เชิญบิ๊กตู่ขึ้นบัญชีนายก รองหัวหน้าพปชร.เปิดไต๋ถึงเวลาหลังปลดล็อก


เพิ่มเพื่อน    

     รองหัวหน้าพรรค พปชร.เผยได้เวลาส่งเทียบเชิญ “ประยุทธ์” ขึ้นบัญชีชิงนายกฯ แล้ว แต่ “ลุงตู่-อุตตม” บอกยังไม่มี ไม่รู้เรื่อง วิษณุแจง “บิ๊กตู่” ไม่สมควรช่วยหาเสียงสุ่มเสี่ยงผิด “จาตุรนต์”  ได้ทีจี้ให้ประกาศเป็นรัฐบาลรักษาการ พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งถึงมือรัฐบาลแล้ว รอจังหวะขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย “บิ๊กป้อม” สวนแม้วแรง เอาตัวให้รอดก่อนมาจุ้นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคใหญ่-เล็ก-หน้าใหม่คึกคักเดินสายแต่ละพื้นที่ “ธนาธร” ฟุ้งโพลกวาดกว่า 50-75 เก้าอี้ เรียกร้องทุกพรรคบอกให้ชัดเรื่องกฎหมายสูงสุด 
    เมื่อวันพฤหัสบดี มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างคึกคัก ภายหลังมีการปลดล็อกให้ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ รวมทั้งการประกาศตัวเป็นนักการเมืองเต็มตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 
    โดยที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย จ.หนองคาย พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 9/2561 ว่าไม่ได้มาทางการเมือง เพราะตราบที่ยังเป็นรัฐบาลอยู่ ย่อมมีหน้าที่เยี่ยมเยียนประชาชน ขออย่ามองเป็นเรื่องการเมืองทั้งหมด ส่วนการเคลื่อนไหวหลังการปลดล็อกนั้น ได้บอกหลายครั้งแล้วว่า หน้าที่ของรัฐบาลคือรักษาความสงบเรียบร้อยก่อนและหลังเลือกตั้ง โดยบ้านเมืองต้องสงบเรียบร้อย ซึ่งมีกฎหมายที่รองรับดูแลอยู่แล้ว เมื่อยกเลิกคำสั่ง คสช.ก็จะปล่อยให้มีเสรีภาพ ดำเนินการอย่างอิสระ แต่ทุกคนควรรู้ว่าบ้านเมืองเราอยู่ในช่วงเวลาใด 
    “ทุกคนมีส่วนรับผิดชอบร่วมกัน ส่วนจะชุมนุมเคลื่อนไหวก็ถือเป็นสิทธิ์ของเขา วันนี้ประชาชนฉลาดแล้ว คงรู้เอง ประชาชนจะเป็นคนตัดสิน ส่วนเจ้าหน้าที่ก็สามารถใช้กฎหมายปกติดำเนินการได้ แต่หลายเรื่องขอเตือนไว้ก่อน ไม่ได้ขู่อะไรทั้งสิ้น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เชื่อว่า หลังปลดล็อกคงไม่มีปัญหา แม้ตอนนี้มีการเคลื่อนไหวบ้าง แต่เป็นเรื่องทางการเมือง ซึ่งเขาให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้แล้ว ใครอยากจะพูดอะไรก็พูด แต่อย่าบิดเบือนแล้วกัน ถ้าไม่บิดเบือนข้อเท็จจริงก็ไม่มีอะไร ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำหน้าที่ของตัวเอง นักการเมืองมีหน้าที่หาเสียงก็หาเสียงไป ไม่เห็นจะเป็นอะไร
     “ไม่เหนื่อย เอาอยู่มา 4-5 ปีแล้ว ไม่มีอะไรหรอก จะให้ตีกันอีกแล้วหรือ ตอนนี้ประชาชนรู้และเข้าใจกันหมดแล้ว ไม่น่ากลัวหรอก ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลทำงานอย่างไร ไม่เห็นน่ากลัวอะไรเลย” พล.อ.ประวิตรระบุ
     นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.สัญจรได้มีการรายงานให้ ครม.ทราบถึงคำสั่งปลดล็อก โดยกำชับให้ผู้ว่าฯ ที่ร่วมประชุม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดูความเรียบร้อยตามกฎหมาย แม้จะมีการปลดล็อกแล้ว 
“บิ๊กตู่”ย้ำยังไม่ถูกเชิญ
    พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวตอบถึงกรณีนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุถึงเวลาแล้วต้องเชิญ พล.อ.ประยุทธ์มาอยู่ในบัญชีที่จะเสนอเป็นนายกฯ ว่าวันนี้เขาเชิญหรือยัง ยังไม่ได้เชิญนี่ เขาบอกสื่อเมื่อไหร่ว่าจะเชิญ เมื่อถึงเวลาเขาก็คงเชิญ เชิญแล้วจะรับหรือไม่ ก็ไม่รู้
ก่อนหน้านี้ นายสุวิทย์กล่าวว่า เมื่อมีการปลดล็อกการเมืองแล้ว คิดว่าน่าจะถึงเวลาที่จะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ได้แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยคุยเรื่องนี้กับ พล.อ.ประยุทธ์ มีเพียงการพูดคุยกันเรื่องงาน
    ส่วนนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ปฏิเสธว่า ไม่รู้ ยังไม่ได้คุย 
ส่วนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ อธิบายถึงการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อได้รับการเสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯ ว่ายังเป็นปกติเช่นเดียวกับทุกคนที่ได้รับการเสนอชื่อ แต่ไม่สมควรไปช่วยหาเสียง แม้จะอยู่เวลานอกราชการ เพราะไม่เหมือน ส.ส.ที่เขาเป็นผู้สมัคร ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อความผิดหลายอย่าง 
    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ต้องรอให้ พล.อ.ประยุทธ์ตอบรับเข้าร่วมกับพรรคการเมืองใด จึงถือว่าเป็นการเข้าสู่การเมืองอย่างเต็มตัว ซึ่งเชื่อว่านายกฯ มีดุลยพินิจพอที่จะทราบว่าขณะที่ยังดำรงตำแหน่งนี้ สิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ 
    ด้านนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า สมพรปากเหอะ ด่านักการเมืองเลวมาตลอด ปฏิเสธว่าไม่เล่นการเมืองมา 5 ปี ใครตั้งพรรค ลุงไม่รู้เรื่อง ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล พอคนหนึ่งเชิญนั่งปุ๊บ อีกคนขอตายคาเก้าอี้ปั๊บทันที เชื่อว่าไม่ได้เตี๊ยมกันมาเลย กอดเก้าอี้ไว้ให้แน่นๆ นะ
ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า ประชาชนทั้งประเทศก็รู้อยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ซึ่งการเปลี่ยนจากกรรมการมาเป็นผู้เล่นจะเหมาะสมหรือไม่นั้น ขอให้ประชาชนตัดสิน
     นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค ทษช. กล่าวว่า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศตัวเป็นนักการเมืองชัดเจนแล้ว สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ควรทำมี 2 เรื่อง คือ 1.ควรประกาศตัวเป็นรัฐบาลรักษาการโดยเร็ว แล้วให้ทุกอย่างอยู่ในความดูแลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ 2.พล.อ.ประยุทธ์ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะไม่ใช้มาตรา 44 แทรกแซงการทำงานของ กกต. และการจัดการเลือกตั้ง 
สำหรับกรณีนายทักษิณเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ให้ ส.ว.มีสิทธิ์เลือกนายกฯ พร้อมให้ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครพูดก็ไปถามเขา มันจะแก้ได้อย่างไร กว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้มันผ่านอะไรมาบ้าง วันนี้รัฐธรรมนูญใช้แล้วหรือยัง ยังไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่เลย เช่นเดียวกับยุทธศาสตร์ชาติ ที่ยังไม่ได้เริ่มเลย เหล่านี้ประกาศใช้เป็นกฎหมาย ทำแทบตาย ออกมาแล้วจะบอกว่าให้ยกเลิก เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของประชาชน ถ้าเห็นว่าไม่เป็นประโยชน์ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเป็นเรื่องของหลักการสากล ทั่วโลกก็ทำแบบนี้
อัด"แม้ว"เอาตัวให้รอด
     พล.อ.ประวิตรกล่าวในประเด็นนี้ว่า รัฐธรรมนูญยังไม่ได้ใช้เลย ก็พูดไป ประชาชนอย่าไปสับสนแล้วกัน  และรัฐธรรมนูญยังไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ขอถามว่ามีอะไรที่รัฐธรรมนูญทำให้เกิดความขัดแย้งแล้วบ้าง  ให้ทำงานไม่ได้ก่อนค่อยมาแก้ 
“นายทักษิณอยู่ที่ไหน เรื่องของเขา เป็นคนที่อยู่นอกประเทศแล้วมาเสนอ ไปแก้ตัว เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ” พล.อ.ประวิตรกล่าวตอบเรื่องข้อเสนอมาจากนายทักษิณ
     นายวิษณุกล่าวสั้นๆ ว่า สามารถทำได้ไม่ผิดกฎหมาย แต่การแก้ไขมันยุ่งยาก
     นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กลับเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองพูดให้ชัดว่าจุดยืนของแต่ละพรรคการเมืองอยู่ที่ไหนในเรื่องรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคชัดเจนว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตย เราต้องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับที่ประชาชนเป็นผู้เขียนเอง
     นายจาตุรนต์กล่าวว่า รัฐธรรมนูญนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างยิ่ง ยืนยันว่าเราจะร่วมกับประชาชนทั้งประเทศแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตย แม้รัฐธรรมนูญจะเขียนป้องกันตัวเองไว้ให้แก้ยาก แต่เราจะเป็นพรรคแรกที่กระโจนลงไปร่วมกับประชาชนแก้
    ส่วนกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรค พท.วิจารณ์ว่าพรรค พปชร.แบ่งเค้กเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ไม่มีความคิดเห็นเรื่องนี้ ไม่รู้จัก ไม่อยากรู้จักสักคน ถ้าพูดสร้างสรรค์ก็ถือว่าดี แต่พูดไม่สร้างสรรค์ก็ไม่อยากรู้จัก แล้วจะมาถามทำไม ไม่ได้เป็นคนพูด
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้า พปชร. กล่าวติดตลกว่า ใครคือคุณเฉลิม ไม่รู้จัก
     ขณะที่นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบ พรรคไม่ได้สนใจเรื่องการต่อรองตำแหน่ง แต่สนใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะนำพาประเทศไปในทิศทางใด เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 
     ส่วนนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรค พปชร. กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ซึ่งในสมัยที่อยู่พรรคไทยรักไทย นายสุริยะและนายสมศักดิ์ก็ไม่เคยต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ผู้นำในขณะนั้นเห็นว่าเป็นคนมีความรู้ความสามารถ จึงเลือกให้เป็น อยากให้ ร.ต.อ.เฉลิมเล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ไม่อยากให้โจมตีกันไปมา เพราะจะทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งไม่เรียบร้อย นำไปสู่ความขัดแย้งอีก 
    สำหรับร่างพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งนั้น นายกฯ ระบุว่า เมื่อถึงเวลาก็จะมีการประกาศผ่านราชกิจจานุเบกษาออกมาเอง ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน พร้อมปฏิเสธให้สัมภาษณ์เรื่องบัตรเลือกตั้งแบบไม่มีชื่อพรรคและโลโก้อย่างอารมณ์เสียว่า “เลิกพูดกันได้แล้ว เรื่องของผม ถามอยู่ได้ซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่นั่น”
รอจังหวะทูลเกล้าฯ ถวาย
    นายวิษณุกล่าวเช่นว่า กกต.ส่งร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ส.ส.มายังรัฐบาลแล้ว ครม.พิจารณาไปแล้ว แต่ยังไม่มีการทูลเกล้าฯ ถวาย ส่วนจะทูลเกล้าฯ ถวายเมื่อใด คงจะรอจังหวะอีกระยะหนึ่ง 
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า กกต.ได้เสนอร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้งให้เลือกตั้งไปยัง ครม.เพื่อพิจารณาและนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ซึ่งหากโปรดเกล้าฯ ในวันที่ 2 ม.ค.2562 ตามที่เสนอ ก็จะเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. ส่วนรูปแบบบัตรเลือกตั้งนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน คาดว่าจะเสนอให้ กกต.พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า 
    วันเดียวกัน มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างคึกคักในหลายพื้นที่ โดยนายอภิสิทธิ์พร้อมคณะได้เดินทางไปพบปะกับสมาชิกพรรคและพี่น้องประชาชนกว่า 1,000 คน ที่สหกรณ์การเกษตรคีรีมาศ อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย โดยยืนยันว่า หลักคิดของ ปชป.คือประชาชนทุกคนต้องมีหลักประกัน ซึ่งพรรคเตรียมนโยบายไว้แล้ว
ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรค พท. พร้อมว่าที่ผู้สมัครของพรรค ได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบสาธารณภัยเพลิงไหม้ ภายในตลาดเทศบาล 3 อำเภอเมือง จ.ศรีสะเกษ รับฟังเสียงสะท้อนจากแม่ค้าที่ศาลหลักเมือง ก่อนไปเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 8 คนของจังหวัด
     ที่ห้องพอร์ทอล บอลรูม เมืองทองธานี พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) จัดประชุมสัมมนาว่าที่ผู้สมัครจากทั่วประเทศ ในหัวข้อ “ทษช.สู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง” โดยมีแกนนำพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยนายจาตุรนต์ยืนยันว่า ทษช.เป็นพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเต็มตัว มีภารกิจสำคัญคือการหยุดการสืบทอดอำนาจ โดยพรรคจะเป็นตัวชี้ขาดให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ 
“วันนี้จะไม่พูดถึงเรื่องนโยบาย เพราะกลัวคนก๊อบปี้ แต่จะพูดแนวความคิดที่สำคัญคือ 1.เราต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศนี้ ต่อระบบนี้ เพราะหากเลือกตั้งแล้วได้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อ ก็สร้างความเชื่อมั่นไม่ได้ เพราะเขาคิดว่าได้รัฐบาลเผด็จการแบบเดิมกลับมา” นายจาตุรนต์ระบุ
นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค ทษช. กล่าวถึงการจัดสรรตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคว่า ภาพรวมเสร็จแล้วประมาณ 70-80% โดยพรรคจะส่งผู้สมัครให้ครบทุกเขต หรือมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ 
     ส่วนที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) นายธนาธรกล่าวว่า ในวันที่ 16 ธ.ค. พรรคจะแถลงนโยบายที่ต้องการเปลี่ยนประเทศให้สาธารณะรับรู้ว่าพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง โดยพรรคได้มีการทำโพลของตัวเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตรงกับที่สำนักอื่นๆ สำรวจ โดยมีความนิยมอยู่ที่ 10-15% ซึ่งคิดเป็น 50-75 ที่นั่งถ้าเลือกตั้งวันนี้ แต่ยังเหลืออีก 70 วันอะไรยังเกิดขึ้นได้ โดยจะใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ที่สุด
     นายธนาธรยังกล่าวในรายการดิเอ๊าท์ไลน์ โดย สุทธิชัย หยุ่น ตอนหนึ่งถึงความสัมพันธ์กับนายสุริยะว่า เสียดายที่อาสุริยะไม่ได้ยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตย ซึ่งแม้เป็นอาหลานกันก็คงไม่เป็นพันธมิตรทางการเมืองกัน
     นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวถึงนโยบายพรรคว่าต้องรอคณะกรรมการนโยบายจัดทำ และประชาชนรับรองจึงประกาศออกมา โดยไม่ทราบว่าจะเป็นช่วงใด ส่วนการส่งตัวผู้สมัคร ส.ส.นั้น จะพยายามให้ครบ 350 เขต แต่อาจติดขัดปัญหาทำไพรมารีในบางพื้นที่
ดารารุ่นเก๋าซบ พ.พ.ช.
     ขณะที่นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ (พ.พ.ช.) กล่าวกับสมาชิกพรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดระนอง ว่าพรรคมีอุดมการณ์แก้ไขปัญหาของชาติ ไม่ใช่แก้ไขให้นายทุน ขณะเดียวกันก็มีนักแสดงรุ่นใหญ่ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิก พ.พ.ช. ทั้งนายสุริยา ชินพันธุ์, นายดามพ์ ดัสกร และนายโกวิท วัฒนกุล ซึ่งแต่ละคนได้รับการวางตัวให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.ในภูมิลำเนา
     มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. นายจตุพร พรหมพันธุ์ กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ ได้กล่าวภายหลังเป็นวิทยากรของสถาบันพัฒนาการเมือง พ.พ.ช.ที่ จ.ระนอง ว่าหากต้องการให้ประเทศชาติสงบเรียบร้อย การเลือกตั้งต้องยุติธรรม เสมอภาค ชัยชนะที่ได้มาโดยมิชอบ ฉ้อฉล จะสร้างความไม่ชอบธรรม และจะนำพาสู่ปัญหาเหมือนการเลือกตั้งเมื่อปี 2500 ที่มีหลายฝ่ายยกตัวอย่างเป็นการเลือกตั้งที่มีความสกปรกฉ้อฉลมากที่สุด
“ประเทศไทยเราเสียหายมากพอแล้ว ทุกฝ่ายควรจะเสียสละเพื่อบ้านเมือง และทุกฝ่ายก็ต้องรู้เหมือนกันว่าประเทศไทยกำลังจะมีพระราชพิธีสำคัญ เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องร่วมมือกัน เสียสละเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบ การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้รัฐบาลที่ดี ที่ถูกต้อง เพื่อรอรับพระราชพิธีที่คนไทยรอคอยอยู่”
     ขณะที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช กองเชียร์ พ.พ.ช.ประเมินว่า หลังเลือกตั้งเสร็จ เชื่อว่าบ้านเมืองยังไม่สงบอยู่ดี เพราะหากมีพรรคชนะถล่มทลาย แต่ปรากฏเจอ ส.ว. 250 เสียงไม่เอาด้วย แล้วไปบวกกับ ส.ส.อีก 126 เสียง ก็สามารถตั้งรัฐบาลได้โดยที่ขืนใจประชาชนก็จะเกิดวิกฤติศรัทธา เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้คำว่าฟรีแอนด์แฟร์หายไป
     ด้านนายธนาธรประเมินว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งประวัติศาสตร์ เราปล่อยให้ประชาชนแพ้ไม่ได้ ถ้าฝ่าย คสช.ชนะ ประเทศจะต้องอยู่กับการปกครองในระบบ คสช.ไปอย่างน้อยอีก 4-20 ปี ซึ่งเท่ากับอายุคนหนึ่งรุ่นที่จะสูญหายไป ไม่เช่นนั้นเราจะอยู่ในขุมนรกไปอีกอย่างน้อย 4 ปี
     มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในพื้นที่ จ.นครราชสีมา หลังมีการปลดล็อก โดยพบว่ามีเจ้าหน้าที่ทูตจากประเทศเยอรมนีได้เดินทางไปพบปะกับอดีต ส.ส.นครราชสีมาหลายสมัยหลายคน อาทิ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีต ส.ส.พรรคชาติพัฒนา, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง และในอีก 1-2 สัปดาห์จะมีเจ้าหน้าที่ทูตของสหรัฐอเมริกาและสิงคโปรก็ติดต่อสนใจที่จะมาพบปะพูดคุยเรื่องการเลือกตั้งและการเมืองเช่นกัน
     โดยนายประเสริฐระบุว่า เป็นการพบปะพูดคุยกันธรรมดา ไม่มีวาระอะไรเป็นพิเศษ และไม่ใช่เป็นการมาจับผิดการเลือกตั้งแต่อย่างใด มาเพื่อศึกษาการเลือกตั้งเท่านั้น ไม่มีอะไรมาก เป็นการพบกันแบบส่วนตัวมากกว่า ซึ่งอีก 1-2 สัปดาห์ ทางเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐและสิงคโปร์ก็จะมาพบหารือลักษณะแบบนี้ด้วยเหมือนกัน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"