ใครจะประเมินประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ดีกว่าคนที่เคยทำงานใกล้ชิดอย่างเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ที่เคยเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ?
หลังจากถูกกดดันให้ลาออก และท้ายที่สุดถูกปลดออกผ่านทวิตเตอร์ อดีตผู้บริหารสูงสุดของ Exxon Mobil Corporation ผู้นี้ก็เพิ่งจะเปิดเผยความในใจเกี่ยวกับทรัมป์อย่างน่าตื่นตะลึง
ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ทิลเลอร์สันบอกว่าแกต้องเตือนผู้นำประเทศคนนี้บ่อยว่า หลายอย่างที่ทรัมป์คิดจะทำนั้น “น่าจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย”
เป็นไปได้อย่างไรครับที่รัฐมนตรีต่างประเทศต้องคอยเตือนประธานาธิบดีของตัวเอง ว่าความคิดหลายเรื่องของผู้นำโลกคนนี้สุ่มเสี่ยงที่จะละเมิดกฎหมาย!
แต่ทรัมป์ไม่สนใจ พอได้อ่านที่ทิลเลอร์สันให้สัมภาษณ์อย่างนั้นก็เขียนข้อความขึ้นทวิตเตอร์ ต่อว่าต่อขานอย่างไม่แคร์ว่าจะเสียมารยาทหรือไม่อย่างไร
ทรัมป์บอกว่าทิลเลอร์สัน “โง่เหมือนก้อนหิน และขี้เกียจเป็นบ้า”
(“Dump like a rock. Lazy as hell.”)
ทรัมป์ไม่หยุดแค่นั้น ยังบอกด้วยว่าอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศคนนี้ “ไม่มีประสิทธิภาพทางจิตเพียงพอที่จะทำงานนี้ได้...เขาโง่เหมือนก้อนหิน ผมจะให้ออกตั้งแต่ต้นแล้ว และก็ยังขี้เกียจเป็นบ้า”
ตอนที่ ทิลเลอร์สัน ยังอยู่ในตำแหน่งนั้น ทรัมป์พูดชื่นชมแกตลอดเวลา มาวันนี้ความจริงเปิดเผยแล้วว่าทั้งสองคนนี้ทำงานด้วยกันไม่ได้เลย
หากจำได้ ตอนที่ยังอยู่ในตำแหน่ง ทิลเลอร์สันถูก NBC News อ้างว่าพูดถึงทรัมป์ว่าเป็น “ไอ้งั่ง” (moron)
พอข่าวออกมา ทรัมป์เต้นเป็นเจ้าเข้า ทิลเลอร์สัน เองก็ออกมาแก้ต่าง ไม่ปฏิเสธ แต่ก็ยืนยันว่ายังเคารพนับถือท่านประธานาธิบดีเหมือนเดิม
แปลว่าทั้ง ทรัมป์ และ ทิลเลอร์สัน ต่างก็โกหกประชาชนหน้าตาเฉย เพราะทั้งๆ ที่ข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่ามีเรื่องงัดข้อกัน และสื่อก็เสนอข่าวตามความเป็นจริง แต่ก็ถูกทำเนียบขาวกล่าวหาว่าสื่อสร้างเรื่องทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างประธานาธิบดีกับรัฐมนตรีต่างประเทศ
สื่อกลายเป็นกระโถนท้องพระโรงสำหรับนักการเมืองจริงๆ
ทิลเลอร์สัน บอกกับนักข่าวว่า ทรัมป์เป็นคน “ไม่ชอบอ่าน และไม่อ่านรายงานสรุปที่ส่งไปให้ และไม่ชอบลงรายะเอียด และบ่อยครั้งก็สรุปง่ายๆ ว่าผมเชื่ออย่างนี้ก็แล้วกัน”
แปลว่าทรัมป์ไม่สนใจข้อมูลที่แย้งกับความเชื่อของตัวเอง ใครเสนออะไรมาที่ขัดกับความรู้สึกหรือสิ่งที่ตนอยากเห็นก็จะโยนออกไป
เพราะ ทรัมป์ ไม่ชอบข้อเท็จจริงที่ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ตนเชื่อ
เมื่อทิลเลอร์สันออกมาเปิดโปงอย่างนี้ ยิ่งสะท้อนภาพของความไร้ประสิทธิภาพการทำงานของประธานาธิบดีสหรัฐคนนี้อย่างล่อนจ้อน
เพราะแกบอกด้วยว่า พอเตือนทรัมป์บ่อยๆ ว่าหลายๆ ความคิดของผู้นำทำเนียบขาวอาจจะข้ามเส้นความถูกต้องชอบธรรมแห่งกฎหมายบ้านเมือง หรือผิดไปจากข้อตกลงในสนธิสัญญากับประเทศนั้นประเทศนี้ ทรัมป์ก็หงุดหงิด เริ่มจะไม่พอใจมากขึ้นจนถึงขั้นแตกหัก ทำงานร่วมกันไม่ได้
ถึงขั้นที่ทรัมป์สั่งปลดทิลเลอร์สันทางทวิตเตอร์โดยไม่ได้เรียกมาพูดคุยเพื่อแจ้งข่าวร้ายนั้น หลังจากที่แกจากการไปเยือนแอฟริกา
ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ ส่งข้อความขึ้นทวิตเตอร์บ่อยๆ ปฏิเสธข่าวที่ว่ามีความขัดแย้งระหว่างกัน
ทรัมป์ บอกว่าทิลเลอร์สันเป็นคนยอดเยี่ยม (wonderful) และยืนยันว่าทำงานด้วยกันได้อย่างดี (work well together) ทั้งๆ ที่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้นตรงกันข้ามกับความเป็นจริง
ทิลเลอร์สัน บอกว่าทรัมป์กับแก “ไม่มีระบบแห่งค่านิยมที่เหมือนกัน” และบอกว่าทรัมป์เป็น “คนค่อนข้างจะไร้ระเบียบไร้วินัย”
พูดง่ายๆ ก็คือรัฐมนตรีต่างประเทศที่ทำงานใกล้ชิดกับทรัมป์มองว่าประธานาธิบดีคนนี้พูดไม่รู้เรื่อง ไม่สนใจเรื่องความถูกต้องชอบธรรม และไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าหลายเรื่องที่คิดจะทำนั้นเป็นการจงใจละเมิดกฎหมายด้วยซ้ำไป
นี่ขนาด ทิลเลอร์สัน เปิดโปงอย่างเกรงอกเกรงใจพอสมควร ยังสะท้อนถึงความเละเทะของทรัมป์ได้ขนาดนี้
ถ้าเปิดอกพูดกันจริงๆ ก็ไม่ทำให้เห็นภาพที่ทำให้คนอเมริกันหนาวกว่าที่เห็นอยู่ขณะนี้หรือ?.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |