ประชาธิปไตยเซินเจิ้น


เพิ่มเพื่อน    


    น่ากลัว....
    พวกฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดในโลกโซเชียล แล้วแชร์ต่อๆ กันไปโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง  ปากก็บอกว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ยึดมั่นถือมั่นในกฎหมาย มีอยู่เยอะทีเดียว 
    คำสั่ง คสช. ที่ ๒๑/๒๕๖๑ เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยใช้มาตรา ๔๔ ยกเลิกผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและเปิดเผยตามมาตรา ๑๐๒ แห่ง พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.๒๕๖๑
    คำสั่งเจ้าปัญหาอยู่ที่ข้อ ๑  
    ๑.ให้ยกเลิกความในบทนิยามคำว่า "ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง" ในมาตรา ๔ แห่ง พ.ร.บ.ป.ป.ช. และให้ใช้ความต่อไปนี้ "ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง" หมายความว่า 
    ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง ทบวง กรม หรือ ส่วนราชการที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สำหรับข้าราชการพลเรือน และปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ สำหรับข้าราชการทหาร และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  และให้หมายความรวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัด กทม. กรรมการและผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ  หัวหน้าหน่วยงานขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ แต่ไม่รวมถึงผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นตามที่กฎหมายกำหนด ผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานอื่นของรัฐตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด หรือผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่าตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนด 
    กลุ่มผู้รักประชาธิปไตยอยากไปเลือกตั้งตีความไกลเลยดาวอังคารไปมากโข
    กลายเป็นว่า นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน
    ขุดโคตรเหง้าศักราชขึ้นมาด่า 
    อัปรีย์ จัญไร ว่อน 
    แต่...ไม่มีผู้รักประชาธิปไตยแม้รายเดียวเข้าไปอ่านรายละเอียดว่า แท้จริงแล้วคำสั่งดังกล่าวมีเนื้อหาสาระอย่างไร 
    ข้อ ๑ ข้างบนคือการแก้ไขกลับไปเหมือนก่อน 
    เหมือนก่อนคืออะไร? 
    ตำแหน่งตามข้อ ๑ ทั้งหมดคือตำแหน่งที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน 
    แต่เมื่อแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพิ่มเติมตำแหน่งที่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน ความในมาตรา ๔ แห่ง พ.ร.บ.ป.ป.ช. ก็เปลี่ยนไปเป็น
    "ผู้ดํารงตําแหน่งระดับสูง" หมายความว่า ผู้ดํารงตําแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงทบวง กรมหรือส่วนราชการที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลซึ่งมิใช่ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองสําหรับข้าราชการพลเรือน และปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพสําหรับข้าราชการทหาร และผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ และให้หมายความรวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดกรุงเทพมหานคร กรรมการและผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ หัวหน้าหน่วยงานขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแต่ไม่รวมถึงผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กรรมการและผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานอื่นของรัฐ ผู้ดํารงตําแหน่งอื่นตามที่กฎหมายกําหนด หรือผู้ซึ่งดํารงตําแหน่งเทียบเท่าตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กําหนด"
    เปลี่ยนตรงไหน?
    ที่เปลี่ยนคือเดิมกำหนด "ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นตามที่กฎหมายกำหนด" 
    เปลี่ยนเป็น "กรรมการและผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานอื่นของรัฐ"
    เมื่อเป็นเช่นนี้ "กรรมการผู้บริหารมหาวิทยาลัย นายกสภามหาวิทยาลัย-บอร์ดกองทุน" จากเดิมที่ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ก็ต้องยื่นทันทีตามกฎหมายใหม่ 
    กฎหมายออกมากรรมการสภามหาวิทยาลัยแห่ลาออก 
    สมเด็จพระสังฆราชเอง ซึ่งทรงเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ก็ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินด้วย 
    คสช.จึงแก้ปัญหาง่ายๆ ด้วยการกลับไปใช้กฎหมายเดิม กรรมการผู้บริหารมหาวิทยาลัย นายกสภามหาวิทยาลัย-บอร์ดกองทุน ไม่เกี่ยวแล้ว ส่วนนายกรัฐมนตรี ผบ.เหล่าทัพ ตำแหน่งผู้บริหารอื่นๆ ก็ยังต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินเหมือนเดิม 
    ถ้าจะแสดงความเห็นโจมตี คสช.ก็ควรเป็นประเด็น แก้กฎหมายกลับไปกลับมา 
    แต่ไม่ใช่เอาความเท็จไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ 
    สร้างความเข้าใจผิด แล้วยังไม่คิดจะแก้ไข 
    แกนนำอยากเลือกตั้งนี่ตัวดีเลย 
    ศิลปินเสียชาติเกิดบางคนแก่จนหัวหงอก สีข้างถูอ้างแค่ว่าเผยแพร่เพราะไม่รู้กฎหมาย 
    นี่แหละครับฝ่ายประชาธิปไตยเซินเจิ้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"