มท.โยนจังหวัดรับ ค่าเบี้ยเลี้ยง-ที่พัก วิทยากรไทยนิยม


เพิ่มเพื่อน    

“เพื่อไทย” ซัดไทยนิยมยั่งยืนช่วงหน้าข้าวหน้าเหล้าต้องมีจุดหมายแอบแฝงแน่ มหาดไทยขมีขมันลุยร่อนจดหมายถึงผู้ว่าฯ กำชับทุกองคาพยพต้องร่วมกิจกรรม โดยเฉพาะการคัดเลือกรายชื่อวิทยากรมาให้ มท.ในวันที่ 6 ก.พ. จังหวัดซวยแบกรับค่าใช้จ่ายเองไม่เกี่ยวเค้ก 2 พันล้าน
 เมื่อวันอาทิตย์ยังคงมีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมยั่งยืนของ  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะการให้ชุดปฏิบัติการทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และผู้นำชุมชนกว่า 7 ชุดลงพื้นที่ทั่วประเทศ
โดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวเรื่องนี้ว่า เมื่อใกล้เลือกตั้งรัฐบาลคงมีจุดมุ่งหมายอะไรอยู่ แต่สิ่งหนึ่งที่ทราบทุกครั้งที่ลงพื้นที่คือ ประชาชนจะถามเสมอว่าเมื่อไหร่จะมีการเลือกตั้ง เพราะเขาหวังว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้น 
ขณะเดียวกันที่กระทรวงมหาดไทย ภายหลัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะกรรมการและเลขานุการกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนได้ระบุว่า ในวันที่ 9 ก.พ.ที่เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์จะมอบนโยบายแก่ตัวแทนทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ตั้งแต่ 09.00-17.00 น. และวันที่ 12-19 ก.พ. ชุดที่รับฟังนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์  7,463 ทีม จะไปทำความเข้าใจกับชุดปฏิบัติการระดับตำบลเพื่อเริ่มปฏิบัติการจริงระดับหมู่บ้าน โดยลงพื้นที่ 81,064 หมู่บ้านพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 21 ก.พ. ซึ่งจะใช้เวลา 3-4 เดือนลงพื้นที่ 4 ครั้ง พร้อมจัดงบประมาณไว้ 2 พันล้านบาท เป็นค่าอาหารสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 4 ครั้ง 
      มีรายงานจาก มท.แจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 ก.พ. มท.ในฐานะฝ่ายเลขานุการกรรมการฯ ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศให้แจ้งบุคลากรต่างๆ ประกอบด้วย ผู้ว่าฯ, รองผู้ว่าฯ ที่ได้รับมอบหมาย,  ปลัดจังหวัด, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.), คลังจังหวัด, เกษตรและสหกรณ์จังหวัด, ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด, ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด, พัฒนาการจังหวัด, ท้องถิ่นจังหวัด, นายอำเภอทุกอำเภอ รวมทั้งวิทยากรที่ผ่านการคัดเลือกในพื้นที่ 5 คน เพื่อดำเนินการถ่ายทอดนโยบายและกรอบแนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่ 
    รายงานแจ้งอีกว่า มท.ยังทำหนังสือถึงแม่ทัพภาคที่ 1-4, ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกทุกหน่วย,  รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัด (กอ.รมน.จว.) ทุกจังหวัด  และวิทยากรระดับจังหวัด (ฝ่ายทหาร) จำนวน 1 คนเข้าร่วมประชุมด้วย โดยให้เสนอชื่อวิทยากรระดับจังหวัด (ฝ่ายทหาร) 1 คน และวิทยากรที่ดำเนินการถ่ายทอดนโยบายและกรอบแนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่ไม่เกิน 5 คนมายัง มท.ภายในวันที่ 6 ก.พ.นี้ โดยคาดว่าจะมีวิทยากรครู ก.ประมาณ 462 คนทั่วประเทศ ทั้งจากทหารและมหาดไทย ครู ข.(อำเภอ) และครู ค.(ตำบล) ประมาณ 75,000 คน
     “การประชุมครั้งนี้ มท.ระบุไว้ในหนังสือแจ้งผู้ว่าฯ ในเรื่องค่าใช้จ่ายเดินทางไปราชการ ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าที่พัก ให้เบิกจ่ายกับต้นสังกัด ส่วนผู้ที่ไม่ใช่ข้าราชการให้ผู้ว่าฯ จัดหางบประมาณตามความเหมาะสม โดยรายการค่าใช้จ่ายไม่เกี่ยวข้องกับที่จัดงบประมาณไว้ 2 พันล้านบาทเป็นค่าอาหารสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ”
นอกจากนั้น มท.ได้ลงรายละเอียดการจัดทำแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนในระดับจังหวัดไว้ว่า ให้จัดทำคำสั่งหรือประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนระดับจังหวัด ตามองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ที่กำหนด ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 21/2561 ลงวันที่ 23 ก.พ.61 โดยให้คัดเลือกบุคลากรเพื่อเป็นตัวแทนวิทยากรระดับจังหวัด (ครู ก.) จังหวัดละ 6 คน  ประกอบด้วย วิทยากรระดับจังหวัด (ฝ่ายทหาร) 1 คน และวิทยากรระดับจังหวัด 5 คน ที่มีศักยภาพและมีความสามารถในการถ่ายทอดนโยบาย แนวทางการขับเคลื่อน และกรอบการดำเนินงานสำคัญหรือชุดความรู้ 10 เรื่องให้ทีมขับเคลื่อนฯ ระดับตำบลได้อย่างเข้าใจ
    ทั้งนี้ชุดความรู้ 10 เรื่อง คือ 1.สัญญาประชาคมผูกใจไทยเป็นหนึ่ง ด้วยการสร้างความสามัคคีปรองดอง จัดให้มีการทำสัญญาประชาคม หรือเรียกอย่างอื่นให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายเพื่อรับรู้และปฏิบัติตามร่วมกัน 2.คนไทยไม่ทิ้งกัน ด้วยการดูแลผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 3.ชุมชนอยู่ดีมีสุข ด้วยการพัฒนาความเป็นอยู่ อาชีพ และรายได้ให้แก่ประชาชน 4.วิถีไทยวิถีพอเพียง ด้วยการส่งเสริมให้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต รวมทั้งเสริมสร้างวินัยการออมในทุกช่วงอายุ 5.รู้สิทธิ รู้หน้าที่ และกฎหมาย ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องสิทธิ หน้าที่ และการเป็นพลเมืองที่ดี 6.รู้กลไกการบริหารราชการ ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชน ทั้งเรื่องกลไกการบริหารราชการแผ่นดินแต่ละระดับ และการบริหารงบประมาณที่มุ่งประโยชน์แก่ประชาชน 7.รู้รักประชาธิปไตยไทยนิยม ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับหลักธรรมาภิบาล 8.รู้เท่าทันเทคโนโลยี ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับเทคโนโลยี ให้ความสำคัญต่อการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องผ่านโครงการสำคัญ เช่น อินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน 9.ร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด  บูรณาการการดำเนินงานของทุกภาคส่วนในการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจร และ  10.งานตามภารกิจของทุกหน่วยงาน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"