7 ธ.ค.61 - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช.กล่าวว่า ยิ่งเจาะลึกลงรายละเอียด ยิ่งเชื่อว่าคดี 99 ศพจะกลายเป็นกรณีศึกษาระดับโลก ทั้งในแง่พัฒนาการของสถานการณ์ทางการเมือง และความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทย นอกจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเราจะเป็นอันดับ1 ของโลกแล้ว หากพิจารณาจากคดีนี้ ความเหลื่อมล้ำด้านการยุติธรรมก็น่าจะติดอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะไปตามที่ไหนดูเหมือนมีทิศทางเดียวกันคือ ยุติคดี ป.ป.ช.ตีตกยกคำร้องไปแล้ว 2 รอบ อัยการส่อว่าจะทำเป็นสำนวนมุมดำ ดีเอสไอดูเหมือนพร้อมยุติเรื่อง แม้มีคำอธิบายในทางหลักการว่าคดียังไม่จบ หากมีพยานหลักฐานใหม่ก็สามารถรื้อขึ้นมาได้ตลอดเวลา แต่กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนาว่า คดีนี้จะไม่มีวันคืบหน้าหรือไม่ 

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ต้นสัปดาห์หน้า จะเดินทางไปที่ดีเอสไออีกครั้ง หวังว่าจะมีโอกาสนั่งสนทนากับอธิบดีเพื่อสอบถามความคืบหน้า และแลกเปลี่ยนข้อมูลให้เกิดความกระจ่างต่อประชาชน หากดีเอสไอยืนยันว่าทำงานตรงไปตรงมาก็คงไม่มีปัญหา เว้นแต่มีอะไรปกปิด พูดกันชัดๆไม่ได้ ทั้งนี้ ตนมีคำถามง่ายๆ แต่หาคำตอบไม่เคยได้ เช่น 99 ชีวิตตายผิดธรรมชาติ เหตุใดไต่สวนสาเหตุการตายเพียงกว่า 20 ราย แล้วอีกประมาณ 70 รายไม่เดินต่อ หลายร้อยคดีที่บอกว่าสอบสวนเสร็จแล้วแทบทั้งหมดเป็นคดีที่ผู้ชุมนุมเป็นจำเลย ติดคุกฟรีเพราะศาลตัดสินถึงที่สุดว่าไม่ผิดก็มาก แต่คดีคนตายทำไมไม่คืบหน้า และที่บอกว่ายังค้างอยู่อีก 15 คดีคือคดีอะไรบ้าง แต่ละคดีไปถึงขั้นตอนไหน อย่างไร เชื่อว่าประชาชนที่รักความเป็นธรรมอยากทราบ ถ้าคิดว่าจะปล่อยให้เรื่องนี้หายไปกับกาลเวลาขอบอกว่าคิดผิด เพราะตนจะตามไม่เลิก และยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งจะทำให้เรื่องนี้อื้อฉาวมากขึ้น.