ประชาธิปไตยแบบ...พออยู่ๆ กันไปได้


เพิ่มเพื่อน    

      ว่าไปแล้ว...การดูด การอม การเคี้ยว การกลืน ไปจนถึงการกัดนิด กัดหน่อย ตอดนิด ตอดหน่อย ของบรรดา นักการเมือง ทั้งหลายในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเก่า พรรคใหม่ พรรคเชียร์เผด็จการ เชียร์ประชาธิปไตย ก็ตามแต่ แม้จะดูน่าเบื่อ น่ารำคาญอยู่บ้าง แต่ถ้าพยายาม ทำใจ มองให้ออกไปทาง น่ารัก-น่าหมั่นไส้ ไม่ถึงกับน่าเกลียด น่าทุเรศ เวทนา อะไรกันมากมาย อาจพอช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาลงไปได้มั่ง สำหรับการ มองข้ามช็อต ไปถึงอนาคตเบื้องหน้า...

                                                          ------------------------------------------------------

      ทำไงได้...ในเมื่อด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้ สิ่งนี้ย่อมเป็นไป หรือในเมื่อประชาชนเป็นเช่นไร นักการเมืองท่านก็ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ เพราะนักการเมืองในแต่ละพรรค แต่ละเขต ก็คงไม่ต่างจากภาพสะท้อนของประชาชนไม่ว่ามากหรือน้อยในเขตเลือกตั้งนั้นๆ นั่นแหละ ไม่งั้นท่านคงไม่มีสิทธิ์ยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็น ส.ส. ส.ว. อบต. อบจ. ฯลฯ ใดๆ ได้เลย คือมันคงต้องมีประชาชนที่คล้ายๆ แบบเดียวกับท่านอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย แม้จะเป็นนักการเมืองที่มาจากการ ซื้อเสียง ก็เถอะ เพราะถ้าหากไม่มีประชาชนที่เชี่ยวชาญ ช่ำชอง ในการ ขายเสียง แล้วล่ะก็ ท่านคงไม่มีสิทธิ์ นอนมา โดยไม่ต้องมีพระนำหน้าได้โดยเด็ดขาด...

                                                              --------------------------------------------------------

      ดังนั้น...เมื่อไหร่ที่ท่านประพฤติ ปฏิบัติใดๆ ไปตาม วาสนา ตามอุปนิสัยดั้งเดิมของท่าน ที่ออกจะไม่เข้าท่า เข้าทาง ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลกับชาติบ้านเมือง กับผู้คนโดยส่วนใหญ่ ก็คงได้แต่ช่วยกันด่า ช่วยกันตำหนิ ประนาม ช่วยกันสาดสากกะเบือบินเข้าใส่ ส่วนจะถึงขั้นต้อง โดดถีบ หรือต้อง เหมือนมีจังหวะใช้เท้าแหย่กัน หรือไม่ อย่างไร อันนั้น...คงต้องปล่อยให้ว่ากันตาม สันดาน ของใคร-ของมันเอาเองแล้วกัน แต่โดยสรุปรวมความแล้ว...ให้มันออกไปทาง น่ารัก-น่าหมั่นไส้ ไม่ถึงกับต้องไล่เหยียบ ไล่กระทืบ นั่นแหละ น่าจะเข้าท่ากว่า หรือให้มันเป็นไปตาม วิถีทางรัฐสภา โดยจะกัดกัน ถีบกัน แหย่เท้าใส่กันในระดับไหน ก็ให้ว่าๆ กันภายในหมู่นักการเมืองด้วยกันเองก็แล้วกัน...

                                                                ----------------------------------------------------------

เพราะไม่ว่านักการเมืองท่านจะมีฤทธิ์ มีเดช ไปถึงขั้นไหน...อย่างน้อย ก็ด้วยรัฐธรรมนูญที่อาจารย์ มีชัย ท่านออกแบบ ดีไซน์ เอาไว้แล้วล่วงหน้า ชนิดล็อกโน่น ล็อกนี่ ไว้ 3 ชั้น 4 ชั้น หรืออาจถึงขั้น 8 ชั้น เอาเลยก็ยังได้ ก็น่าจะพอช่วยให้สามารถ อยู่ๆ กันไปได้ ตามสมควร แม้ไม่ถึงกับ ถูกใจ ใครต่อใครไปซะทั้งหมด แต่คงไม่ถึงกับต้องหลุดวงโคจรไปจากความ ถูกต้อง-เป็นธรรม มากมายซักเท่าไหร่ แม้ไม่ได้ดูสูงส่ง วิลิศมาหรา เหมือนประชาธิปไตยในบ้านอื่น เมืองอื่นเขา แต่อย่างน้อย...ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ในอนาคตข้างหน้า อาจไม่ถึงกับต้อง “เละตุ้มเป๊ะ” แบบประชาธิปไตยฝรั่งเศส หรือไม่ต้องน่าอับอาย ขายหน้า แบบประชาธิปไตยอเมริกา ที่ต้อง ได้ทรัมป์มาเป็นนาย...ขายหน้าเอย อยู่จนตราบเท่าทุกวันนี้...

                                                                    ----------------------------------------------------------

      คือมันยังพอมีอะไรบางอย่าง ที่คอยช่วยประคับประคอง ไม่ให้หลุดกรอบ หลุดวงโคจร ชนิดกู่ไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี หรือแบบชนิดต้อง แพ้กันไปทั้งประเทศ  แต่ก็ไม่ถึงกับต้องเข้ามาควบคุม บังคับ ชี้นิ้วบงการ ให้ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามวรรค ตามประโยค ตามตัวอักษร แบบกระดิกตัวแทบไม่ได้ เหมือนประเภทพวก ดีพสเตท อะไรทำนองนั้น หรือแค่พอช่วยให้สามารถ อยู่ๆ กันไปได้ ส่วนจะอยู่กันแบบขึ้นช้าง ลงม้า ขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้า ลงเหว ลงนรก อันนั้น...ก็คงขึ้นอยู่กับประชาชน หรือบรรดาปวงชนทั้งหลายนั่นแล ว่าจะนิรมิต สร้างสรรค์ นักการเมือง ชนิดไหนเข้ามาในสภาฯ ให้มาเตะ มาถีบ หรือมาพูดจาหารือ ระหว่างกันและกัน...

                                                                           ----------------------------------------------------

      ถ้ามองกันในแง่นี้...โดยบรรยากาศการเมืองนับจากนี้ จึงอาจต้อง ทำใจ ให้มันอยู่แค่ในระดับน่าเบื่อ น่ารำคาญ น่าหมั่นไส้ แม้นยังมีลีลา เหมือนจะมีจังหวะใช้เท้าแหย่กัน อยู่บ้าง ก็น่าจะยังพอ อยู่ๆ กันไปได้ แต่ถ้าหากเมื่อไหร่มันถูกทำให้ออกไปทางน่าเกลียด น่าทุเรศ เวทนา หนักขึ้นเรื่อยๆ เช่น ทำให้เกิดภาพของ ความเหลื่อมล้ำ  แบบชนิดอยู่กันต่อไปไม่ได้โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะระหว่างคน 1 เปอร์เซ็นต์กับคนอีก 90 เปอร์เซ็นต์ หรือต้องแยกกันอยู่ระหว่าง หมู่บ้านประชาธิปไตย กับ หมู่บ้านเผด็จการ อันนี้...คงต้องยอมรับว่า ออกจะเป็นอะไรที่น่าหวาดเสียว น่าสยดสยองเป็นอันมาก เพราะโอกาสที่จะไปไกลถึงขั้น แพ้กันไปทั้งประเทศ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย...

                                                                               ---------------------------------------------------

      อันนี้นี่แหละ...ที่บรรดา นักการเมือง ทั้งหลาย ไม่ว่าฝ่ายเชียร์ประชาธิปไตย เชียร์เผด็จการ ฝ่ายที่เอาบิ๊กตู่-ไม่เอาบิ๊กตู่ ไปจนถึงฝ่ายที่เอาก็ไม่ใช่-ไม่เอาก็ไม่เชิง ต้องช่วยเก็บไปคิดเป็นการบ้าน ว่าทำอย่างไรถึงจะไม่ให้ความน่าเบื่อ น่ารำคาญ น่าหมั่นไส้ มันถูกยกระดับ พัฒนา กลายไปเป็นความน่าเกลียด น่าทุเรศ เวทนา จนนำไปสู่การ แพ้กันทั้งประเทศ ไม่มีฝ่ายใดเป็นฝ่ายชนะเอาเลยแม้แต่น้อย เหมือนอย่างที่คุณน้อง จตุพร ตุ๊ดตู่ ที่ท่านอาจเคยผ่านประสบการณ์การแพ้ในลักษณะเช่นนี้ มาตามสมควร ท่านถึงได้ออกมาทำอะไร เพื่อชาติ ไม่ใช่เพื่อตัวท่านเอง หรือเพื่อพรรคของท่านเอง ชนิดต้องขออนุญาต คารวะ เอาไว้  ณ ที่นี้...

                                                                            --------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Leo Rosten... If you don’t grow, you will grown smaller.- หากท่านไม่คิดจะโต ท่านก็จะตัวเล็กลง...

                                                                             --------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"