอแอนด์บุค จำกัด เจ้าของแบรนด์ O&B เล่าว่า การเริ่มธุรกิจของตนเองก็สักช่วง 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นต้องบอกว่าการขายสินค้าผ่านออนไลน์หรือในไอจีอาจยังไม่บูมมากนัก โดยปัจจุบันมีรองเท้าให้เลือกมากกว่า 50 สี เนื่องจากต้องการทำสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภค ผลตอบรับก็ดีมาก เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะรู้ว่าลูกค้าเขาต้องการอะไร จะเรียกว่าเอาตัวเองในฐานะผู้บริโภคนหนึ่งเป็นศูนย์กลางก็ว่าได้ เลยเข้าใจว่าผู้หญิงในเมืองไทยใส่รองเท้าแบบไหน ไปไหน โอกาสอะไรบ้าง หรือแม้แต่ปัจจัยที่จะตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อสินค้าก็ต้องเข้าใจพวกเขา

“เราเดินดูตลาดและพฤติกรรมลูกค้าตั้งแต่ย่านประตูน้ำ จนถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี เพื่อให้เข้าใจลูกค้าทุกระดับ เอาตัวเองเข้าไปคลุกคลี การเป็นลูกค้ามาก่อน ทำให้เราเข้าใจเซนส์ของผู้บริโภค”

รรินทร์กล่าวเสริมว่า จริงๆ การที่ทำเงินมาได้ 400 ล้านบาท ไม่ได้ใช้สมองคิดอย่างเดียว แต่ต้องออกมาจากใจ ทำให้แบรนด์ต่างจากคนอื่น พอช่วงเวลาจะวางแผนธุรกิจ ตอนคิดจะคุยเล่น สนุกสนาน ผ่อนคลายให้มากที่สุด เพราะจะทำให้สามารถกลั่นความคิดที่ดีที่สุดออกมา ใส่ความรู้สึกทุกอย่างเข้าไป มากกว่าแพชชั่นคือระดับความเข้มข้นที่มากกว่าสมองจะคิดได้ และจะทำให้สินค้าขายดีเอง

อีกหนึ่งแบรนด์สินค้าที่แปรรูปมาจากผลไม้ไทย มีผู้บริหารเป็นผู้หญิงเช่นเดียวกัน “ณชา จึงกานต์กุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันนา โกรเซอรีส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลไม้อบแห้งและธัญพืชอบกรอบ ภายใต้แบรนด์ “คันนา” บอกถึงจุดกำเนิดว่า โดยปกติครอบครัวค่อนข้างเป็นคนชอบอาหารเพื่อสุขภาพกันอยู่แล้ว แน่นอนว่าหลังมื้ออาหารจะมีขนมปิดท้ายตลอด แต่เรามองว่ามันเป็นเหมือน Junk Snack มากกว่า ทำไมไม่มีขนมที่ดีต่อสุขภาพ

ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงทำงานในประเทศจีน ก็มีโอกาสเข้าไปซื้อของในร้านค้า แล้วพบว่าสินค้ามีราคาแพงกว่าที่ไทย เลยอยากนำผลไม้ไทยมาแปรรูปเพิ่มมูลค่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ทำให้ผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยเจิดจรัสในต่างแดน คันนาจะต้องเป็นของดีกับตลาดนักท่องเที่ยวที่เลือกซื้อเป็นของฝากกลับไปบ้านเมืองของตนเอง ตอนนี้ตลาดหลักๆ ก็มีจีน เกาหลี ญี่ปุน ฮ่องกง เป็นต้น

“การทำธุรกิจไม่ใช่แค่อยากรวยอย่างเดียว แต่ต้องมีความรักและวิสัยทัศน์ควบคู่กันไปด้วย การเป็นเจ้าของกิจการต้องอุทิศทั้งตัวและหัวใจ เรียกว่าต้องมีสิ่งนั้นอยู่ในวิญญาณเสมอ”

ส่วนกลุ่มธุรกิจร้านอาหารที่การแข่งขันรุนแรงมาโดยตลอด แต่เชื่อว่าหนึ่งในแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภคคงมีชื่อ “บาร์บีคิวพลาซ่า” อย่างแน่นอน ซึ่งผู้สืบทอดกิจการ “ชาตยา สุพรรณพงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารปิ้ง-ย่าง ภายใต้ชื่อ “บาร์บีคิวพลาซ่า” ระบุว่า เข้ามารับไม้ต่อได้ประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว เหมือนกับว่าเป็นช่วงมรสุมพอดี เพราะในอดีตร้านอาหารหลักๆ อาจมีสักแค่หลัก 10 แบรนด์ แต่ตอนนี้มีมากกว่าร้อยเข้าไปแล้ว แลนด์สเคปการแข่งขันเองก็เปลี่ยนไปมาก

แม้การแข่งขันจะเปลี่ยน คู่แข่งเปลี่ยน ลูกค้าเปลี่ยน แต่ทว่าบาร์บีคิวพลาซ่าต้องยังคงความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค ในแง่ของคนไม่ใช่แค่ผู้บริโภค แต่คนที่ว่ายังหมายถึงพนักงานที่เปลี่ยนมากสุดเช่นกัน เมื่อประชากรไทยน้อยลง ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารเติบโตขึ้น ผู้เลือกไม่ใช่บริษัท แต่เป็นพนักงาน หากร้านนี้ไม่รับก็ไปที่อื่นได้

“ตอนเราเข้ามาก็คิดว่าคงทำแบบเดิมไม่ได้อีกต่อไป ต้องเปลี่ยนแปลง จากองค์กรที่คอยขายอาหารปิ้งย่าง สด อร่อย คุณภาพดี เป็นบริษัทที่ส่งมอบความสุขให้กับผู้คน โดยมีมื้ออาหารเป็นสื่อกลาง และการจะสร้างความสุขกับผู้คนได้ดีนั้น ต้องเกิดจากความเชื่อเป็นส่วนผลักดัน”

การเริ่มต้นสร้างความเชื่อกับพนักงาน เพื่อสร้างความสุขไปสู่ลูกค้า เมื่อลูกค้าประทับใจ จะเกิดการบอกต่อไปยังเพื่อนฝูง ธุรกิจก็จะแข็งแรงยิ่งขึ้น ก็จะส่งผลกลับมาให้พนักงานมีความสุข เปรียบเสมือนวงจร หลังจากปรับอะไรหลายๆ อย่างแล้ว เมื่อช่วงตลอด 5 ปีเติบโต 100% มีเป้าหมายอีก 3 ปีต้องมียอดแตะ 6,000 ล้านบาท สุดท้ายคือต้องรู้ว่าเวย์ของคุณคืออะไร ถ้ามีดาวเหนือแล้วคุณจะไม่หลงทาง เพราะตอนนี้มีหลายเส้นทางที่บอกว่าทำแล้วประสบความสำเร็จ หากดาวเหนือสุดท้ายก็จะกลับมาว่าเราคืออะไร.

***รุ่งนภา สารพิน***