6 ธ.ค.61 - ที่สถานีเคหะสมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พบปะกับประชาชนที่มาคอยต้อนรับ โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกวันนี้มีรถยนต์จดทะเบียนปีละ 4,000,000 กว่าคัน ส่วนถนนมีเท่าเดิม จึงจำเป็นต้องมีวิธีการเพื่อลดจำนวนรถยนต์ที่มีอายุเกิน เพื่อให้รถใหม่เข้ามาแทน แต่บางคนก็มีรายได้น้อยไม่อยากเปลี่ยนรถ จึงถือเป็นความจำเป็นหลายอย่างจึงต้องมาดู โดยเฉพาะเรื่องของการให้บริการรถสาธารณะ เช่น รถตู้ ก็จำเป็นต้องเป็นรถใหม่ ถ้าเกิน 10 ปี ก็คงจะไม่ปลอดภัย อีกทั้งมีความจำเป็นต้องสร้างทางเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ชั้นในและปริมณฑล สิ่งสำคัญจำเป็นต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟฟ้าให้ได้ก่อน แต่บางครั้งก็ติดขัดในเรื่องพื้นที่ ซึ่งเจ้าของไม่ยินยอม ก็ต้องสร้างอ้อมจนทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
ทั้งนี้ ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้สอบถามประชาชนที่มาต้อนรับว่ามาจะพื้นที่ใดบ้าง ทั้งนี้เมื่อประชาชนตอบว่ามาจากบางปู พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวกระเซ้าทันทีว่า “มาจากบางปูแล้ววันนี้ยังมีปูอยู่หรือเปล่า พื้นที่นี้เคยไป ” ก่อนกล่าวว่า “รัฐบาลพยายามที่จะสร้างงานสร้างรายได้ให้ประชาชนดีขึ้น เพราะจะให้รัฐบาลแจกอย่างเดียวคงไม่ได้ ทุกวันนี้รัฐบาลถือว่าให้มา ไม่ใช่แจก แต่ให้มาเพื่อเป็นการลดภาระ แม้จะเป็นเงินไม่กี่ 100 บาท รัฐบาลให้ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ให้มารักผมถึงได้ให้ แม้ถึงจะให้อย่างไรก็ด่าผมเพียบอยู่ทุกวัน ถ้าให้แล้วรักผมมันก็ดีซิ แต่ให้ก็ยังมาด่าผมอีกว่าน้อยเกินไป ต้องการมากกว่านี้ แล้วผมจะเอาเงินที่ไหนให้ ทั้งหมดต้องคำนึงถึงสัดส่วนการใช้งบประมาณ ซึ่งมีกฎหมายคุมอยู่ทุกฉบับ และที่ใช้ทุกวันนี้ยืนยันว่าไม่มีการใช้เกินกรอบวงเงินงบประมาณที่กฎหมายกำหนด ต้องคิดให้ดี ถ้าจะมาว่าผมต้องดูว่าทำไมสมัยก่อนเราถึงไม่มีเงิน ทำไมผู้มีรายได้น้อย จึงไม่ได้รับเงินช่วยเหลือตรงนี้ เงินไปอยู่ที่ไหนขอให้คิดดู ผมก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหนเหมือนกัน”
นายกฯ กล่าวว่า ทุกวันนี้รัฐบาลทำให้ทุกอย่างทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ ทำถนนหนทาง รวมทั้งการบริหารการจัดการน้ำทั้งประเทศ มากที่สุดใน 4 ปีเท่าที่ผ่านมา ถามว่าเอาเงินมาจากไหนก็ต้องบอกว่าเงินมันมีอยู่และยังมีเงินที่จะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยด้วย ยืนยันว่าทั้งหมดไม่เกินสัดส่วนตามกฎที่กฎหมายกำหนด หนี้สาธารณะ 41.7 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับมีคนบอกว่ารัฐบาลนี้ทำหนี้สาธารณะประเทศล้มละลาย ไม่เคยฟังอะไรเลย ไม่รู้เรื่องเลย กฎหมายบอก 60 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเกินก็อันตราย บางประเทศใช้ 200 เปอร์เซ็นต์ แต่เขามีรายได้เยอะ พวกเรามีรายได้ที่จะจ่ายภาษีเยอะหรือยังก็ยังไม่มี รัฐบาลจะต้องดูตรงนี้ว่าจะทำอย่างไรจะเดินหน้าประเทศได้ ที่สำคัญงบประมาณต้องไม่รั่วไหล ต้องระบุในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี คือระหว่างปี 2551-2580
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลพยายามทำให้ทุกคนเข้าถึงซึ่งโอกาสและรายได้ แต่ต้องเคารพกฎหมาย คนค้าขายก็ต้องพัฒนาและปรับปรุง ไม่ใช่มากล่าวหาว่าเป็นเพราะรัฐบาลทำให้ค้าขายไม่ดี วันนี้ต้องต่อสู้ เพราะการค้าขายออนไลน์มีคู่แข่งจำนวนมาก ตนขอถามว่าตนใช้อำนาจของตนมาทำร้ายพวกคุณหรือยัง จับพวกคุณไปทำอะไรหรือเปล่า มีแต่พูดเสียงดุบ้างเท่านั้น บางเวลาก็ตลกและน่ารักบ้าง ยืนยันว่าไม่มีอะไรกับใครอยู่แล้ว ส่วนถ้าต้องเจอกับการเมือง เรื่องการเมืองก็ว่ากันไป
“สิ่งสำคัญที่สุดก็อย่าลืมงานอุ่นไอรักคลายความหนาวที่จะมีขึ้น ขอให้ทุกคนไปเที่ยวชมกัน เป็นการแสดงถึงความรักความสามัคคี และความจงรักภักดีของพวกเราที่มีให้กับ 3 สถาบันหลักของชาติ ขอให้รักกัน ถ้าไม่รักกัน ไม่สามัคคีกัน ทุกอย่างก็จะกลับไปที่เก่า หรืออยากจะให้กลับไปอยู่ที่เดิม ไม่ได้ประเทศเราจำเป็นต้องสงบ อย่าลืมว่า 4 ปีที่ผ่านมาทุกอย่างแม้จะสงบแต่ก็ยังมีปัญหาบ้าง การทำความผิดการทุจริตทำได้ไม่มากนัก ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย ยอมรับว่ายังมีอยู่ ยังเห็นได้ว่ามีการทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ทุกวัน รวมทั้งเทศกิจ ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา ทุกประเทศก็มีแบบนี้เช่นกัน แต่ทั้งหมดต้องระมัดระวังว่าทำอย่างไรสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น และมีความมั่นคงเกิดขึ้น ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ เจ้าหน้าที่ เอกชน ประชาชน ผู้นำทางการเมือง และผู้นำทางการเมืองท้องถิ่น”นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ขอร้องว่าอย่าเอาเรื่องการเมือง อย่าเอากฎหมายมาสู้กัน ต้องเอากฎหมายที่เขียนไว้เพื่อคนทุกคนมาทำให้ได้ ใครที่ไม่เห็นชอบ ไม่มา ไม่ยอมมาดูกฎกติกา ก็คิดกันเอาเอง ถ้าไม่มาก็คือไม่ต้องมา แล้วถ้าประชาชนจะเลือกกลับเข้ามาอีกก็ตามใจ ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว ไม่เคารพกติกา เป็นนักมวยขึ้นเวทีแล้วกรรมการเรียกมาชี้แจง นักมวยสองข้างไม่ยอมมา ถ้าไม่มาก็เลิกชกไปเสีย ประชาชนก็อย่าไปดูและต้องคิดกันเอาเอง ขอบคุณผู้ว่าฯ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบจ. อบต. มันต้องเปลี่ยนแปลง คนที่จะเปลี่ยนแปลงไม่ใช่ตน ทุกคนต้องช่วยกันปฏิรูปประเทศไป
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านเรื่องหนี้นอกระบบ ซึ่งนายกพยายามที่แจงและให้ชาวบ้านได้เข้ามาใช้ประโยชน์จากหน่วยวานราชการ อย่าไปกู้หนี้นอกระบบที่ต้องเสียเงินดอกเบี้ยสูง โดยระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ตนไม่โทษใคร แต่คงต้องโทษตัวเองที่ไม่สามารถชี้แจงหรืออธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้ เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |