9 ธ.ค. 2561 - นายศรายุธ เล็กผลิผล หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม บริษัท ไรส์แลนด์(ประเทศไทย) จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ อาร์ติซาน รัชดา เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทไรส์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากฮ่องกง ได้มองประเทศไทย เป็นทางยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ และมีความต้องการที่จะทำธุรกิจระยะยาวในประเทศไทย โดยในขณะนี้บริษัทได้ลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แล้ว 2 โครงการ คือ โครงการคอนโดมิเนียม อาร์ติซาน รัชดา วงเงินลงทุน 6,000 ล้านบาท และ โครงการบ้านเดี่ยวระดับบน เลคซีรีน พระรามสอง อีก 400 ยูนิต ซึ่งบริษัทวางแผนการลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ดีในปี 2562 บริษัทมีแผนจะเปิดคอนโดมิเนียมใหม่อย่างน้อย 3 โครงการ ในย่านธุรกิจ และสถานีรถไฟฟ้าหลัก ประกอบไปด้วย โครงการสถานีรถไฟฟ้าลำสาลี จำนวน 2,400 ยูนิต และโครงการตรงย่านพร้อมพงษ์ ใกล้เอ็มควอเทียร์อีก 1 โครงการ และสุดท้ายโครงการในโซนเพชรบุรีตัดใหม่อีก 1 โครงการ โดยขณะนี้ทั้ง3 โครงการอยู่ระหว่างการจัดการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือ EIA ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วนี้ โดยทั้งสามโครงการใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท
นอกจากนี้กลุ่มไรส์แลนด์ ยังมีความสนใจในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อีกหลายรูปแบบ อาทิ โรงแรม5ดาว อาคารสำนักงาน เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ และศูนย์การค้า
“บริษัทของเราอยากทำธุรกิจระยะยาวในประเทศไทย จึงมีแผนงานลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยภายใน5ปีข้างหน้า นอกจากการทำที่อยู่อาศัยแล้ว เรายังจะพัฒนาโครงการโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งมองทำเลไว้ในย่านอโศกถึงพระราม9 รวมถึงอาจจะเปิดศูนย์การค้าโดยร่วมกับพันธมิตรในต่างประเทศ นำโมเดลค้าปลีกรูปแบบใหม่ๆมาให้บริการต่อลูกค้าชาวไทย” นายศรายุธ กล่าว
นายศรายุธ ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดขายโครงการอาร์ติซาน รัชดาว่า ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือน ก็สามารถทำยอดขายทะลุเป้ากว่า 80% หรือทำรายได้มากกว่า 3,600 ล้านบาท โดยใสส่วนของลูกค้าต่างชาติ ทำยอดขายได้เต็มโควตา 49% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด โดยใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์ และขณะนี้เป็นในช่วงเปิดขายให้กับลูกค้าชาวไทย ซึ่งในขณะนี้ทำยอดขายได้แล้ว 40% ของห้องทั้งหมด และในขณะนี้โครงการได้จัดงาน The New Experience Party” จัดโปรโมชั่นพิเศษ จองภายในวันที่ 8-15 ธันวาคม 2561 พร้อมมอบส่วนลดพิเศษในงาน สูงสุดถึง 1 ล้านบาท พร้อมของรางวัลอีกมากมาย
นอกจากนี้บริษัทจะเร่งการทำประชาสัมพันธ์โครงการให้กับลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่า หลังจบโปรโมชั่นนี้จะทำให้ยอดขายในส่วนลูกค้าคนไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 60% เป็นอย่างน้อย
“โครงการของเราได้รับการตอบรับดีมากจากลูกค้าต่างชาติ เพราะด้วยทำเลที่เป็นย่านธุรกิจใหม่ ซึ่งลูกค้าหลักเป็นชาวจีน 70% ที่เหลือเป็นฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน และกัมพูชา รวมกันอีก30%”
ทั้งนี้ยังเชื่อว่า ความต้องการที่อยู่อาศัย ในย่านพระราม9 จะยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นย่านธุรกิจใหม่ จะมีพื้นที่ว่างอีกหลายแปลงที่จะพัฒนาเป็นโครงการออฟฟิศสำนักงานขนาดใหญ่เกิดขึ้นอีกมาก รวมถึงจะมีการเปิดตัวกระทรวงวัฒนธรรม และการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่จะทำให้พื้นที่ย่านพระราม9 -รัชดา กลายเป็นสยามสแควร์แห่งที่สอง และปัจจัยเหล่านี้จะผลักดันความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |