11  ธ.ค.61-  ที่ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้  นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง  สักการะองค์พระพรหม ณ บริเวณศาลพระพรหม อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการฯแจ้งวัฒนะ  เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเข้าทำหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยมีการโปรดเกล้าแต่งตั้งเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 

นายฐิติเชฏฐ์  ให้สัมภาษณ์  ว่าวันนี้ได้ตั้งจิตอธิฐานสักการะพระพรหมว่าขอให้ทำงานประสบความราบรื่นและประสบความสำเร็จ   และพร้อมกับบอกพระพรหมว่าจะตั้งใจทำงาน   ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต  และจัดการเลือกตั้ง โดยใช้หลักกฎหมาย และเป็นไปโดยความเที่ยงธรรม  

"ที่ผ่านมาผมก็ประกอบอาชีพอิสระ  จนถึงปัจจุบัน ผมว่าผมมีความกล้าหาญในการดำเนินการต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด ให้เป็นไปด้วยความเที่ยงธรรม  เนื่องจาก กกต.เป็นองค์กรอิสระ  และไม่อยู่ภายใต้อาณัติของบุคคลหนึ่งบุคคลใด  เนื่องจากว่าจะต้องทำหน้าที่ของตัวเอง อย่างอิสระ และปราศจากการครอบงำ ของทุกองค์กร"นายฐิติเชฏฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า การเข้ามาทำหน้าที่ภายใต้สถานการณ์ที่ถูกวิจารณ์ รู้สึกอย่างไร    กกต.ผู้นี้ตอบไม่รู้สึกหนักใจ แต่ต้องดูว่าที่ประชุม กกต.มีเหตุผลอะไร จึงมีมติต่อเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น    และเมื่อถามต่อว่าได้ติดตามเรื่องบัตรเลือกตั้ง  และการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่    นายฐิติเชฏฐ์  กล่าวว่าได้ติดตาม แต่ยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่เคยเข้าประชุม ขอให้ได้มีโอกาสเข้าประชุมก่อน  จึงจะมีแนวทางที่สุจริตและเที่ยงธรรม  และถูกต้องตามกฎหมายแน่ๆ 

ถามว่าย้ำว่า มั่นใจการทำหน้าที่ของ กกต.ทั้ง  7คน  ที่ต้องทำหน้าอย่างสุจริต เที่ยงธรรม ในการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่    นายฐิติเชฏฐ์ ยืนยันว่ามั่นใจ  เพราะกระบวนการที่มีการสรรหา   ซึ่ง กกต. ตั้งแต่กรรมการสรรหาก็มีการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด และที่ผ่านความเห็นของ สนช. ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เราจึงมีความมั่นใจต่อ กกต.ทั้ง 7 คน   จะจัดการเลือกตั้งด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม  และเชื่อมั่นว่าจะไม่มีปัญหาการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้จะเป็นที่ยอมรับของประชาชนและนานาชาติ.

เมื่อถามอีกว่าเตรียมรับมือกับการเลือกตั้งที่มีกลไกซับซ้อนในรัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างไร    นายฐิติเชฏฐ์   กล่าวว่าจะใช้ประสบการณ์ที่เป็นนักกฎหมายกว่า 35 ปี  ถ้าเรายืนอยู่บนหลักความถูกต้อง และความชอบด้วยกฎหมาย ก็ไม่ต้องหนักใจ  เพราะถ้าทำตามนี้ทุกอย่างก็จะเป็นไปด้วยความถูกต้อง  ส่วนการที่นักการเมืองวิจารณ์ว่า กกต.ยังต้องอยู่ภายใต้มาตรา 44  นั้น  ขอไม่วิจารณ์ เพราะต้องการเป็นกลางในทางการเมือง   และไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายบริหาร  นิติบัญญัติ หรือ ตุลาการ ไม่ขอก้าวล่วงไป.