'ฟิล์ม'รอดคุกหวิว เจอ1ปีรอลงอาญา


เพิ่มเพื่อน    

    ศาลสั่งจำคุก "ฟิล์ม รัฐภูมิ" กับพวก 6 เดือน ปรับคนละ 5 หมื่น แต่รอลงอาญา 2 ปี คดีทำธุรกิจบัตรเติมเงินไม่มีใบอนุญาต เจ้าตัวรับผิด เผยปัจจุบันแก้ไขได้ใบอนุญาตแล้ว ยันไม่กระทบลงการเมือง
    เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 ธันวาคมนี้ ที่ห้องพิจารณา 914 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด โดยนายศราวุฒิ นนทะภา กรรมการผู้มีอำนาจ, นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ อายุ 33 ปี พระเอกนักแสดงชื่อดัง, นายธเนศ จัตวาพรพานิช อายุ 43 ปี และนายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ อายุ 38 ปี ในฐานะกรรมการบริษัท ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ตามลำดับ ในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต” 
    กรณีเมื่อระหว่างเดือน ต.ค.2559-20 ก.พ.2560 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสี่บังอาจร่วมกันประกอบกิจการให้บริการแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ภายใต้ชื่อ ‘เพย์ออล’ (Payall) และสมัครสมาชิกเพื่อสร้างบัญชีของผู้ใช้บริการ ซึ่งระบบจะตั้งบริษัทสมาชิก รหัสผ่านในการใช้งานและเติมเงินผ่านเข้าบัญชีธนาคารของจำเลยตามช่องทาง โดยระบบจะบันทึกจำนวนเงินที่เติมตามมูลค่าของผู้ใช้บริการแต่ละราย รวมทั้งนำเงินที่ชำระไว้ล่วงหน้ามาชำระค่าสินค้าและค่าบริการต่างๆ แทนเงินสด
    การกระทำของพวกจำเลย มีลักษณะร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ เป็นการโอนสิทธิการถือครองเงิน และการโอนสิทธิการถอนเงิน หรือหักเงินผ่านบัญชีหรือแอปพลิเคชันของผู้ใช้บริการโดยไม่จำกัด และไม่อยู่ภายใต้ระบบการจัดจำหน่ายตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุม ดูแลธุรกิจการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2551 และบัญชีท้ายตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุม ดูแลธุรกิจการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2551 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เหตุเกิด ที่แขวง-เขตห้วยขวาง กทม.
    พวกจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะประวัติครอบครอบครัว การทำงาน การศึกษา ของพวกจำเลย และอื่นๆ เพื่อนำมาพิจารณาประกอบคำพิพากษา 
    วันนี้จำเลยทั้งหมดเดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมทนายความ
    ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้ง 4 เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันประกอบธุรกิจบริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544 อันเป็นบทลงโทษหนักสุดเพียงบทเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ปรับ 2 แสนบาท ส่วนจำเลยที่ 2-4 ให้จำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 1 แสนบาท จำเลยทั้งสี่ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 73 ลดโทษคนละกึ่งหนึ่ง ปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 1 แสนบาท ส่วนจำเลยที่ 2-4 คงจำคุก 6 เดือน ปรับคนละ 5 หมื่นบาท 
    แต่พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดี ประกอบรายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลย เห็นว่า จำเลยทั้งสี่ได้ดำเนินการแก้ไขความผิดที่เกิดขึ้น โดยแจ้งให้ลูกค้าผู้ใช้บริการถอนเงินจากกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อไม่ให้กระทบถึงลูกค้าและร้านค้าในแอปพลิเคชันที่จำเลยทั้งสี่ควบคุมดูแล และได้ยกเลิกแอปพลิเคชันแล้ว จำเลยทั้งสี่ประกอบอาชีพเป็นกิจลักษณะ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งหมดเคยต้องโทษจำคุกหรือมีประวัติความประพฤติเสียหายร้ายแรงใด เพื่อให้โอกาสจำเลยที่ 2-4 จึงเห็นสมควรให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 2 ปี คุมความประพฤติโดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 เดือนต่อครั้งในกำหนด 1 ปี และให้ทำงานบริการสังคมตามที่จำเลยและพนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ข้อหาอื่นให้ยก
    ภายหลังจ่ายค่าปรับต่อศาลเรียบร้อยแล้ว นายรัฐภูมิกล่าวว่า ขอขอบคุณศาลมากที่เมตตาให้ตนได้กลับมาพัฒนาธุรกิจและแอปพลิเคชันเพย์ออลให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ซึ่งตอนนี้ก็กลับมาแก้ไขและได้รับใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว และก็ทำธุรกิจตามปกติ 
    “ไม่มีอะไร ผมโดนแค่ค่าปรับแล้วก็จบ แต่บอกเลยว่าตกใจเหมือนกัน เพราะตอนอยู่ในศาลเขาห้ามใช้โทรศัพท์ ตอนกำลังจะไปเสียค่าปรับ ทนายความยื่นโทรศัพท์ให้ เห็นข่าวลงเยอะมากเลยว่าฟิล์มติดคุกไปแล้ว 1 ปี พ่อแม่ผมโทร.มาเป็น 100 สาย ร้องห่มร้องไห้ ซึ่งอันนี้ก็โหดเหมือนกัน แต่เราก็เข้าใจสื่อ อยากให้ลงหัวข้อข่าวให้ถูกต้องหน่อย คือพ่อแม่ผมและญาติผมช็อกกันหมดเลยว่าผมติดคุก ซึ่งความจริงคดีแบบเนี่ยมันไม่ถึงขั้นนั้น ศาลรอลงอาญา เสียค่าปรับแล้วก็จบเรียบร้อย” นายรัฐภูมิกล่าว
    เมื่อถามว่าจะกระทบงานการเมืองที่กำลังจะสมัคร ส.ส.และเป็นโฆษกพรรคพลังท้องถิ่นไทยหรือไม่ นายรัฐภูมิกล่าวว่า ตนตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ไม่มีผล เพราะว่าเป็นเรื่องบริษัท ซึ่งยืนยันว่ายังคงสมัครรับเลือกตั้งพรรคพลังท้องถิ่นไทย โดยตนตั้งใจว่าจะลงสมัครระบบเขต เพราะว่าตนโตที่ดินแดง และเติบโตที่ห้วยขวาง จึงอยากจะลงพื้นที่ดินแดง ห้วยขวาง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"