นักการเมืองเต็มตัว 'บิ๊กตู่'อ้อนคนอีสานประกาศยอมทุกข์เพื่อชาติ


เพิ่มเพื่อน    

    "บิ๊กตู่" ประเดิมหลังประธาน คสช.ปลดล็อกการเมือง ลงพื้นที่อีสานเหนือ ปราศรัยเช้ายันค่ำ  ครบทุกรส ประกาศเป็นนักการเมืองเต็มตัว ยอมเป็นทุกข์เพื่อชาติ ลั่นปีหน้าเป็นประธานอาเซียน อย่าปล่อยใครมาสร้างความวุ่นวาย เตือน อบต. อบจ.ต้องมีความรู้ว่าวันนี้รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนอะไรอยู่ แม่นเหมือนจับวาง เสี่ยงเซียมซีได้หมายเลข 17 ถ้ากำลังรุ่มร้อนหงุดหงิด ให้ฟังคำแนะนำจากกัลยาณมิตร ตบท้ายหนองคายอากาศเย็นสบาย ไม่เหมือน กทม. อากาศก็ร้อน หัวก็ร้อน เพราะเรื่องมันเยอะ
    เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เพื่อเตรียมการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 9/2561 กลุ่มจังหวัดภาคตะวันเฉียงเหนือตอนบน 1 (บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี) ระหว่างวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้ 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นการลงพื้นที่ต่างจังหวัดครั้งแรกของ พล.อ.ประยุทธ์ หลังประกาศปลดล็อก ซึ่งรวมถึงยกเลิกการห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ทั้งนี้ มีผลให้มาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการตรวจสอบเพื่อไม่ให้บุคคลที่มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองในอดีต หรือ กลุ่มที่เคลื่อนไหวในภาคประชาสังคมเรียกร้องด้านต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้เข้ามาภายในบริเวณงาน 
    มีการแจกภาพถ่ายและชื่อบุคคลต้องห้ามให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งนี้ ได้มีการขอความร่วมมือประชาชนที่มาต้อนรับให้วางกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดไว้ด้านล่างของเก้าอี้ ไม่อนุญาตให้สะพายไว้ที่ตัว เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด 
    นอกจากนี้ บรรดาชาวบึงกาฬและบริเวณใกล้เคียงยังให้ความสนใจหาซื้อลอตเตอรี่เลข 44 ซึ่งเป็นทะเบียนรถยนต์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ใช้ในภารกิจที่จังหวัดบึงกาฬ โดยนายกรัฐมนตรีใช้รถโตโยต้า อัลพาร์ท สีดำ ทะเบียน 5 กง 44 กรุงเทพมหานคร
     เวลา 09.00 น. ทันทีที่มาถึง นายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 จังหวัดบึงกาฬ เพื่อร่วมปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึก ก่อนร่วมจัดรายการผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียง 909 งานพัฒนาภาค 2 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา
     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลดูแลผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาท และ 3 หมื่นบาทต่อปีไปก่อน ขณะนี้ต้องเห็นใจคนเหล่านี้ ซึ่งไม่ได้สอนให้ไม่ประหยัดและไม่ได้เอาเงินไปแจกให้ แต่รัฐบาลมีหลายมาตรการลงไป ที่เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงนี้ 
อย่าเชื่อข่าวปลอม
     "ขณะเดียวกันโลกกำลังเปลี่ยนแปลง อย่างการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การใช้บัตรสวัสดิการของผู้มีรายได้น้อย ที่มีปัญหาในเรื่องการกดเงิน ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขและเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นก็จะถูกเขาเอาประโยชน์ไป มีคนมารับจ้างกดเงินให้ เราเรียนรู้ด้วย เพราะเราเป็นเจ้าของบัตร ไม่เช่นนั้นรัฐบาลทำอะไรลงมาก็ไม่เกิดผล เม็ดเงิน 500 บาทเป็นเงินไม่มากนัก รัฐบาลมุ่งหวังลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน ซื้ออุปกรณ์และสินค้าต่างๆ ที่ใช้ประโยชน์ได้นานๆ เช่น อาหารเก็บสต๊อกไว้เพื่อลดค่าใช้จ่าย จึงไม่อยากให้เอาเงินส่วนนี้ไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ไปดื่มสุรา หรือซื้อของใช้ที่ไม่จำเป็น นี่คือสิ่งที่ต้องแก้ไข"
     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันอีกเรื่องหนึ่ง การรับฟังจากสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ต้องแยกแยะให้ออกว่าอะไรคือข้อเท็จจริงและไม่ใช่ข้อเท็จจริง อะไรเป็นสาระสำคัญหรือข่าวปลอม รวมถึงต้องให้เด็กและผู้ใหญ่รู้จักแยกแยะ อย่าฟังในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เช่นนั้นก็จะพัฒนาตัวเองไม่ได้ อีกทั้งสิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วง ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ตาม ก็หวังอย่างยิ่งว่าจะสานต่อให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และทำอะไรก็ตามอย่าคิดอย่างสั้นๆ ต้องคิดครบวงจร และทำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมียุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูป และแผนแม่บทที่วางไว้อย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งเหล่านี้รัฐบาลต่อไปต้องระมัดระวังในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ แม้วันนี้เราจะใช้งบประมาณมากเท่าไรก็ตาม แต่ยังอยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด
     "ขอให้ประชาชนแยกแยะ มีหลักคิดที่ถูกต้อง แม้กระทั่งการเลือกตั้งครั้งหน้า อย่าไปสนใจในเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ ซึ่งวันนี้เราเดินตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด อีกทั้งรัฐบาลและ คสช.ได้ปลดล็อกให้ ที่ได้ประกาศไปแล้ว สิ่งสำคัญคือความสงบเรียบร้อย และฝากดูแลในเรื่องงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งเรื่องนี้แล้วแต่จะทรงโปรดเกล้าฯ ในช่วงเวลาใด แต่เราต้องดูแลความสงบเรียบร้อยให้มากที่สุด"
     ทั้งนี้ ช่วงท้ายนายกฯ กล่าวอวยพรปีใหม่ประชาชนด้วยว่า ขอให้ทุกคนมีความสุข และขอให้ยึดมั่นในการเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม รวมทั้งเจ้าหน้าที่และข้าราชการในการทำหน้าที่ให้กับประเทศชาติและประชาชน โดยทั้งสองฝ่ายต้องไว้ใจซึ่งกันและกัน ต่อไปนี้ประเทศกำลังเปลี่ยนแปลง
     ต่อมาเวลา 10.10 น. ที่วัดโพธาราม อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ พล.อ.ประยุทธ์และคณะกราบสักการะหลวงพ่อพระใหญ่ ที่มีความเชื่อว่าใครที่มากราบไหว้จะมีความเจริญรุ่งเรือง ตำแหน่งการงานที่ใหญ่ขึ้น มีโชคลาภแคล้วคลาดปลอดภัย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้จุดบั้งไฟน้อย 9 บั้ง พร้อมอธิษฐานขอให้ จ.บึงกาฬเจริญรุ่งเรือง ทั้งนี้ ตามความเชื่อของชาวบ้านหากใครบนบานแล้วสมหวัง จะนิยมจุดบั้งไฟน้อย 9 บั้ง
อย่าให้เขาสร้างความวุ่นวาย
     จากนั้น นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการบูรณาการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เพื่อดูแลประชาชน อุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร 
    นายกฯ กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า ตนตั้งใจทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าให้ได้ ทำให้ต่างประเทศยอมรับ ถึงแม้เราจะยังไม่เป็นประชาธิปไตยก็ตาม และไม่ได้ต้องการให้ใครมารักรัฐบาล แค่ต้องการช่วยผู้มีรายได้น้อย อย่างอ่างเก็บน้ำลำสะพุง ที่ จ.ชัยภูมิ คนดีใจแทบตายที่ตนไปทำให้เขา แต่ก่อนทำไมไม่ทำอะไรให้เขา ต้องแลกอะไรก่อนหรืออย่างไรถึงทำให้เขา ท่านต้องช่วยกันรักษาประเทศชาติ วันนี้รัฐบาลทำทุกอย่างให้ต่อเนื่องเชื่อมโยง 
     เขากล่าวว่า เดี๋ยวจะเลือกตั้งอยู่แล้ว ขอให้เลือกให้ดี ให้เลือกจากนโยบายของเขา ถามเขาสิว่าสิ่งที่เขาพูดจะให้อย่างไร ได้เมื่อไหร่ รัฐบาลนี้ไม่ยุ่งวุ่นวายกับการเมืองของท่าน แต่จะทำให้เกิดความปรองดอง วันนี้ก็ปลดล็อกไปแล้ว ท่านอย่าไปยอมให้เขาทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในประเทศอีก
    "รัฐบาลนี้ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. เมื่อปลดล็อกให้ไปแล้ว ประชาชนต้องอย่ายอมให้ใครนำพาไปสู่ความวุ่นวายสับสนอลหม่าน เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกไม่ได้ เพราะประเทศไทยกำลังจะเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า หากเกิดขึ้นอีกก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว"
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ขอให้ประชาชนเลือกคนจากนโยบายที่ดี โลกนี้เป็นโลกแห่งกติกา โลกแห่งพันธสัญญา ทั้งนี้ การเลือกตั้งต้องดูแลนักศึกษาอย่าให้ไปบิดเบือน ไม่จำเป็นต้องไปทำแบบนั้น สัญญาก็ต้องเป็นสัญญา ใครจะเป็นก็ไม่ว่า อย่างไรก็ตาม การทำความดีต้องให้กำลังใจกันและกัน ไม่ใช่มาบั่นทอนบิดเบือนให้ร้ายกัน การเลือกตั้งไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น 
     นายกฯ กล่าวว่า เราทำกุศลร่วมกันเพื่อแผ่นดินของเรา ทำบุญเข้าวัดเข้าวา ทำกุศลกับคนที่ยากลำบาก ไม่ใช่ทำบุญเยอะๆ เพื่อให้ขึ้นสวรรค์ มันไม่ใช่ สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ทุกคนต้องรู้ว่าทำดีหรือไม่ดี ต้องหักห้ามใจตนเอง มีหิริโอตตัปปะ สิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมดมันให้ร้าย วันนี้ประเทศไทยจะเป็นอย่างนั้นไม่ได้แล้ว วันนี้ตนสายตาแย่แล้ว เพราะต้องอ่านเอกสารทุกวัน เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประชาชน ที่ต้องการเรื่องการเกษตร รายได้ ความรู้ที่มากขึ้น การแก้ปัญหาต่างๆ เรื่องเยอะแยะไปหมด 
อย่าเสนอความเห็นบนถนน
     ที่วัดโพธาราม อ.เมืองบึงกาฬ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการบูรณาการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ได้เยี่ยมชมบูธบริการทางการแพทย์ต่างๆ และได้แวะบูธกรมสุขภาพจิต เสี่ยงเซียมซีความสุข โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้เซียมซีหมายเลข 17 ซึ่งมีคำทำนายว่า 
    "คุณกำลังได้รับพลังแห่งธาตุไฟอย่างเต็มเปี่ยม ธาตุไฟคือความร้อน ความกระตือรือร้น ความก้าวไปข้างหน้า คือความเร่งรีบ ความวู่วาม และการทำลาย แนะหากคุณกำลังเร่งรีบกับทุกสิ่งในชีวิต ถึงเวลาที่คุณจะต้องทำอะไรให้ช้าลงเสียบ้าง หากคุณกำลังรุ่มร้อนหงุดหงิด ขุ่นเคืองใจ ถึงเวลาที่คุณจะหาวิธีสงบจิตใจ ค้นหาความสุข สงบเย็น ธาตุไฟช่วยเผาผลาญ สร้างความอบอุ่น แต่ก็ทำให้ร่างกายสุดโทรม และเหนื่อยอ่อน นี่เป็นเวลาที่คุณควรได้ทบทวนชีวิต แล้วเลือกปรับสมดุลใหม่ให้ลงตัว
    อย่าลืมว่า ชีวิตที่เป็นสุข เกิดจากชีวิตที่สมดุล การงาน การเงิน สุขภาพ ความรัก ความสัมพันธ์ การพัฒนาตน หากละเลยด้านหนึ่งด้านใด ก็จะกระทบต่อชีวิตโดยรวม คำทำนายแนะนำให้คุณหยุดพักเพื่อทบทวนฟังสัญญาณเตือนจากร่างกายและจิตใจ ฟังคำแนะนำจากกัลยาณมิตร รอบตัว แล้วธาตุไฟในตัวคุณก็จะเป็นพลังที่สร้างสรรค์ช่วยนำทางขับเคลื่อนชีวิตไปในทางที่คุณต้องการ"
    ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่สวนสาธารณะหนองบึงกาฬและบึงสวรรค์ ต.บึงกาฬ จ.บึงกาฬ พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะ พบปะกับประชาชนและเยี่ยมชมผลงานการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลของจังหวัดบึงกาฬ มีนายนิพนธ์ คนขยัน นายก อบจ.บึงกาฬ รอต้อนรับ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับประชาชนที่มารอต้อนรับประมาณ 5,000 คนว่า ดีใจ ชื่นใจที่ได้เดินทางมาบึงกาฬ แม้จะเป็นจังหวัดที่ 77 แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของทุกคนแล้วก็มีความสุข อากาศหนาวคล้ายกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เห็นรอยยิ้มและการต้อนรับ ซึ่งเป็นการให้เกียรติซึ่งกัน ทุกคนมารับด้วยใจที่ถึงกัน 
    “วันนี้รัฐบาลมารับฟังปัญหาของทุกๆ คน ทุกพวกทุกฝ่าย ใครส่งอะไรมาก็รับฟังทั้งหมด ขอเพียงอย่างเดียว อย่าไปเสนอความคิดเห็นกลางท้องถนน วันนี้กรุงเทพฯ เริ่มกันแล้ว ที่นี่จะมีหรือไม่ จะตั้งแถวเดินขบวนกันอีกหรือไม่ ขอร้องเถอะ ประเทศชาติจะเสียหาย ใครทำเราอย่าไปยอมรับ เพราะมันไม่ใช่กติกา ทุกอย่างมีช่องทาง ทุกประเทศก็แก้ปัญหากันแบบนี้ ไม่มีที่ไหนจะปิดถนน เรื่องเหล่านี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ตอนนี้เราอยู่ในช่วงวันที่จะต้องเปลี่ยนผ่าน เราต้องร่วมมือกันเดินหน้าประเทศ” 
    นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ ทั้ง อบต. อบจ. ที่เลือกเข้ามา ต้องมีความรู้ว่าวันนี้รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนอะไรอยู่ ส่วนวันหน้าค่อยเลือกรัฐบาลหน้า แล้ววันนี้รัฐบาลนี้กำลังทำอะไรอยู่ ถ้ามันดีก็ช่วยกันทำต่อ อะไรถูกก็ต้องทำต่อ ไม่ใช่ต้องไปล้มล้างทุกอัน แต่สิ่งที่ต้องหยุดและแก้ไข คือการทุจริตและทำผิดกฎหมาย 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้ปลดล็อกแล้ว แต่ก็เริ่มมีการตั้งแถว ตั้งขบวนชุมนุมต่อต้านด่ารัฐบาลกันแล้ว ถามหน่อยว่าทำไปเพื่ออะไร แล้วจะให้คนพวกนี้มาบริหารประเทศหรือ ก็สุดแล้วแต่พวกท่าน ตนไม่ว่าใครทั้งสิ้น แต่ท่านควรจะเอาทุกอย่างเป็นบทเรียน ซึ่งไม่ใช่บทเรียนของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว เป็นบทเรียนของประชาชนในชาติ ทำอย่างไรที่จะให้คนไม่ดี ที่พูดให้ร้ายทั้งในและต่างประเทศหยุด ท่านอาจจะได้ประโยชน์จากที่ผ่านมา แต่รัฐบาลเสียประโยชน์ เช่น เก็บข้าวไว้ 4 ปีเน่าเสียขาดทุนไปเท่าไหร่ เป็นต้น 
เป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว
    "ผมมาวันนี้ ถ้าเป็นนักการเมืองเต็มตัว ตอนนี้ผมจะบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้ เพราะผมบริหารประเทศ ถ้าเป็นนักการเมืองจะดีใจ เพราะมีคนมารับเยอะ เรียกลุงตู่ๆ  รู้ไหมว่าผมเป็นทุกข์ แต่ผมยอมเป็นทุกข์ ยอมตายจากตรงนี้ ถ้าผมกลับไป ผมก็นอนคิดว่าทำไมเขาต้องมาหวังที่เรา ทำไมเขาต้องให้เราทำงาน เพราะเขามีความหวังไง เราต้องทำความหวังให้เป็นความจริง แต่เราจะมาหลอกลวง ล่อลวง ไม่ได้ โดยเฉพาะที่บอกว่าเดี๋ยวจะดีขึ้น จะทำไอ้นั่นไอ้นี่ เราต้องทำทีละขั้นทีละตอน ประชาชนต้องศึกษาสิ่งที่รัฐบาลทำมา" นายกฯ กล่าว 
    นายกฯ กล่าวว่า วันนี้มีปัญหามาก เพราะหลายคนไม่ค่อยยอม อยากจะใช้อีลุ่ยฉุยแฉกเหมือนเดิม ตนก็ต้องป้องกันเรื่องพวกนี้ไว้ให้กับพวกท่าน แต่อยู่ที่ว่าจะรักษาไว้ได้หรือไม่เท่านั้นเอง โครงการไหนที่เกินพันล้านหมื่นล้านต้องเข้า ครม. และอย่าไปเชื่อใครที่เอางบประมาณมาขาย รัฐบาลนี้ไม่มีใครเอามาขาย หากมีใครเอามาขายให้บอกเลย เอางบมาขายไม่ได้ เพราะงบต้องอนุมัติโดย ครม. ที่ต้องมีหลักการและเหตุผลในการอนุมัติ 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า แค่นี้แล้วกัน ปวดท้องแล้ว แต่ปวดท้องด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะเห็นรอยยิ้ม ทุกคนต้องช่วยชาติ ต้องมีจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจอันยิ่งใหญ่ของคนไทยทุกคน ไม่มีเว้น ทุกคนคือคนไทย จะดีจะชั่วก็คือคนไทย อยู่ที่ว่าคนดีจะทำให้คนไม่ดี ไม่ทำให้ประเทศชาติเสียหายอีกต่อไปได้อย่างไร จำไว้ไม่ใช่ศัตรูใคร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องปรับปรุงตัวเอง เพราะอยู่ใกล้ประชาชนมากที่สุด ต้องเรียนรู้ทำงานแบบเดิมๆ ไม่ได้อีกแล้ว 
    นายกฯ กล่าวตอนท้ายว่า นางงามมาประเทศไทย เพราะบ้านเมืองเราสงบ งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ก็จัดได้ เดี๋ยวพวกเราก็ไปเที่ยวกัน แต่งตัวสวยๆ ถ่ายรูป ถ้าบ้านเมืองไม่สงบ มีประท้วง เดินขบวน ถือป้าย ค้าขายไม่ได้ สัญจรไปมาไม่ได้ อันตราย ทุกคนต้องอยู่ในบ้านกันหมด ทะเลาะกันในครอบครัว ในบ้านคุยกันไม่ได้ การเมืองไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง แต่การเมืองคือการสร้างสรรค์ ทำการเมืองแบบสร้างสรรค์คือสิ่งที่ดีที่สุด ฝากไว้ด้วยแล้วกัน ฟังนโยบายพรรคไหนว่ามา 
    ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่สถานีผลิตน้ำปะโค การประปาส่วนภูมิภาค สาขาหนองคาย ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย พล.อ.ประยุทธ์เปิดโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค อ.เมืองหนองคาย-อ.สระใคร จากนั้นได้กล่าวว่า อีกสิ่งหนึ่งต้องเตรียมการก็คือพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 ซึ่งเป็นประเพณีตามจารีตของไทย รัชกาลที่ 10 ก็จะเหมือนรัชกาลที่ 9 โดยสมบูรณ์ ยังไงก็พระบารมีปกเกล้า คนไทย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน 
    สุดท้ายเวลา 18.00 น. ที่วัดอุทุมพร จ.หนองคาย พล.อ.ประยุทธ์สักการะหลวงพ่อใหญ่อุทุมพร ก่อนเยี่ยมชมหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ต.บ้านเดื่อ โดยมีชาวบ้านรำออนซอนบ้านเดื่อต้อนรับ จากนั้นนายกฯ ได้เดินทักทายประชาชน และกล่าวว่า เขาหาว่าผมจะรักษาอำนาจ ผมก็ปลดล็อกให้ แต่ขออย่าไปตามพวกเขา บัตรคนจนที่รัฐบาลให้เพราะสงสารผู้มีรายได้น้อย ใครที่ไม่ใช่ผู้มีรายได้น้อยและมาขึ้นทะเบียน เขาจะเรียกเงินคืนทั้งหมด ย้ำว่าที่รัฐบาลทำก็เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ไม่ใช่เพื่อเอาใจ วันนี้ผมมีวาสนาที่ได้มาเจอประชาชน ที่นี่อากาศดี เย็นสบาย น่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะ ไม่เหมือนตอนอยู่กรุงเทพฯ อากาศก็ร้อน หัวก็ร้อน เพราะเรื่องมันเยอะ
    ก่อนที่นายกฯ จะเดินเยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์สินค้าโอท็อป และเดินทางไปวัดโพธิ์ชัย เพื่อสักการะหลวงพ่อพระใส ที่วัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวหนองคายให้ความเคารพนับถือ และเดินทางกลับเข้าที่พัก.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"