สองหนุ่มนักเที่ยวแย่งจีบพนักงานสถานบันเทิงกลางเมืองสงขลา แฟนเก่าบาดตาแฟนใหม่คว้าไปครอง เกิดชกต่อยกันกลางร้าน ก่อนที่แฟนเก่าจะชักปืนจ่อยิง 2 นัดฆ่ามารหัวใจแล้วเผ่น ผบ.ตร.กำชับท้องที่จับคนร้ายให้ได้ ระบุเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ
    เมื่อกลางดึกย่างเข้าวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ร.ต.อ.ธเนศ คงประดิษฐ์ ร้อยเวร สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งเหตุยิงกันมีคนได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ภายในสถานบันเทิงฟรีด้อม ตั้งอยู่ริมถนนกาญจนวนิชย์ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบพนักงานร้านยืนรอตำรวจอยู่ จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณโต๊ะด้านหน้าร้าน แก้ว ขวดเหล้า แตกกระจัดกระจายตามพื้น ข้างโต๊ะพบกองเลือดนอง ส่วนคนที่ถูกยิงอาการสาหัส ทราบชื่อภายหลังคือนายบุญลาภ หรือท็อป เหมศิริ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 463 หมู่ 3 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ถูกจ่อยิงเข้าบริเวณท้ายทอย 1 นัด และบริเวณลำตัวอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลา แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนมือปืนรายนี้หลังก่อเหตุได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป
    สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายบุญลาภ ผู้ตาย ซึ่งเป็นลูกค้าประจำของร้าน เข้ามานั่งดื่มเหล้ากับเพื่อน 4 คน ก่อนที่คู่อริซึ่งมากัน 2 คน เดินเข้ามาภายในร้าน พร้อมกับลากนายบุญลาภออกไปหน้าร้าน และเกิดการชกต่อยกันอย่างชุลมุน จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่นายบุญลาภวิ่งเข้ามาภายในร้านและล้มลงข้างโต๊ะ ส่วนสาเหตุสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทั้ง 2 คนเคยมีเรื่องทะเลาะกันเรื่องชู้สาว แย่งผู้หญิงกันมาก่อนหน้านี้    
    ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวมือปืนที่ก่อเหตุรายนี้แล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงคดีนี้ว่า จากการสอบสวนพยานเบื้องต้น ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ พยานได้ทำงานในร้านอาหารดังกล่าว ต่อมาตามวัน-เวลาเกิดเหตุ ผู้ตายซึ่งเป็นแฟนใหม่ของตนได้มารับประทานอาหารในร้านดังกล่าว ขณะที่ได้แฟนเก่าของตนซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุมานั่งรับประทางอาหารในร้านเช่นเดียวกัน ต่อมาผู้ก่อเหตุและผู้ตายนั้นได้มีปากเสียงชกต่อยกัน จากนั้นผู้ก่อเหตุจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายแล้วได้หลบหนีไป 
    รองโฆษก ตร.กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งสืบสวนสอบสวนและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพราะถือว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ สร้างความตื่นตระหนกให้แก่พี่น้องประชาชน โดยกำชับพนักงานสอบให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับผู้ที่ก่อเหตุเป็นสำคัญ.