"ประยุทธ์" อุ้ม 4 รมต.พรรคพลังประชารัฐ ระบุกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ลาออก ขณะที่ "วิษณุ" มาแปลก บอกมนุษย์ไม่ได้อยู่ได้ด้วยข้อกฎหมายอย่างเดียว แต่ต้องดูเรื่องกาลเทศะด้วย ขณะที่ "อุตตม-สนธิรัตน์-กอบศักดิ์" อ้างภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น รอเวลาที่เหมาะสมก่อน ด้านแกนนำ พปชร.หนุนอยู่ต่อจนได้รัฐบาลใหม่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถึงกรณีกระแสกดดันให้รัฐมนตรี 4 คน ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกอบด้วยนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เลขาธิการพรรค, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองหัวหน้าพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โฆษกพรรค ว่ากฎหมายเขาว่าอย่างไร หากกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ลาออกก็จบ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเช่นกันว่า ไม่มีกฎหมายอะไรกำหนดให้ลาออก แต่ต้องระวังตัว หากถามข้อกฎหมายว่าไม่จำเป็นต้องลาออกจนกว่าจะมีรัฐบาลใช่หรือไม่ ก็บอกว่าใช่ แต่ในความเป็นจริงมนุษย์เราไม่ได้อยู่ได้ด้วยข้อกฎหมายอย่างเดียว แต่อยู่ด้วยอะไรอีกหลายอย่าง ยังมีเรื่องสังคม ความเหมาะสม ที่ต้องหาทางเอาตัวรอดกันเอง
"ถ้าถามว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ไม่ผิด แต่เหมาะสมหรือไม่ ก็แล้วแต่ เพราะเมื่อจับเรื่องนี้มาพูดแล้ว ก็ต้องดูวัน ดูเวลา หรือที่เรียกว่ากาลเทศะ" นายวิษณุกล่าว
ขณะที่นายอุตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตนพูดตั้งแต่วันแรกว่าเราต่างมีภารกิจหน้าที่ยังต้องรับผิดชอบ ซึ่งเป็นงานระดับประเทศ จึงต้องทำภารกิจตรงนี้ให้ลุล่วงไป และเมื่อถึงเวลาเราก็จะออก วันนี้ยังคงหลักการเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือจะพลิกใจไปมา เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมทุกคนจะเห็นเอง วันนี้อย่าเพิ่งพูด เพราะว่ายังเร็วไป
"ไม่ได้เปลี่ยนใจ พูดไว้อย่างไรก็ยังเหมือนเดิม ซึ่งภารกิจที่ตนกำลังทำให้ประเทศมีความคืบหน้าไปได้พอสมควร เช่น อีอีซีภาคตะวันออก เป็นต้น เรามีเวลาทำงานตามโรดแมปอยู่แล้ว เมื่อเราทราบโรดแมปและภารกิจแล้ว เราก็ต้องทำให้ทันตามเวลา และเมื่อถึงจุดที่เหมาะสม เชื่อได้ว่าเรารู้ตัวว่าเมื่อไรควรออก และสังคมจะเห็นเองว่าเป็นเช่นนั้น ทั้งนี้ หากผมลาออกในตอนนี้จะสร้างความเสียหาย"
นายอุตตมกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน ออกมาสนับสนุนให้สี่รัฐมนตรียังคงอยู่ในตำแหน่งนั้น ก็เป็นความเห็นของท่าน ซึ่งตนไม่เปลี่ยนใจ ยืนยันว่าจะทำภารกิจและงานที่รับผิดชอบให้สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อถามว่าจะออกจากตำแหน่งช่วงที่ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งมีผลบังคับใช้หรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า ต้องรอดู
ก่อนหน้านี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในอดีตรัฐมนตรีที่อยู่ในช่วงเลือกตั้ง ไม่มีรัฐมนตรีคนไหนลาออกจากตำแหน่ง และทำงานต่อเนื่องไปถึงสิ้นสุดการเลือกตั้ง ที่สำคัญการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องทำต่อเนื่อง หากลาออกตอนนี้ งานก็จะสะดุด เกิดความชะงักงันทางเศรษฐกิจ ซึ่งเราควรทำให้ต่อเนื่อง ส่วนที่ว่าจะเป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ นั้น ที่โจมตีกันอยู่ก็เป็นคู่แข่งทางการเมือง ในอดีตทุกรัฐบาลก็ทำอย่างนี้มา
"ขอยืนยันว่าถ้า 4 รัฐมนตรีลาออกไป ก็จะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ทั้งนี้ ส่วนตัวได้พูดคุยกับ 4 รัฐมนตรีแล้ว และอยากให้อยู่ต่อ" นายสุริยะกล่าว
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ และเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตอบคำถามนี้กับสื่อทุกวันเลย ขอให้รอฟังความชัดเจนจากหัวหน้าพรรค เพราะทุกอย่างเป็นไปตามที่เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้ว เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเราก็จะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าจะออกจากตำแหน่งเมื่อพร้อม และเมื่อถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยจะออกพร้อมกันทั้ง 4 คน ส่วนที่มองว่าเราได้เปรียบพรรคอื่นๆ นั้น ตอนนี้เราก็เหมือนกับแม่ทัพที่ลงไปสู้ในสงครามได้เฉพาะในเวลานอกราชการเท่านั้น แต่ในขณะที่อีกข้างแม่ทัพเขาอยู่สู้กันเต็มเวลา
"สำหรับผมตอนนี้ได้เก็บงานมาอย่างต่อเนื่อง และเก็บไปได้เกือบหมดแล้ว ผมเองก็ทำงานทุกวัน ตอนนี้งานที่รับผิดชอบก็หายไปเกินครึ่ง และเกือบจะหมดแล้ว จะได้ไม่มีอะไรที่ค้างคาใจ ตอนนี้ก็รอจังหวะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งตรงนี้ขอบอกเวลาว่ามันไม่ได้ง่าย เพราะมีอุปสรรคเยอะ ส่วนตัวผมก็พร้อมอยู่แล้ว จะให้ออกเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ซึ่งต้องปรึกษาอีกทั้ง 3 ท่านด้วย" นายกอบศักดิ์กล่าว
ด้าน ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า การที่ 4 รัฐมนตรีของพรรคพลังประชาชนไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งนั้น มีความได้เปรียบเสียเปรียบอยู่แล้ว อยู่ที่จิตสำนึก ควรต้องพิจารณาตัวเองว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะท่านสวมหมวก 2 ใบ ก็น่าจะเลือกเพียงสักใบจะดีกว่า นโยบายต่างๆ โดยเฉพาะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ออกมาในช่วงนี้ แน่นอนว่าเป็นการหวังคะแนนนิยม โดยเฉพาะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากนี้ในหลายๆ โครงการก็ยังเป็นชื่อเดียวกับพรรคการเมืองที่ 4 รัฐมนตรีเข้าไปเป็นแกนนำพรรค นอกจากนี้ยังทราบว่าจะมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในบัญชีผู้ที่จะเป็นนายกฯ ของพรรคอีกด้วย
นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ป่วยการที่จะไปถามหาสปิริต 4 รัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ เพราะมาจากการยึดอำนาจ จึงต้องรับใช้เผด็จการเท่านั้น ไม่ได้มีใจรับใช้ประชาชน และเป็นได้แค่หุ่นเชิดให้ใครบางคนสืบทอดอำนาจเท่านั้น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |