รัฐบาลออสเตรเลียเรียกร้องทางการไทยปล่อยตัวอดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรนที่ออสเตรเลียให้สถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง และขอส่งตัวเขากลับออสเตรเลียโดยทันที หลังจากทางการไทยจับกุมคุมขังไว้ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว เพื่อรอการไต่สวนส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้บาห์เรน

แฟ้มภาพ มาริส เพย์น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย / AFP

    สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2561 ว่า มาริส เพย์น รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์เรียกร้องทางการไทยปล่อยตัวฮาคิม อัลอาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน อายุ 25 ปี โดนจับกุมที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ขณะเดินทางมาพักผ่อนที่เมืองไทยพร้อมกับภรรยา โดยเป็นการจับกุมตามหมายของอินเตอร์โพลที่ออกตามคำร้องขอของทางการบาห์เรน

    อัลอาไรบีโดนศาลบาห์เรนพิพากษาลับหลังว่ามีความผิดฐานทำลายทรัพย์สิน จากการสร้างความเสียหายต่อสถานีตำรวจในบาห์เรน และตัดสินจำคุก 10 ปี เขาปฏิเสธความผิด และบอกว่าขณะเกิดเหตุนั้นเขาลงเล่นฟุตบอลให้ทีมชาติในนัดเยือนต่างประเทศ

    "ออสเตรเลียมีความห่วงกังวลที่นายฮาคิม อาลี อัลอาไรบี ยังถูกคุมขังอยู่ และเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขากลับออสเตรเลียทันที" เพย์นกล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกระทรวง "การส่งตัวนายอัลอาไรบีกลับบาห์เรน ซึ่งเป็นที่ที่เขาหนีจากมา จะเป็นการละเมิดสิทธิของเขาภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ"

    สถานเอกอัครราชทูตบาห์เรนประจำประเทศไทยแจงผ่านทวิตเตอร์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า อัลอาไรบีถูกออกหมายจับเนื่องจากคดีความมั่นคง และสัปดาห์นี้ศาลอาญาของไทยจะพิจารณาว่าจะส่งตัวเขาเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้บาห์เรนหรือไม่

ภาพ Twitter @MARYAMALKHAWAJA

    นักฟุตบอลซึ่งเล่นให้กับสโมสรกึ่งอาชีพในกรุงเมลเบิร์นของออสเตรเลียผู้นี้กล่าวกับตัวแทนของฮิวแมนไรต์วอตช์เมื่อวันศุกร์ว่า เขาเสี่ยงต่อชีวิตหากถูกส่งตัวกลับบาห์เรน และกล่าวว่าเขาเคยโดนเจ้าหน้าที่บาห์เรนซ้อมทรมานเพราะพี่ชายของเขาเคลื่อนไหวทางการเมืองระหว่างเหตุการณ์อาหรับสปริงเมื่อปี 2554 เขาหนีไปออสเตรเลียในปี 2557 และได้สถานะลี้ภัยทางการเมืองในปี 2560

    เพย์นกล่าวด้วยว่า เธอได้หารือกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เกี่ยวกับกรณีของอัลอาไรบีแล้ว และออสเตรเลียจะยังคงประสานงานกับไทยเพื่อขอให้ส่งตัวอัลอาไรบีกลับออสเตรเลียอย่างปลอดภัยโดยทันที.