รวบศักดิ์ผาสุก ฆ่าหนุ่มหน้าผับ แค่เตือนวิทยุดัง


เพิ่มเพื่อน    

  กองปราบฯ แถลงจับกุม "ศักดิ์ ผาสุก" ผู้ต้องหามีหมายจับติดตัวยาวเป็นหางว่าว รวมทั้งเคยขับรถไล่ยิง "อ้วน เซียนตึ้ง" นักเลงดังหาดใหญ่ ล่าสุดร่วมกับพวกจ่อยิงวัยรุ่นตายหน้าผับ เหตุไม่พอใจถูกเตือนเปิดวิทยุเสียงดัง อยู่ระหว่างตามล่าคู่หูที่มีประวัติร้ายกาจเป็นบุคคลอันตราย 

    ที่กองบังคับการปราบปราม วันที่ 5 ธันวาคมนี้ พล.ต.ต.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว, พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. แถลงผลการจับกุมนายเกรียงศักดิ์ ถิรไชย หรือศักดิ์ ผาสุก อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระนอง ที่ 74/2561 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนจ่อยิงศีรษะวัยรุ่นเสียชีวิตหน้าสถานบันเทิงใน จ.ระนอง จับกุมได้ภายในวัดพ่อตาหินช้าง จ.ชุมพร
    นอกจากนี้ยังจับกุมนายวินัย ทองบาง อายุ 27 ปี อยู่ที่ 127 หมู่ 8 ต.พันลาน อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์, นายยศธร ถิรไชย อายุ 40 ปี อยู่ที่ 121 ถนนนิพัทธ์ภักดี ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, นางชนิกา ถิรไชย อายุ 32 ปี อยู่ที่ 121 ถนนนิพัทธ์ภักดี ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ น.ส.อุมาพร ชัยกายุทธ อายุ 27 ปี อยู่ที่ 121 ถนนนิพัทธ์ภักดี ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในข้อหา “ร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม” โดยจับกุมได้ขณะขับรถยนต์ผ่านด่านตรวจบ้านพละ หมู่ 3 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร หลังร่วมกันพานายเกรียงศักดิ์หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่
    พล.ต.ต.อภิชาติกล่าวว่า สืบเนื่องจากนายเกรียงศักดิ์และพวกได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงนายเทพฤทธิ์ แซ่อ๋อง หรือ “แจ๊ค สะพานยูง” อายุ 25 ปี เสียชีวิตที่บริเวณหน้าสถานบันเทิงซี้ดผับ ถนนเรืองราษฎร์ ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งเป็นเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย โดยหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งรัดติดตามผู้ก่อเหตุได้ 3 ราย และยังหลบหนีอยู่ 3 ราย คือ นายเกรียงศักดิ์ ถิรไชย, นายภูมิพรรดิ์ หรือเป้ ชาติประนอมไชย และนายไพบูลย์ บริสุทธิ์ ซึ่งทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. ได้สั่งการให้ บก.ป. ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาให้ได้โดยเร็ว
    จากนั้น  ผบก.ป.ได้สั่งการให้ กก.สนับสนุน ร่วมกับ กก.1-กก.6 บก.ป. บูรณาการในการสืบสวนติดตามผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนี้ จนเมื่อประมาณกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป.สืบทราบมาว่า หลังจากเกิดเหตุ นายเกรียงศักดิ์กับพวกได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่ค่ายมวยแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย และได้หลบหนีออกนอกประเทศจากการช่วยเหลือของกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป.จึงได้ประสานงานหน่วยงานระหว่างประเทศ ขอความช่วยเหลือให้ทำการติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีในประเทศไทย 
    ต่อมาตำรวจ บก.ป.รับแจ้งจากหน่วยงานระหว่างประเทศว่า นายเกรียงศักดิ์หลบหนีกลับเข้ามายังประเทศไทย โดยการช่วยเหลือของนางอุมาพร แฟนสาวนายเกรียงศักดิ์ นายยศธร และนางชนิกา ซึ่งเป็นญาติของนายเกรียงศักดิ์ ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนติดตาม กระทั่งทราบว่านายเกรียงศักดิ์ได้มาพักอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านทุ่งสองห้องจากการช่วยเหลือของนายวินัย 
    กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 3 ธ.ค.61 ตำรวจ บก.ป.ได้ทำการปิดล้อมพื้นที่เพื่อหาตัวนายเกรียงศักดิ์ แต่นายเกรียงศักดิ์กับพวกไหวตัวทันหลบหนีการจับกุมไปได้ จากนั้นได้ขยายผลจนทราบรถยนต์ที่ใช้หลบหนีพร้อมเส้นทาง ว่ามีการเดินทางลงใต้ จึงประสานข้อมูลไปยังตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ให้ช่วยเฝ้าติดตาม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มนายเกรียงศักดิ์ โดยสกัดจับนายยศธรและนางชนิกาได้ที่บริเวณพื้นที่ สภ.บ้านมาบอำมฤต จ.ชุมพร และจับกุมนายเกรียงศักดิ์ และ น.ส.อุมาพร ได้ภายในวัดพ่อตาหินช้าง จ.ชุมพร จึงได้ควบคุมตัวนายเกรียงศักดิ์และพวกไปทำการสอบสวน 
    พล.ต.ต.อภิชาติกล่าวว่า จากการสอบสวน นายเกรียงศักดิ์ให้การว่า ในคืนเกิดเหตุผู้ต้องหากับนายเป้และพวกได้เดินทางไปร่วมงานศพใน จ.ระนอง จากนั้นก็ได้ไปเที่ยวต่อกันที่สถานบันเทิงดังกล่าว กระทั่งมีปากเสียงกับกลุ่มผู้ตาย จนเกิดการทะเลาะวิวาท สาเหตุมาจากเปิดเพลงจากเครื่องเสียงรถยนต์ส่งเสียงดังจนชาวบ้านรำคาญ ซึ่งกลุ่มผู้ตายได้เข้าไปตักเตือน เป็นเหตุให้กลุ่มผู้ต้องหาไม่พอใจ จากนั้นนายเกรียงศักดิ์จึงได้นำอาวุธปืนที่ติดตัวมายิงขึ้นฟ้าจนหมดแม็ก ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่นายเป้ได้นำปืนอีกกระบอกมายิงใส่นายเทพฤทธิ์ แซ่อ๋อง เสียชีวิต หลังก่อเหตุได้หลบความผิดไปกบดานในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ผ่านการช่วยเหลือของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ซึ่งหลังจากนี้จะขยายผลผู้ที่ให้การช่วยเหลืออำนวยความสะดวกกับผู้ต้องหาในการหลบหนี รวมทั้งให้แหล่งที่พักพิง อีกทั้งอยู่ระหว่างการเร่งรัดจับกุมนายเป้ ซึ่งยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่รอยต่อประเทศเพื่อนบ้านต่อไป
    มีรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายเป้และนายเกรียงศักดิ์ถือเป็นบุคคลอันตราย มีหมายจับติดตัวหลายคดี โดยทั้งสองคนรู้จักกันตั้งแต่ตอนถูกจำคุกภายในเรือนจำจังหวัดสงขลา ซึ่งนายเกรียงศักดิ์และนายเป้ถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่น ถูกจำคุก 10 ปี หลังพ้นโทษได้มาร่วมกลุ่มกันก่อเหตุหลายครั้ง โดยนายเกรียงศักดิ์มีหมายจับติดตัว 10 หมายจับ ในคดีฆ่าผู้อื่น ยาเสพติด ปล้นทรัพย์ รวมทั้งทำร้ายร่างกาย เช่นเดียวกับนายเป้ ที่มีหมายจับ 14 หมายจับในคดีลักษณะเดียวกัน นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่านายเกรียงศักดิ์เคยก่อเหตุขับรถไล่ยิง "อ้วน เซียนตึ้ง" นักเลงคู่อริชื่อดังกลางเมืองหาดใหญ่ เมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากมีการท้าทายกันผ่านทางเฟซบุ๊ก
    ข่าวแจ้งด้วยว่า ตำรวจ บก.ป.ได้นำตัวนายวินัยไปฟ้องต่อศาลอาญารัชดาภิเษกแล้ว ในข้อหา “ร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม” ศาลพิพากษาจำคุกนายวินัย 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากศาลเห็นว่าเป็นการช่วยเหลือผู้ต้องหาที่กระทำความผิดร้ายแรงให้พ้นจากการถูกจับกุมและถูกลงโทษ. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"