รัฐบาลจีนไม่พอใจอย่างรุนแรงที่แคนาดาปฏิบัติตามคำร้องขอของสหรัฐ จับกุม "เมิ่ง วั่นโจว" ผู้บริหารระดับสูงของ "หัวเว่ย" ทั้งยังเป็นบุตรีของผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ จี้ให้เปิดเผยเหตุผลของการคุมขังและให้ปล่อยตัวเธอทันที นักวิเคราะห์ชี้การจับกุมที่เกิดวันเดียวกับซัมมิต "ทรัมป์-สี จิ้นผิง" อาจถูกใช้เป็นเบี้ยต่อรองการค้า
เมิ่ง วั่นโจว ภาพ scmp.com
ข่าวการจับกุมเมิ่ง วั่นโจว ประธานบริหารฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) และรองประธานบริษัท หัวเว่ย ก่อความกังวลว่าอาจกระทบต่อการพักรบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งเป็นผลลัพธ์ของการประชุมทวิภาคีระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่อาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา
สำนักข่าวเอเอฟพีกล่าวด้วยว่า การจับกุมนี้เกิดขึ้นภายหลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐเปิดการสอบสวนหัวเว่ยฐานต้องสงสัยว่าละเมิดข้อมติคว่ำบาตรอิหร่าน โดยก่อนหน้านี้ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนแห่งนี้ก็ถูกเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐตรวจสอบว่าอาจเป็นภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติ และทำให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐสั่งห้ามบุคลากรในสังกัดใช้สมาร์ทโฟนยี่ห้อนี้
กระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อการจับกุมเมิ่ง โดยเกิ้ง ซวง โฆษกกระทรวง แถลงที่กรุงปักกิ่งว่า จีนได้ส่งหนังสือแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงถึงแคนาดาและสหรัฐแล้ว และเรียกร้องให้ทั้ง 2 ประเทศชี้แจงเหตุผลของการจับกุมคุมขังทันที และให้ปล่อยตัวเธอทันทีด้วยเพื่อคุ้มครองสิทธิทางกฎหมายของเธอ
กระทรวงยุติธรรมของแคนาดาเผยในแถลงการณ์เมื่อวันพุธว่า เมิ่งถูกจับกุมที่เมืองแวนคูเวอร์ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม และทำให้สถานทูตจีนประจำแคนาดาวิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของเธออย่างร้ายแรง
คำแถลงกล่าวด้วยว่า ทางการสหรัฐต้องการให้ส่งตัวเธอในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน และวันศุกร์นี้ เมิ่งจะขึ้นศาลเพื่อฟังการไต่สวนเพื่อขอประกันตัว แต่กระทรวงไม่สามารถให้รายละเอียดมากกว่านี้ตามคำสั่งห้ามการเผยแพร่ของมูลของเมิ่ง ซึ่งเป็นบุตรีของเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยและเคยเป็นทหารช่างของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน
ด้านบริษัท หัวเว่ย ซึ่งแซงบริษัทแอปเปิลขึ้นเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกในปีนี้ กล่าวว่า บริษัทไม่รู้ว่าเมิ่งทำผิดอะไรและก็ได้รับข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับข้อกล่าวหา คำแถลงของหัวเว่ยยืนยันว่า บริษัทปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบทุกข้อที่บังคับใช้ รวมถึงกฎระเบียบและกฎหมายคว่ำบาตรและควบคุมการส่งออก ทั้งขององค์การสหประชาชาติ, สหรัฐ และสหภาพยุโรป (อียู)
วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานเมื่อเดือนเมษายนว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดการสอบสวนกรณีต้องสงสัยว่าหัวเว่ยละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ส่วนนิวยอร์กไทมส์กล่าวว่า หัวเว่ยได้รับหมายเรียกจากกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังสหรัฐ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดมาตรการแซงก์ชันอิหร่านและเกาหลีเหนือ
การจับกุมนี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ทรัมป์และสีบรรลุความตกลงด้านการค้า และทำให้นักวิเคราะห์ เช่น เย่ ถั่น นักเศรษฐศาสตร์อิสระชาวจีน มองว่า การจับกุมเมิ่งอาจถูกใช้เป็นเบี้ยต่อรองการเจรจาการค้า "การเจรจาจะเดินหน้าต่อไป แต่จะมีความเคร่งเครียดมากขึ้นด้วยเดิมพันที่สูงขึ้น" เย่กล่าวกับเอเอฟพี
อย่างไรก็ดี เกิ้ง ซวง ยืนยันว่า ทั้ง 2 ประเทศจะทำตามข้อตกลง ส่วนกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวว่า จีนจะทำตามมาตรการที่ตกลงกันไว้ทันที รวมถึงการซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐ และมั่นใจว่าจะบรรลุข้อตกลงกันได้ภายใน 90 วัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |