‘หญิงหน่อย’ปูดไม่มีเลือกตั้ง


เพิ่มเพื่อน    

  2 พรรคใหญ่จับมือถล่มรัฐบาล คสช.ประจำสัปดาห์ โถ! "เจ๊หน่อย" ซัด คสช.ไม่มีความชัดเจนแก้ปัญหาคอร์รัปชัน ทำให้ประชาชนอึดอัด เชื่อไม่มีเลือกตั้ง คสช.พยายามอยู่ในอำนาจต่อไป จะมีเหตุปัจจัยทางกฎหมายที่ทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นไม่ได้    เสมือนเป็นเหตุสุดวิสัย "วัฒนา" เกรียนต่อ อัดคนดีที่ไล่ไม่ไป จวกเป็นคนดีที่ไม่มีตัวชี้วัดชัดเจนในแดนสีเทา

    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พรรคการเมืองยังคงโจมตีรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่ คสช.เคยสัญญาไว้ว่าจะแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความปรองดอง การเลือกตั้งที่มีการเลื่อนมาหลายรอบแล้ว จนนำไปสู่กระแสขาลง
    คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสขาลงของรัฐบาลในขณะนี้ว่า สาเหตุที่ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อการทำหน้าที่ของ คสช. และรัฐบาล การทำงานของรัฐบาลและ คสช.ที่ไม่เป็นไปตามสัญญาและความคาดหวังของประชาชน โดยเฉพาะการสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่งยังไม่ปรากฏให้เห็น ขณะที่การแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันก็ไม่มีความชัดเจน แม้แต่การเลือกตั้งที่เคยให้คำมั่นสัญญาไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ประกาศไว้
      เธออ้างว่า การพูดอย่างทำอย่างของรัฐบาลทำให้ประชาชนรู้สึกอึดอัด เกณฑ์มาตรฐานการตรวจสอบการทุจริตหรือการป้องกันการทุจริตแย่ ล่มสลาย รัฐบาลไม่ได้เคารพรัฐธรรมนูญที่ตัวเองทำ กลับทำสวนทาง โดยเฉพาะการต่ออายุให้ ป.ป.ช. ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่คาดหวังกับการตรวจสอบโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อยู่แล้ว เนื่องจากความพยายามในการตรวจสอบรัฐ ตามมาด้วยการถูกตั้งข้อหาที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งทำให้กระบวนการต่อต้านการทุจริตเกิดความอ่อนแอ
       "วันนี้สังคมต้องทำให้ระบบการตรวจสอบกลับไปสู่มาตรฐานรัฐที่มีความเที่ยงธรรมในการปราบปรามการทุจริตให้ได้ โดยไม่เว้นหน้าใคร ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาเชิงระบบ เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบการทุจริตกลับมามีประสิทธิภาพ มีมาตรฐานแบบสากล มีความเที่ยงธรรม มีความเป็นกลาง และสามารถตรวจสอบการทุจริตได้อย่างแท้จริง"
เชื่อไม่มีเลือกตั้ง
     คุณหญิงสุดารัตน์ยังกล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งนั้น ไม่เชื่อว่าจะมีกระบวนการเลือกตั้ง เพราะอยู่ในความมุ่งหมายที่ คสช.พยายามอยู่ในอำนาจต่อไป จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะมีการเลื่อนเลือกตั้ง บอกว่ากุมภา. 62 ก็อย่าไปคิดว่าจะได้เลือกกุมภา. 62 อาจจะมีเหตุการณ์ มีเหตุปัจจัยทางกฎหมาย ที่ทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นไม่ได้ เสมือนเป็นเหตุสุดวิสัย แต่ก็มองเห็นร่องรอยของการดำรงความมุ่งหมายอยู่ ตั้งแต่การยึดอำนาจเข้ามา แก้ไขกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อให้อยู่ในอำนาจได้ยาวนานที่สุด
          แกนนำพรรคเพื่อไทยรายนี้ยังบอกว่า กระบวนการตรวจสอบต้องแก้ที่ระบบ นายกรัฐมนตรีจะลอยตัวไม่ได้ เพราะอำนาจทั้งหมดอยู่ที่นายกฯ ดังนั้นจะมาลอยตัวแล้วบอกว่าบางคนออกและจบปัญหา คงไม่ใช่ หรือเลื่อนการเลือกตั้ง แล้วขยับกฎหมายลูกเพื่อให้พรรคการเมืองดำเนินการได้ทัน คงไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง เพราะหากคณะผู้ร่างหรือผู้มีอำนาจดำเนินการตามกฎหมายที่ตัวเองบัญญัติ ก็สามารถเดินหน้าได้ 
    "แม้กระบวนการต่างๆ จะมีปัญหา แต่เชื่อว่านักการเมือง พรรคการเมือง สามารถปรับตัวได้ แต่คนที่ลำบากคือพี่น้องประชาชน และมั่นใจว่าแม้ประชาชนจะไม่สามารถกำหนดวันเลือกตั้งได้ แต่ประชาชนสามารถกำหนดผลการเลือกตั้งได้" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
    ด้านนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ตั้งหัวข้อว่า “คนดีที่ไล่ไม่ไป” โดยเขาระบุในรายละเอียดว่า
    ...“การสร้างค่านิยม “คนดี” แทนที่จะสร้างระบบที่ดี เป็นการสร้างค่านิยมเพื่อลบปมด้อยของคนไร้ความสามารถทางการบริหารเพื่อครองอำนาจ เพราะคนเก่ง คนฉลาด และความสามารถในการบริหารนั้น สามารถวัดได้ด้วยตัวชี้วัดต่างจากคนดีที่ไม่มีตัวชี้วัดชัดเจน เป็นแดนสีเทาที่ใครต่างก็อ้างตัวเองเป็นคนดีได้ และมาตรฐานคนดีของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน”
    “แด่ทหารผ่านศึกที่ทำหน้าที่ปกป้องประเทศ และไม่ได้มีส่วนร่วมในการยึดอำนาจจากประชาชน”...
    ขณะที่นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงโครงการไทยนิยม ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุทำเพราะอยากให้สังคมเข้มแข็ง ไม่หวังผลประโยชน์อื่นใด อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าเรามิได้คัดค้านที่รัฐบาลทำให้กับประชาชน แต่ไม่เห็นด้วยที่หว่านเงินลงไปสารพัดโครงการ ใช้เงินงบประมาณมหาศาล ยังไม่มีอะไรดีขึ้น 
ไทยนิยมจนลง
    เขากล่าวว่า รัฐบาลหมดฝีมือแล้ว ประชาชนคันข้างหลัง รัฐบาลท่านไปเกาข้างหน้า เกือบสี่ปีพี่น้องยังลืมตาอ้าปากไม่ได้ โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกร พ่อค้าแม่ขาย จะสุขสบายหน่อยก็มีแต่คณะและพรรคพวกของท่าน บอกจะเป็นนักการเมือง เราไม่ได้เกรงกลัวว่าท่านจะเอาเปรียบ จะใช้อำนาจที่มีเอาเปรียบคนอื่น เพราะหากทำพวกเราก็ห้ามไม่ได้  
      "อยากบอกว่ารัฐบาลจะใช้งบประมาณไปเท่าไร ก็ไม่มีผลต่อคะแนนเลือกตั้ง ประชาชนได้ตัดสินใจนานแล้วว่าจะเลือกใคร รอแต่มีโอกาสได้กาบัตรเลือกตั้งเท่านั้น รัฐบาลท่านหมดเวลาแล้ว หรืออยากเลื่อนเลือกตั้งไปเรื่อยๆ ก็คิดเอาเอง" นายสมคิดกล่าว
    นายชวลิต วิชยสุทธิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤติต่อศรัทธาของรัฐบาล และถึงจุดที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาตัวเองเพื่อรักษาบ้านเมืองไว้ไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้ โดยความเสียหายที่ถือว่าก่อให้เกิดวิกฤติศรัทธาต่อรัฐบาลสรุปได้ 5 ประการ หรือเรียกได้ว่าเป็น “เบญจพิษ” ที่ทำลายความเชื่อมั่นประเทศ ประกอบด้วย
    1.ผู้นำฝ่ายบริหารไม่รักษาสัจจะ ไม่รักษาคำมั่น สัญญาซ้ำซาก 2.การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันล้มเหลว ลูบหน้าปะจมูก 3.การสร้างความปรองดองล้มเหลว ในทางตรงข้ามกลับสร้างความขัดแย้งขึ้นใหม่ 4.การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องล้มเหลว 5.การไม่เคารพและยึดมั่นในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
        นายชวลิตกล่าวต่อว่า ทั้ง 5 ประเด็นเบญจพิษดังกล่าว ล้วนมีความสำคัญทุกข้อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิกฤติศรัทธารัฐบาล ที่สำคัญกระทบต่อความเชื่อมั่นประเทศอย่างยิ่ง และมีประเด็นสำคัญที่สุด 2 ประเด็นที่ส่งผลกระเทือนสถานะรัฐบาล
        ประเด็นแรก การเป็นผู้นำฝ่ายบริหารต้องรักษาธรรมะ หรือประพฤติธรรมะ เหนือกว่าบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะการรักษาสัจจะ นับเป็นคุณธรรมสำคัญยิ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับตนเองและประเทศ
นายเป็นคำพูด
        มีคำกล่าวในเรื่องการรักษาสัจจะ ซึ่งเป็นคุณธรรมสำคัญของผู้นำ โดยขอยกคำกล่าวที่เป็นอมตะในการรักษาสัจจะมาเป็นตัวอย่างคือ "ก่อนพูด เราเป็นนายคำพูด เมื่อพูดไปแล้ว คำพูดนั้นเป็นนายเรา" หรือคำขวัญของลูกเสือที่กล่าวกันจนติดปากคือ "เสียชีพ อย่าเสียสัตย์"
        ในประเด็นนี้ ทั้งประชาชนคนไทยและชาวโลก ทราบดีว่า ผู้นำฝ่ายบริหารผิดคำพูดในเรื่องการเลื่อนการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้ง จนอาจกล่าวได้ว่า เชื่อถือคำพูดไม่ได้ เมื่อเชื่อถือคำพูดผู้นำไม่ได้ ศักดิ์ศรีประเทศ ความเชื่อมั่นประเทศจึงเป็นศูนย์ ซึ่งเคยให้ข้อสังเกตหรือให้คำแนะนำไว้ว่า ระวังจะเป็น "โมฆบุรุษ" หากผู้นำยังผิดคำพูดซ้ำซาก
          ในประเด็นที่สอง ที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ฝ่ายบริหารในรัฐบาลนี้ ยังเข้าใจตนเองผิดๆ ว่าเป็น "รัฏฐาธิปัตย์" ทั้งๆ ที่กฎหมายรัฐธรรมนูญประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 6 เม.ย.60
        การสำคัญผิดในตนเองว่าเป็น "รัฏฐาธิปัตย์" เป็นความผิดพลาดขั้นมหันต์ที่อาจนำไปสู่การใช้อำนาจที่เหนือกฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
        ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมาโดยสรุปนั้น รวมเป็น "เบญจพิษ" ที่นำมาซึ่งวิกฤติศรัทธาต่อรัฐบาล ส่งผลกระทบ สร้างความเสียหาย ทำลายความเชื่อมั่นประเทศถึงจุดที่รัฐบาลต้องพิจารณาตนเอง ทางออกที่ดีที่สุดเพื่อรักษาบ้านเมืองไว้คือ ผู้นำฝ่ายบริหารและคณะควรรีบคืนอำนาจโดยเร็ว ก่อนสายเกินการณ์หรือก่อนที่ทุกองคาพยพในประเทศจะได้รับความเสียหายตามไปด้วย
    นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่นัดชุมนุม “ประชาชนอยากเลือกตั้ง แสดงพลังต้านสืบทอดอำนาจ คสช.” ที่ลานสกายวอล์กว่า การที่ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ทำตามคำพูดที่บอกจะมีการเลือกตั้งปลายปี 61 วันนี้ประชาชนมีความเดือดร้อน ทั้งรายได้ตกต่ำและสภาพความเป็นอยู่ที่ลำบาก ความหวังของพวกเขาคือการเลือกตั้ง แต่ สนช.กลับใช้เทคนิคทางกฎหมายเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก 3 เดือน จนการเลือกตั้งต้องเลื่อนไปเป็นปี 62 ทำให้ไม่มีใครมั่นใจว่าถึงเวลานั้นจะมีการเลือกตั้งหรือเลื่อนออกไปอีก นี้ถือเป็นจุดตายของรัฐบาลที่ทำให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการสืบทอดอำนาจ ที่สุดพวกเขาเหล่านี้ถูกดำเนินคดีและอาจต้องติดคุก จะกลายเป็นความขัดแย้งของประเทศครั้งใหญ่
ไร้ยารักษา คสช.
    แกนนำเสื้อแดงกล่าวว่า วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ประชาชนทุกสีเสื้อ ทุกพรรคการเมืองมีความเห็นตรงกันคือต้องการเลือกตั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์พูดว่าประชาชนต้องการแบบเดิมๆ หรือแบบที่ท่านทำอยู่ ความเคลื่อนไหวทางสังคมวันนี้ชัดแล้วว่าคนไม่เอาท่านแล้ว เพราะเข็ดหลาบกับการปกครองแบบเผด็จการที่ไม่มีใครสามารถทักท้วงและตรวจสอบรัฐบาลได้ ถ้าเห็นแก่ประเทศชาติ พล.อ.ประยุทธ์ก็ควรจัดการเลือกตั้งให้ประชาชนได้ใช้สิทธิ์และเลือกตัวแทนของตัวเอง
     ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อาการที่ คสช.และรัฐบาลเป็นอยู่ตอนนี้หนัก และหายารักษายากมาก อาจถึงขั้นไร้ยารักษา ต่างกับคนธรรมดาที่พอป่วยแล้วไปโรงพยาบาลหาหมอ พอได้กินยารักษา อาการป่วยจะดีขึ้นจนหายจากโรคได้ แต่อาการทางการเมืองในประวัติศาสตร์ เราจะเห็นว่าเวลามีปัญหาหนักขึ้นมาก ไม่มีทางที่จะดีขึ้นได้ อาการคสช.และรัฐบาลเรื้อรังจนไม่มียารักษา ทั้งนี้ การเมืองอยู่ด้วยความไว้วางใจ ผิดถูกไม่รู้ ซึ่งรัฐบาลเขาอาจถูกก็ได้ แต่คนไม่ไว้วางใจแล้วมันก็จบ
    เมื่อถามว่า หาก คสช.กลับลำไม่เลื่อนเลือกตั้งแล้ว แต่ให้มีเลือกตั้งโดยเร็วจะแก้ปัญหาได้ทันหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ตอบว่า ไม่ได้แล้ว รวมถึงเรื่องที่พูดกลับไปกลับมา คนไม่เชื่อถือ เหมือนกับเด็กเลี้ยงแกะ ต่อให้ฝูงหมาป่ามาจริงๆ จะวิ่งไปบอกให้ใครช่วยเขาก็ไม่ช่วย เพราะไม่มีใครเชื่อ ตนไม่อยากพูดซ้ำเติมสถานการณ์ แต่ขอย้ำเอาไว้ว่า ปัญหาเกิดจากความประมาทในการใช้อำนาจ ใช้โดยหลงอำนาจ มันก็ยากที่จะแก้ไข.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"