สนช.หวั่นกฎหมายตั้ง “กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา” ส่อเค้าแท้ง ไม่ทันตามกำหนดรัฐธรรมนูญ หลังมีเส้นตายในวันที่ 6 เม.ย. แต่ ครม.ยังอืดอาดไม่ส่งเรื่องให้สภาพิจารณา
 
มีรายงานจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แจ้งว่า ตามปฏิทินระเบียบวาระการประชุมของ สนช.ในวันที่ 8- 9 ก.พ.นี้ ยังไม่มีการบรรจุร่างพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเข้าสู่การพิจารณาวาระที่ 1 เลย ทำให้สมาชิก สนช.หลายคนแสดงความเป็นห่วงว่า กระบวนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนฯ ที่รัฐธรรมนูญ 2560 บัญญัติไว้ในมาตรา 285 จ.ที่ว่า “การศึกษาให้ดำเนินการ ตรากฎหมายเพื่อจัดตั้งกองทุน ตามมาตรา 54 วรรคหกให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้” อาจเสร็จไม่ทันวันที่ 6 เม.ย.นี้ ซึ่งทำให้เลยกำหนด 1 ปีของการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ

แหล่งข่าวกล่าวว่า  เหตุที่ล่าช้าเพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่ส่งร่างพ.ร.บ.กองทุนฯมายัง สนช. ทั้งๆ ที่ ครม.ได้มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กองทุนฯ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2560 ตามที่คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาเสนอไป จากนั้น ครม.ได้ส่งร่างพ.ร.บ.กองทุนฯ ไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา  หลังจากผ่านไป 2 เดือน ครม.ได้นำเข้าที่ประชุมเมื่อวันที่ 30 ม.ค.พิจารณาร่างพ.ร.บ.นี้และได้ปรับแก้อีกครั้งเกี่ยวกับการจัดสรรเงินให้กับกองทุน จึงส่งให้กฤษฎีกาไปปรับแก้อีก

“คาดว่าร่าง พ.ร.บ.กองทุนฯ จะเข้าที่ประชุม สนช.ได้อย่างเร็วก็วันที่ 15 ก.พ. เมื่อ สนช.รับหลักการก็จะตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญไปพิจารณาเพื่อแปรญัตติแล้วนำเข้าที่ประชุมสนช.วาระ 2 และ 3 ซึ่งจะเหลือเวลาน้อยมากสำหรับการนำร่าง พ.ร.บ.ขึ้นทูลเกล้าฯ และรอพระบรมราชวินิจฉัยเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยและนำมาประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อบังคับใช้ต่อไป”แหล่งข่าวกล่าวและว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียงเดือนครึ่งเท่านั้น ซึ่งถือว่าสั้นมากหากจะให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ 

สำหรับร่าง พ.ร.บ.กองทุนฯ นั้นมีวัตถุประสงค์เหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา และเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาคุณ ภาพและประสิทธิภาพครู โดยให้รัฐจัดสรรงบประมาณให้แก่กองทุน หรือใช้มาตรการหรือกลไกทางภาษีรวมทั้งการให้ผู้บริจาคทรัพย์สินเข้ากองทุนได้รับประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี.