7ธ.ค.61-นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความบนเพจเฟซบุ๊ก Watana Muangsook ระบุว่า
รายงานของ CS Global Wealth Report 2018 ที่บอกว่าไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางรายได้เป็นอันดับ 1 ของโลกคือหลักฐานประจานความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล คสช.
สองปีที่แล้วไทยอยู่อันดับ 3 ของประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางรายได้โดยมีรัสเซียและอินเดียอยู่เหนือเรา แต่รัฐบาล คสช. ก็ได้ทำให้ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยของไทยขยายกว้างมากขึ้นจนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลก ผลสำรวจพบว่าเมื่อปี 2559 คนไทย 1% มีทรัพย์สินรวม 58% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ แต่ในปี 2561 คนไทย 1% กลับมีทรัพย์สินเพิ่มเป็น 66.9% แปลว่ามีเศรษฐีบางรายที่รวยขึ้นมากแต่คนไทยส่วนใหญ่จนลง
หากดูนโยบายของรัฐบาลแล้วไม่น่าแปลกใจที่คนรวยมีเงินเพิ่มขึ้นแต่คนจนมีเงินน้อยลง เพราะเป็นนโยบายที่ใช้คนจนเป็นช่องทางส่งต่อประโยชน์ให้กับเศรษฐีบางราย เช่น การเติมเงินให้ซิมคนจนเบอร์ละ 50 บาทต่อเดือนก็คือการเติมเงินให้เจ้าของค่ายมือถือผ่านคนจน ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของฟอร์บที่พบว่ากลุ่มเศรษฐีที่รวยขึ้นคือกลุ่มที่เข้าร่วมกับโครงการประชารัฐ คนจนจึงถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อส่งเงินไปยังคนรวยบางรายเท่านั้น
ที่จริงแล้วการลดช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยควรทำให้คนจนมีรายได้และโอกาสเพิ่มขึ้นแต่ไม่ใช่ด้วยการสงเคราะห์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เตรียมนโยบายซึ่งเคยพิสูจน์ให้เห็นว่าประสบความสำเร็จเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนแล้ว ดังนั้น การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจึงเป็นการเลือกอนาคต หากอยากยากจนและเป็นพลเมืองชั้นสองต่อไปก็ไปเลือกฝ่ายเผด็จการ แต่หากอยากได้มืออาชีพไปบริหารงานก็ต้องเลือกพรรคเพื่อไทย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |