แม่ทัพภาค2เบรก'ราชภัฎสกลนคร'ห้ามไทวานรก้าวเดินทำกิจกรรม


เพิ่มเพื่อน    

12 ธ.ค.61- ผู้สื่อข่าวรายงานกิจกรรมไทวานรก้าวเดิน (Wanon Walk) จากวานรนิวาสสู่สกลนคร  "เดินเพื่อพูด เดินเพื่อธรรมชาติ เดินเพื่อสกลนคร" เข้าสู่วันที่ 3 ในการเดินเท้ากว่า 90 กิโลเมตรของเครือข่ายประชาชนชาววานรนิวาส เพื่อคัดค้านการสร้างเหมืองแร่โปแตช ของบริษัท ไชน่า หมิงต๋า โปแตช คอร์เปอร์เรชั่น(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งล่าสุด ได้ขนอุปกรณ์เข้ามาในหลุมสำรวจที่ 4 บ้านหลักเมือง ต.วานรนิวาส ทำให้ประชาชนหลายหมู่บ้านออกมาคัดค้าน และมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้คัดค้านการสำรวจแร่ หลายคดี หนึ่งในนั้นคือคดีอาญาข้อหาข่มขืนจิตใจ บริษัทฯ ได้ยื่นฟ้องแพ่งต่อศาลจังหวัดสว่างแดนดิน เรียกค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 3.6 ล้านบาท ที่ไม่อาจขุดเจาะสำรวจแร่ได้โดยศาลนัดสืบพยานคครั้งแรกในวันที 17 ธ.ค.นี้ 

ทั้งนี้บรรยากาศทั่วไปในการจัดกิจกรรมไทวานรก้าวเดิน ได้มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ติดตามการเคลื่อนไหวของกิจกรรมครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง สร้างความกดดันให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ซึ่งเจ้าหน้าทีจะให้เหตุผลว่า มาอำนวยความสะดวกให้ชาวบ้าน แต่ก็ยังดำเนินการถ่ายรูปชาวบ้าน ติดตามการเคลื่อนไหวการจัดกิจกรรมของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง แม้คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ปลดล็อคแล้วก็ตาม

นางสัมฤทธิ์ โบราณมูล ชาวบ้านที่เข้าร่วมกิจกรรม ระบุว่า ยิ่งเดินเข้าใกล้เขตเมืองจังหวัดสกลนคร ก็ยิ่งมีเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ และทหารเข้ามาหนาแน่นมากขึ้น โดยอ้างเหตุว่ามาดูแลความปลอดภัยให้ชาวบ้านแต่พวกเรากลับรู้สึกกดดัน และถูกละเมิดสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง เพราะเจ้าหน้าที่ซุ่มดู และถ่ายรูปชาวบ้านที่ทำกิจกรรม บางทีนั่งกินข้าวหรือ ร่วมกิจกรรมในเวทีพูดคุยให้ข้อมูล ก็ตามมาถ่ายรูป ซึ่งชาวบ้านคิดว่ามันเกินเลยการเข้ามาดูแล เพราะมันมากเกินไปเหมือนมาคุกคาม

"โดยเฉพาะเมื่อคืนวันที่ 12ธ.ค.มีเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบวนเวียนเข้ามาบริเวณที่พักค้างคืนที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอพังโคน  ตลอดจนถ่ายภาพผู้เข้าร่วมกิจกรรมรายตัวทั้งถ่ายภาพอย่างเปิดตัวและแอบซุ่มถ่ายตามมุมต่าง ๆ ทั้งนี้ตั้งแต่เช้าตรู่เริ่มมีเจ้าหน้าที่เข้ามาจำนวนไม่น้อยกว่า 10 ราย บางทีมขับรถประกบขบวนเพื่อถ่ายภาพผู้เข้าร่วมเดินรายบุคคล ”

เธอระบุด้วยว่า อย่างไรก็ตามขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มาดูแลแต่จุดยืนของชาวบ้านคือขอให้เจ้าหน้าที่ที่มาทุกท่าน ใส่เครื่องแบบ และแจ้งชื่อกับชาวบ้าน เพื่อที่ชาวบ้านจะได้รู้ว่ามาจากหน่วยงานสังกัดใด ทั้งนี้จะได้มีความสบายใจไม่ต้องวิกตกกังวลว่าเป็นใครเข้ามาและสามารถช่วยกันดูแลทั้งสองฝ่ายร่วมกันในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้ามาและบางรายก็ไม่ยอมแจ้งชื่อให้กับชาวบ้านไว้

นางสัมฤทธิ์ กล่าวต่อว่า กิจกรรมไทวานรก้าวเดินของชาวบ้านเพื่อต้องการให้สังคมรับรู้ว่า พวกเรากำลังเผชิญกับอะไร วานรวันนี้ยังมืดมนเพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นพวกเรา มีความวิตกกังวลความเสี่ยงที่จะเกิดเหมืองโปแตชที่จะทำให้ประชาชนได้รับความทุกข์ทรมานจากผลกระทบทั้งวิถีชีวิตและสิ่งสิ่งแวดล้อม และไม่ใช่แค่จังหวัดสกลนครจังหวัดเดียวแต่รวมไปถึงจังหวัดอื่นๆด้วย พวกเราอยากให้ช่วยกันสื่อสารว่าไม่ต้องการเหมืองแร่โปแตชที่ยัดเยียดมาให้ คนที่ไปทำสัญญา ไปอนุญาตให้มีการสำรวจ ไม่มีความรับผิดชอบต่อความทุกข์ร้อนของประชาชนเลย ทั้งที่พวกเรามีสิทธิ์ที่จะมีส่วนร่วมว่าจะให้มีโครงการหรือไม่มี แต่ขณะนี้กลายเป็นหน่วยงานราชการลอยตัว แต่ชาวบ้านรับกรรม

"การที่หน่วยงานราชการอ้างว่าแค่อยู่ในกระบวนการเจาะสำรวจ ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ใครจะมารับประกันในอนาคตได้ว่าจะไม่สร้างเพราะแค่การสำรวจ ปักธงแดง ก็ไม่เคยให้ข้อมูลชาวบ้าน ชาวบ้านไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนไปหาข้อมูลถึงรู้ว่าเขาเข้ามาสำรวจ มาขุดพื้นที่ไร่นาของพวกเราโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต จนเกิดการแจ้งความกัน  ชาวบ้านโดนฟ้องเป็นล้าน มีการขนเครื่องมือมาสำรวจ ขุดเจาะพื้นที่ จนทำให้เกิดปัญหาทั้งความขัดแย้งแตกแยกในชุมชน ชาวบ้านอยู่กันด้วยความหวาดกลัว ไม่รู้อนาคตชีวิตตัวเอง นี้คือปัญหาที่เกิดขึ้นแค่ในกระบวนการสำรวจแร่ แต่ก็สร้างทุกข์หนักหนาสาหัสให้ชาวบ้านแล้ว ทั้งคนเฒ่าคนแก่ เด็กต้องออกมาเดินเรียกร้องตากฝนตากแดดกัน แต่หน่วยงานรับผิดชอบ รัฐบาล ราชการไม่เคยมองเห็นความทุกข์ตรงนี้"  นางสัมฤทธิ์ ระบุ 

อย่างไรก็ตามมีรายงานด้วยว่า มีการกดดันกิจกรรมจากเจ้าหน้าที่ทหาร โดยล่าสุดแม่ทัพภาคที่ 2 ได้กดดันไม่ให้มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนครอนุญาตให้ชาวบ้านใช้พื้นทีในการทำกิจกรรมไทวานรก้าวเดิน  ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ทหารค่ายกฤษณ์สีวะรา โทรศัพท์กดดันไปยังนักธุรกิจในจังหวัดสกลนคร ให้ยุติการเข้าร่วมกิจกรรมด้วยเช่นกัน  ขณะที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครได้สั่งมีคำสั่งให้เตรียมรับมือกลุ่มชาวบ้านอย่างเต็มกำลัง 

ทั้งนี้กิจกรรมไทวานรก้าวเดิน ชาวบ้านได้เดินทางมาแล้วกว่า 50 กิโลเมตร จากอำเภอวานรนิวาส เข้าสู่อำเภอพังโคน และล่าสุดได้เดินมาถึงเขตอำเภอพรรณนานิคมซึ่งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดสกลนครราว 30 กิโลเมตร โดยมีเป้าหมายเดินเข้าสู่จังหวัดสกลนครในวันที่ 15 ธันวาคม 2561 นี้ 12 ธ.ค. 61 ขณะเดียวกัน ในวันนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมเวทีเสวนาการพัฒนาท้องถิ่น “ทิศทางการพัฒนาเมืองสกลนคร” ด้วยเช่นกัน.


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"