12 ธ.ค.61 ที่กรมควบคุมโรค นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมคณะผู้บริหารจากกรมควบคุมโรค ร่วมแถลงข่าว เรื่อง “พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพที่สำคัญ พ.ศ.2562” ซึ่งกรมควบคุมโรค ได้วิเคราะห์สถานการณ์โรคในระบบเฝ้าระวังต่างๆ ที่ผ่านมา โดยวิธีอนุกรมเวลา วิเคราะห์จำนวนและช่วงเวลาการเกิดโรคต่างๆ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของการเกิดโรค และนำมาพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพที่สำคัญในปี 2562 เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ของโรคที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 การพยากรณ์โรคติดต่อ และกลุ่มที่ 2 โรคไม่ติดต่อและภัยสุขภาพ ดังนี้ การพยากรณ์โรคติดต่อที่สำคัญในปี 2562 มี 3 โรค ได้แก่
1.โรคไข้หวัดใหญ่ จากข้อมูลในปี 2561 (ณ สิ้นเดือนพ.ย.61) พบผู้ป่วย 166,342 ราย เสียชีวิต 38 ราย สำหรับการพยากรณ์โรค ปี 2562 คาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะยังคงสูงกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปี โดยจะมีผู้ป่วย 177,759 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยใกล้เคียงกับปี 2561 โดยในช่วงต้นปี (ม.ค.-มี.ค.) จะมีผู้ป่วยประมาณ 13,000-15,000 ราย และช่วงฤดูฝน (ก.ค.-พ.ย.) จะมีผู้ป่วยประมาณ 15,000-25,000 ราย จึงขอให้ประชาชนใช้มาตรการ “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ดังนี้ 1.ปิด คือ ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม 2.ล้าง คือ ล้างมือบ่อยๆ เมื่อสัมผัสสิ่งของ 3.เลี่ยง คือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย และ 4.หยุด คือ เมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด
2.โรคหัด จากข้อมูลในปี 2561 (ณ วันที่ 25 พ.ย.61) มีรายงานผู้ป่วยไข้ออกผื่นหรือสงสัยหัด 5,442 ราย เสียชีวิต 22 ราย เป็นผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 2,451 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 1-4 ปี คิดเป็นร้อยละ 30 รองลงมาคือ 20-29 ปี สำหรับการพยากรณ์โรค ปี 2562 หากมีมาตรการควบคุมโรคที่เข้มแข็ง มีความครอบคลุมของวัคซีนได้ตามเป้าหมาย และมีการให้วัคซีนในกลุ่มเสี่ยง คาดว่าจะมีผู้ป่วยสงสัยโรคหัด 1,003 ราย ขอแนะนำว่าโรคหัดเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ของกระทรวงสาธารณสุข โดยผู้ปกครองพาเด็กเล็กไปรับวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน จำนวน 2 เข็ม เข็มแรกเมื่อเด็กอายุ 9 เดือน และเข็มที่สองเมื่ออายุ 2 ปีครึ่ง
3.โรคไข้เลือดออก จากข้อมูลในปี 2561 (ณ สิ้นเดือนพ.ย.61) พบผู้ป่วย 78,762 ราย เสียชีวิต 105 ราย สำหรับการพยากรณ์โรค ปี 2562 คาดว่าจะมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 94,291 ราย และคาดว่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นในเดือนเมษายน และอาจพบสูงสุดในช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค. โดยคาดว่าจะมีอำเภอเสี่ยงสูง 136 อำเภอจากทั้งหมด 928 อำเภอ (ใช้เกณฑ์การประเมินจากพื้นที่ป่วยซ้ำซากและความรุนแรงของการเกิดโรคในปีปัจจุบัน) แนะนำประชาชนร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ตามมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” คือ 1.เก็บบ้าน 2.เก็บขยะ และ 3.เก็บน้ำ เพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา
นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับการพยากรณ์โรคไม่ติดต่อและภัยสุขภาพ มี 1 เรื่อง คือ การบาดเจ็บจากการจราจรทางถนน เนื่องจากทุกปีประเทศไทยจะพบอุบัติเหตุจากการจราจรเกิดขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ พบว่าบางรายมีการใช้แอลกอฮอล์ร่วมด้วย ทำให้เกิดอุบัติเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวจำนวนมาก คาดการณ์จำนวนผู้บาดเจ็บจากการจราจรทางถนน ในปี 2562 คาดว่าจะต้องเฝ้าระวัง ระมัดระวังตลอดทั้งปี ไม่ขับรถเร็ว คาดขัดนิรภัยทุกครั้ง หากดื่มสุราแล้วไม่ควรขับรถ และง่วงต้องไม่ขับ เป็นต้น
นอกจากนี้ ประชาชนต้องดูแลสุขภาพและระมัดระวังตนเองจากโรคไม่ติดต่อ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น เนื่องจากสถานการณ์ปัญหาการป่วยตายของคนไทยในช่วงที่ผ่านมา มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
//////
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |