สิงคโปร์วางตัว “ทายาทการเมือง” ไว้ค่อนข้างชัดเจนแล้ว ด้วยการประกาศตั้งรัฐมนตรีคลัง Heng Swee Keat (เฮงสวีเคียท) ชื่อจีน 王瑞杰 (หวางรุ่ยเจี๋ย) เป็น “ผู้ช่วยเลขาธิการพรรครัฐบาลเบอร์หนึ่ง” เมื่อสัปดาห์ก่อน
แปลว่า เฮงในวัย 57 วันนี้คือ “ตัววางอันดับหนึ่ง” ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนกยกรัฐมนตรีแทนหลี่เสียนหลงในไม่นานเกินรอ
รัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรม Chan Chun Sing วัย 49 ได้ตำแหน่งในพรรค People’s Action Party (PAP) เป็น “ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคหมายเลขสอง”
รัฐมนตรีสาธารณสุข Gan Kim Yong อายุ 59 จะเป็น “ประธานพรรค”
นายกฯ ลีเขียนในเฟซบุ๊กตัวเองว่า “การเปลี่ยนผ่านระดับผู้นำเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนและละเอียดอ่อนเสมอ การเปลี่ยนผ่านไปยังทีมใหม่ที่จะนำเราสู่สถานการณ์หลังเหลือตั้งครั้งหน้าเป็นเรื่องสำคัญไม่เพียงแต่สำหรับพรรคเท่านั้น แต่ยังสำคัญต่ออนาคตของสิงคโปร์ด้วย”
เป็นไปได้ว่านายกฯ ลีอาจจะยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ในปีหน้าเพื่อปูทางสู่การผลัดใบครั้งใหญ่ของประเทศ
หากเฮงสวีเคียทขึ้นเป็นนายกฯ แทนหลี่เสียนหลงหลังเลือกตั้งครั้งหน้า ก็จะเป็นการเปลี่ยนผู้นำครั้งที่สามในประวัติศาสตร์การเมือง 53 ปีของสิงคโปร์
และเขาจะเป็นนายกฯ คนแรกที่ไม่อยู่ในแวดวงตระกูลลี
ลีกวนยูเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก ตามมาด้วยโก๊ะจ๊กตง ซึ่งแม้จะไม่ใช่คนในตระกูลลีแต่ก็มีความใกล้ชิดกับลีกวนยูและหลี่เสียนหลงอย่างยิ่ง
ต่อจากโก๊ะจ๊กตงก็คือลูกชายตระกูลลีซึ่งเคยประกาศว่าเขาจะก้าวลงจากตำแหน่งนี้ก่อนจะถึงวัย 70 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า
เฮงสวีเคียทเริ่มต้นอาชีพหลังจบมหาวิทยาลัยด้วยการเข้าเป็นตำรวจ ต่อมาเข้ารับราชการพลเรือนและก้าวสำคัญที่นำเขาเข้าสู่การเมืองคือการเป็นเลขาฯ ส่วนตัวของนายกฯ ลีกวนยูผู้พ่อ
เฮงเป็นรัฐมนตรีคลังตั้งแต่ปี 2015 ก่อนหน้านี้เขาเป็นรัฐมนตรีศึกษา และเคยเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางของประเทศมาก่อน
เรื่องฮือฮาเกี่ยวกับตัวเขาคือ การ “วูบ” ล้มลงระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2016 ด้วยอาการโรคสมอง เขาพักรักษาตัวอยู่ 3 เดือน และกลับมาทำงานตามปกติ
ก่อนหน้านี้ เฮงให้สัมภาษณ์ Bloomberg TV ว่า คณะรัฐมนตรีใหม่จะต้องมีพันธกิจที่จะทำงานใกล้ชิดกับหุ้นส่วนของสิงคโปร์ทั่วโลกและดูแลมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชนสิงคโปร์
เขายอมรับว่ารัฐบาลอาจต้องทบทวนตัวเลขพยากรณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ เพราะความแน่นอนด้านการค้าระหว่างประเทศมีสูงกว่าที่เคยประเมินไว้
ปีนี้ นายกฯ หลี่เสียนหลงอายุ 66 แม้จะก้าวลงจากตำแหน่งนายกฯ ในอนาคตอันใกล้ ก็เชื่อว่าเขาคงจะยังรักษาบทบาทในฐานะที่ปรึกษาเหมือนที่เขาขอให้คุณพ่อรับตำแหน่ง “รัฐมนตรีที่ปรึกษา” อยู่ระยะหนึ่ง
เฮงเป็นผู้แทนราษฎรจากเขต Tampine GRC ตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปปี 2011
ก่อนกระโจนลงมาสมัคร ส.ส. เฮงเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางสิงคโปร์ระหว่าง 2005-2011
สะท้อนว่าเขามีความรู้ความสามารถด้านการเงินและเศรษฐกิจที่นายกฯ หลี่เสียนหลงไว้วางใจ และเชิญชวนมาเข้าพรรคเพื่อวางตัวเป็นหนึ่งในผู้นำรุ่นใหม่
เฮงเรียนจบปริญญาตรีและโทด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ของอังกฤษ และได้ปริญญาโทใบที่สองด้านรัฐประศาสนศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดของสหรัฐ
การเมืองสิงคโปร์วางแผนการรับช่วงอำนาจไว้ค่อนข้างชัดเจน ไม่ต้องการให้มี “เซอร์ไพรส์” ซึ่งแตกต่างไปจากการเมืองเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียที่เพิ่งผ่าน “ช็อก” ครั้งใหญ่เมื่อมหาธีร์ โมฮัมหมัด จับมือกับอันวาร์ อิบราฮิม โค่นนายกฯ นาจิบ ราซัค
และเมื่อพ้นจากคนตระกูลลีแล้ว ผู้นำการเมืองสิงคโปร์คนต่อไปจะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายหลายด้านโดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนระเบียบโลกใหม่อันเกิดจากแนวทางพลิกผันของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อเมริกาและการสยายปีกของจีนภายใต้การนำของสี จิ้นผิง
จับตาดูการเมืองของเกาะเล็กๆ แต่ฤทธิ์เดชเหลือร้ายแห่งนี้ให้ใกล้ชิด เพราะเมื่อความไม่แน่นอนระดับโลกสูง อะไรๆ ก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |