เชื่อว่าคนเยอะแยะมากมายในยุคนี้ โดยเฉพาะรุ่นลุงรุ่นป้า จะห่างเหินโรงภาพยนตร์ตามสถานที่ต่างๆ นอกบ้าน ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยเดี๋ยวนี้ที่สามารถเปิดโรงหนังในบ้านได้ทุกวันและทุกเวลาที่เราสะดวก หรือคิดอยากจะดู
เพียงแค่คลิกนิ้วเดียวบนรีโมต หนังใหม่-หนังเก่ามีให้เลือกดูเอาที่สบายใจกันได้เต็มที่ หากเป็นสมาชิกเคเบิลทีวี หรือโปรแกรมดูหนังซีรีส์ต่างๆ แม้กระทั่งในยูทูบ ก็สามารถเปิดหาดูได้อีกต่างหาก
แต่อยากจะบอกว่า ความสุขสบายด้วยการนอนดูหนังในบ้านนั้น บรรยากาศมันแตกต่างจากการออกไปดูหนังนอกบ้าน หรือไปตามโรงหนังในห้างสรรพสินค้าต่างๆ หรือตามสถานที่ต่างๆ โดยสิ้นเชิงค่ะ
อย่างน้อยที่สุด อันดับแรกก็คือ การที่คุณจะต้องบริหารจัดการเวลาส่วนตัวของคุณให้ปลอดจากทุกเรื่องให้ได้ระยะเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไป
คนที่นอนดูหนังอยู่บ้าน ถ้าโทรศัพท์ดัง หรือเห็นไลน์แว่บขึ้นมา เชื่อว่าอย่างน้อยที่สุดก็ต้องหยิบมือถือขึ้นมาส่อง ..ชิมิๆ
ความแตกต่างอันดับที่สองของการดูหนังนอกบ้านคือ คุณจะได้เปิดหูเปิดตาออกจากสมาร์ทโฟน หรือจอสี่เหลี่ยมภายในบ้านนะคะ ว่าข้างนอกเดี๋ยวนี้เขามีอะไรกันบ้าง ไม่ใช่เอะอะก็บอกว่าช็อปออนไลน์สะดวกที่สุด โดยที่ไม่ได้จับเนื้อผ้าเลยว่า คุณจะใส่ได้ไหม หรือชอบจริงไหม
การเปิดหูเปิดตา รวมถึงการได้เห็นว่าลูกเล็กเด็กแดงเดี๋ยวนี้เขามีรสนิยมในการดูหนังเรื่องแบบไหนเป็นพิเศษบ้าง อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าทำไมคนที่ดูหนังไทยเรื่อง หอแต๋วแตก!! เขาถึงหัวเราะงอหายกันมากมายทั้งๆ ที่เกือบทั้งเรื่องด่ากันมากกว่าพูดกัน
อันดับที่สามจากการดูหนังนอกบ้านที่ไม่เหมือนในบ้านก็คือ การเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว ...ข้อนี้หลายคนอาจจะเถียงว่าอยู่ในบ้านสิ ใกล้ชิดกันไม่ต้องเปลืองกะตังค์ แต่ข้อเท็จจริงคือ ส่วนใหญ่พอเข้าบ้านต่างคนก็จะเข้ามุมส่วนตัวของตัวเองใช่หรือไม่ และหลายคนหากเจอหนังที่ตัวเองไม่ชอบ ก็ยิ่งจะขอปิดประตู และสำทับว่า ห้ามเปิดเสียงดัง..จริงไหม?? แต่การไปดูหนังนอกบ้าน หมายถึงว่าทุกคนตกลงกันแล้วว่า..เรื่องนี้!! ที่พร้อมจะดูด้วยกัน
อันดับสี่ คือมารยาทในการรอ ที่ถือหลักการ first come first serve ไม่ใช่คุณป้าอายุมากเชิญก่อนเลย หรือคุณพ่อให้เลือกที่นั่งตามใจชอบได้นะคะ
อันดับสุดท้าย เห็นจะเป็นการที่เราจะได้ดูโฆษณาสินค้าต่างๆ แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย และพบว่าเขาพยายามลงทุนกันขนาดไหน เพราะในโรงหนังเราไม่สามารถกดปุ่มเปลี่ยนช่องเพื่อปฏิเสธโฆษณา ส่วนอันดับรั้งท้ายที่เป็นประโยชน์คือ เราเหมือนเป็นเจ้าของโรงหนังทั้งโรงเลยทีเดียว เพราะบางเรื่องมีคนไม่ถึง 10 คน
มันคือประสบการณ์ที่สอนให้ทุกคนได้รู้และเข้าใจได้ว่าโลกมันเปลี่ยนไปขนาดไหน ถึงแม้ราคาค่าตั๋วค่อนข้างแพงเสียเหลือเกิน.
"ป้าเอง"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |