8 ธ.ค.61 - นายนคร มาฉิม อดีตส.ส.พิษณุโลก สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เตรียมพร้อมที่จะทำสงครามประชาธิปไตย กับ เผด็จการ ครั้งสุดท้าย
ท่ามกลางการปั่นกระแสการเลือกตั้งเสมือนหนึ่งว่า คนไทยติดหนี้บุญคุณของเผด็จการ คสช. และเครือข่าย ที่คืนอำนาจ คืน สิทธิ เสรีภาพ ให้คนไทยได้เลือกตั้งกันได้แล้วนะ ในลักษณะทวงบุญคุณจากประชาชน
ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาไม่มีความชอบธรรมใดๆมาตั้งแต่ต้น เพราะพวกเขาวางแผน สมคบคิดและร่วมกันรัฐประหารปล้นอำนาจประชาชนคนไทยไป แล้วปกครอง กดขี่ ข่มเหงคนไทย มายาวนานจนเห็นประจักษ์แล้วว่า เผด็จการ คสช และเครือข่ายลิ่วล้อ ค.ร.ม. สนช. สปช/สปท กรธ สร้างวิกฤตให้คนไทย และประเทศไทย อย่างมากมายมหาศาล
1. ด้านเศรษฐกิจ เราได้เห็นการพังทลายของเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ที่มีต้นทุนการผลิตสูงทั้งปุ๋ย ยา เมล็ดพันธุ์เป็นต้น จากการที่รัฐบาลเผด็จการเชิญเจ้าสัวที่มีส่วนสนับสนุนพวกเผด็จการ ให้ยึดอำนาจประชาชนไป เข้าทำเนียบ แล้วปล่อยให้บรรดานายทุนผูกขาดเหล่านี้ ได้สิทธิพิเศษ ได้สิทธิสัมปทาน ได้อภิสิทธิ์ต่างๆ ร่ำรวยล้นฟ้า คน 1 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 40,000 คน เป็นเศรษฐีถือครองทรัพย์สิน 66.9 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ จนความเหลื่อมล้ำสูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก ส่วนคนจนยิ่งจนลงและมองไม่เห็นอนาคต จึงถือว่าในยุคเผด็จการทหารแลระบอบเผด็จการครองเมือง ได้ก่อมะเร็งร้ายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง นี่ไม่นับรวมที่ประเทศต่างๆทั่วโลกคว่ำบาตรต่อรัฐบาลเผด็จการไทย อันส่งผลกระทบต่อการค้าการลงทุนในระยะยาว
2. ด้านสังคม ที่รุนแรง และหนักหน่วงที่สุด คือ ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ทั้งยาบ้า ยาไอซ์ และสารเสพติดอื่นๆ ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน ที่อันตรายจนแทบไม่น่าเชื่อคือขบวนการยาเสพติดใช้เด็ก เยาวชนในระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาเป็นผู้จำหน่าย และ จ้างเสพ นำมาซึ่งปัญหาต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ ตั้งแต่ ปัญหาหนี้สิน ปัญหาครอบครัว ปัญหาการค้ามนุษย์ การค้าประเวณี ปัญหาอาชญากรรม นักโทษล้นคุก คดีแพ่ง คดีอาญาท่วมศาล คนไทยอย่าไปหวังให้พวกเผด็จการ หรือโจรที่ปล้นอำนาจพวกนี้มาแก้ไขเลย เพราะพวกเขาคือโจร ยิ่งคนไทยยากจน ไม่สามารถรู้เท่าทัน เล่ห์กลของพวกเขา พวกเขาก็จะได้เสวยสุขบนตำแหน่งหน้าที่ ที่ปล้นมาได้สะดวกและไร้แรงต้านทานจากประชาชนมากเท่านั้น
3. ส่วนเรื่องการเมือง การปกครอง ยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกเขาเหล่าเผด็จการคสช. และเครือข่าย ทั้ง ค.ร.ม. สนช สปช กรธ. และลิ่วล้อบริวารของเผด็จการ ได้ทำลายอย่างย่อยยับ ถึงรากเหง้า ถึงแก่นแกน โดย
3.1. วางโครงสร้างอำนาจการปกครอง ผ่านรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด ให้เป็นของเผด็จการ โดยเผด็จการ และ เพื่อเผด็จการ ยกตัวอย่าง ที่เห็นได้ชัดเจน เช่น สมาชิกวุฒิสภา 250 คน ที่ลิ่วล้อเผด็จการกำลังทำคลอดออกมาอยู่ ใช้เงินภาษีของประชาชน 1,303 ล้านบาท แต่ประชาชนไม่มีส่วนร่วม ไม่มีสิทธิเลือก แม้แต่คนเดียว
สว. เหล่านี้ คือทายาท อสูร ของระบอบเผด็จการ อำมาตย์อย่างแท้จริง ที่จะเข้าไป โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ได้ไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง เพื่อสืบทอดอำนาจอันเลวร้าย ของเผด็จการต่อไป
3.2 พวกเผด็จการชาญฉลาด และวางแผนมาดี ที่จะใช้องค์กรอิสระแทบทุกองค์กร เป็นเครื่องมือ เช่น ตรวจสอบธุรกิจ ธุรกรรม ทางการเงินฝ่ายตรงข้ามอย่างเข้มข้น สกัดกั้นออกกฎกติกาที่อัปลักษณ์ ผิดเพี้ยน เช่น ยังไม่ปลดล็อกให้ทำกิจกรรมทางการเมือง ปลดล็อกบางส่วน ไม่อนุญาตให้หาเสียง แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาและเครือข่าย ที่สนับสนุนเผด็จการ ทั้ง คสช ค.ร.ม. นักการเมืองและพรรคการเมืองที่สนับสนุนเผด็จการ กลับเริงร่า ทำอะไรก็ได้ไม่มีอะไรผิด แถมได้รับการปกป้องคุ้มครองจากราชการและองค์กรอิสระ รวมถึงรัฐบาลเผด็จการอีกต่างหาก
3.3. พวกเขาเหล่าเผด็จการ เจนจัด และเชี่ยวชาญพอที่จะใช้ อำนาจรัฐ อย่างเต็มรูปแบบผ่านทุกกระทรวง ทบวง กรม โดยมีหัวหน้าของหน่วยงานราชการนั้นๆ ที่สยบยอมรับใช้ระบอบเผด็จการ อำมาตย์ มีข้าราชการ 2 ล้านกว่าคนเป็นเครื่องมือคอยรับใช้ และโดยให้ผลประโยชน์ตอบแทนผ่านการขึ้นเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง ค่าตอบแทน เบี้ยเลี้ยง เบี้ยประชุม บางหน่วยงานเช่นศาล และองค์กรอิสระ ได้รับการบูรบำเหน็จย้อนหลังหลายปี อิ่มหมีพีมัน สุขสบายร่ำรวยมากมาย ในขณะที่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่กำลังจะอดตาย
พวกเขากล้าที่จะใช้ ทั้งอำนาจรัฐ อำนาจเงิน การเอาเปรียบจากกฎหมาย กติกา ที่พวกเขาตั้งเอง แข่งเอง มัดมือ มัดเท้าประชาชน และนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ไม่ให้พูด ไม่ให้หาเสียง แล้วชกอยู่ฝ่ายเดียว
เมื่อหันกลับมาดูพรรคการเมือง และนักการเมือง ที่จะเสนอตัวให้คนไทยเลือก ก็กำลังสับสนอลหม่าน ต่างคน ต่างบอกว่าตนเองเป็นคนดี พรรคของตนเป็นพรรคที่ดี มีนโยบายที่จะพัฒนาและช่วยเหลือประชาชน แต่ไม่ยอมบอกประชาชนทั้งหมด อย่างตรงไปตรงมา อย่างซื่อสัตย์และซื่อตรง ทำให้คนไทยส่วนหนึ่งสับสน และทำให้เผด็จการแฝงตัวเข้ามาให้สมุนของเผด็จการ ไปรวมตัวกับ ทายาทอสูร ส ว. 250 คน ที่พวกเขาตุนไว้แล้วมาสืบทอดอำนาจต่อไปอีกยาวนาน
“ผมจึงอยากกราบเรียนพี่น้องประชาชนคนไทยอีกครั้งว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ มันคือสงครามชิงเมือง มันคือสงครามสองระบอบคือ ฝ่ายประชาธิปไตย กับ ฝ่ายเผด็จการ”
ฝ่ายประชาธิปไตย มีพรรคเพื่อไทย เป็นทัพใหญ่ มีพรรคไทยรักษาชาติ และพรรคเพื่อชาติ พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทยเป็นพันธมิตร
ส่วนฝ่ายเผด็จการ ไม่ต้องระบุชื่อ ที่เห็นได้ชัดเจน ก็คือพรรคที่ประกาศตัวว่าจะเอาพลเอกประยุทธ์ และ คสช ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ หรือบอกว่า มีนโยบายสอดคล้องกับรัฐบาลนี้ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี หรือแม้แต่บางพรรคการเมือง จะพยายามปิดบังซ่อนเร้น อำพราง ไม่พูดความจริงอย่างตรงไปตรงมากับประชาชน เช่น รอผลการเลือกตั้งก่อน ยังไมาถึงเวลาที่จะพูด เอาไว้พูดกันทีหลัง ให้ฟันธงได้เลยว่า นักการเมืองและพรรคการเมืองพวกนี้ คือตัวแทนของเผด็จการ เป็นแนวร่วมของเผด็จการ มันจะหาเหตุผลอ้างสารพัดแล้วไปรวมกันจัดตั้งรัฐบาลเผด็จการ สืบทอดอำนาจต่อไป เหยียบหัวประชาชนคนไทย เสวยสุขกันต่อไป
“ผมจึงขอฝากบทความนี้ให้คนไทยที่รักทุกท่านได้โปรดพิจารณาด้วยสติ ปัญญา และอย่างไม่มีอคติ แล้วตัดสินใจเลือกฝ่ายประชาธิปไตยอย่างถล่มทลาย เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นที่พม่า และมาเลเซีย แล้วมาล้างพิษ ล้างมรดกบาป กฎโจรที่กดขี่ ข่มเหงคนไทยให้หมดไป ทวงคืน สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคและ ภราดรภาพ สร้างความอยู่ดีมีสุข แก่คนไทยทั้งหมด ปลดปล่อยคนไทยออกจากการเป็นทาส เป็นไพร่ ด้วยกันนะครับ”
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |