5 ก.พ.61-โกศล” เผยสัญจร 4 ภูมิภาค พบจุดอ่อนด้านการกฎหมายศธ.เพียบ ปัญหาใหญ่ขาดบุคลากรที่เป็นนิติกรจำนวนมาก เตรียมหารือ “หมอธี” กำหนดกรอบเวลาการทำงานคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงทุจริตเรื่องต่างๆ เหตุที่ผ่านมาล่าช้ามาก บางเรื่องลากยาว 5ปียังไม่คืบ พร้อมเสนอให้ระบบตรวจสอบภายใน ขึ้นตรงกับผอ.เขตพื้นที่
พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนแก้ปัญหาทุจริตของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ในการประชุมการสัญจรใน 4 ภูมิภาค เพื่อมอบนโยบายการเสริมสร้างความเข้มแข็งการบังคับใช้กฎหมายของ ศธ.ให้แก่นิติกรสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และ ศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ตนได้มอบนโยบายเรื่องการใช้กฎหมาย เพื่อให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรของ ศธ.มีความรู้ด้านกฎหมายที่ถูกต้อง โดยเฉพาะ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ฉบับใหม่ที่มีการประกาศบังคับใช้ไปแล้ว ทั้งนี้ ในที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงจุดอ่อนและจุดแข็งในการทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และได้รับเสียงสะท้อนจากเขตพื้นที่ ว่า เรายังขาดบุคลากรด้านนิติกรอยู่เป็นจำนวนมาก โดยบุคลากรที่มีส่วนใหญ่มีประสิทธิภาพ แต่มีอายุมาก และอีกจำนวนหนึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่มีประสบการณ์ ดังนั้นเราจะต้องเร่งเติมเต็มบุคลากรด้านนิติกรและการเพิ่มองค์ความรู้เรื่องกฎหมายให้แก่นิติกรรุ่นใหม่ให้มากขึ้น นอกจากนี้ระบบตรวจสอบภายในของเขตพื้นที่ยังเป็นแค่กลุ่มงานหนึ่งในสำนักงานเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องการให้ระบบตรวจสอบภายในขึ้นกับผอ.เขตพื้นที่โดยตรง จะได้ทำหน้าที่เสนอความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องผ่านขั้นตอนที่ยุ่งยากเหมือนที่ผ่านมา
พล.ท.โกศล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตนจะหารือกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ. เกี่ยวกับการกำหนดกรอบระยะเวลาในขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง หากมีเรื่องร้องเรียนและเรื่องทุจริตเกิดขึ้นกับหน่วยงานต่างๆ ของ ศธ. เนื่องจากที่ผ่านมาการสืบข้อเท็จจริงต่างๆมีหลายกรณีอย่างเช่นการตรวจสอบโครงการปรับปรุงห้องเรียนและห้องสมุดอิเลคทรอนิกส์ที่มีการสืบมากว่า 5 ปีแล้วก็ไม่เสร็จสิ้น รวมทั้งโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็ยืดเยื้อยาวนานเช่นกัน เพราะฝ่ายกฎหมายของศธ.ให้ข้อแนะนำว่ารัฐมนตรีสามารถใช้อำนาจทางปกครองกำหนดกรอบระยะเวลาในขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงได้ อย่างไรก็ตามตนจะนำข้อเสนอทั้งหมดรายงานให้ รมว.ศธ. รับทราบต่อไป
“ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ระบบตรวจสอบภายในจะต้องขึ้นตรงกับผอ.เขตพื้นที่ เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้การเสนอความคิดเห็นหรือข้อโต้แย้งต่างๆจากเจ้าหน้าที่ทำได้อย่างเต็มที่ เช่น สำนักตรวจสอบภายในของกองทัพบกจะขึ้นตรงกับผู้บัญชาการทหารบกโดยตรง เพราะเป็นหน่วยงานที่สำคัญถือว่ามีอำนาจเสนอความคิดเห็นได้ เป็นต้น ซึ่งจะต้องเป็นกลุ่มงานที่อิสระเพื่อความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน”ที่ปรึกษา รมว.ศธ.กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |