ราบรื่น! ล้อการเมืองงานฟุตบอลประเพณี แซว "บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม" หอมปากหอมคอ "นนทก" ผู้ถูกซ่อมบ่อยจนหัวล้าน แต่ไม่ตาย คืนเพื่อนแล้ว เซอร์ไพรส์ หุ่นรัฐธรรมนูญเดินบนพรมแดง แปลงร่างเป็นยักษ์นายกฯ พร้อมคำอธิบายขัดขวางการตรวจสอบ องค์กรอิสระที่เคยเข้มแข็งก็อ่อนแอ เพราะถูกยักษ์ริบอาวุธ สุดท้ายสังคมคงหนีไม่พ้นต้องกลับไปสู่ความวุ่นวายอย่างเช่นเคย
งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 72 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถูกจับตามองเป็นพิเศษ หลังมีกระแสข่าวรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งห้ามล้อเลียน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีนาฬิกาเพื่อน รวมทั้งห้ามวิจารณ์รัฐบาล แม้จะมีการปฏิเสธทั้งจากฝ่ายรัฐบาลและผู้จัดการไปแล้วว่าไม่มีการเข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด
สาเหตุดังกล่าวทำให้มีการรักษาความปลอดภัย รอบๆ สนามกีฬาแห่งชาติเข้มงวดกว่าปกติ พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น ผู้กำกับ สน.ปทุมวัน กล่าวว่า ในการรักษาความเรียบร้อยงานฟุตบอลประเพณีฯ ได้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 จำนวน 120 นาย, ชุดควบคุมฝูงชนหญิง 10 นาย, กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ 20 นาย, เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 30 นาย และเจ้าหน้าที่หน่วยอีโอดี 10 นาย
เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองร้อยควบคุมฝูงชนและเจ้าหน้าที่หน่วยชุดเก็บกู้และทำลายระเบิด(อีโอดี)? ได้เข้าตรวจสอบบริเวณโดยรอบทั้งด้านในและรอบนอกสนามกีฬา อีกทั้งได้นำเครื่องสแกนบุคคลติดตั้งบริเวณประตูหน้าสนามกีฬา ประตูละ 1 เครื่อง เพื่อตรวจค้นบุคคลและสัมภาระของผู้ที่จะเข้า-ออกงาน
จากนั้น พ.ต.ท.สุรชัย ปลื้มจิต สารวัตรปราบปรามสน.ปทุมวัน ได้มีการอธิบายแผนการดูแลรักษาความเรียบร้อย โดยแบ่งงานให้แต่ละหมู่รับผิดชอบตามจุดต่างๆ ภายในสนามกีฬา กำชับให้สอดส่องบุคคลต้องสงสัย อีกทั้งตรวจสอบสัมภาระให้เข้มงวด พร้อมทั้งให้สังเกตป้ายผ้าต่างๆ ที่อาจมีข้อความที่ไม่เหมาะสมซึ่งอาจถูกนำมาแสดงระหว่างการแข่งขันฟุตบอล นอกจากนี้ยังกำชับเจ้าหน้าที่ห้ามให้บุคคลนำป้ายโจมตีรัฐบาลเข้ามาในพื้นที่ด้วย
สำหรับบริเวณรอบนอก นิสิตทั้ง 2 สถาบันได้ทยอยเดินทางมายังสนามกีฬาเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอล โดยประตูจะเปิดให้ทีมงานและกองเชียร์เข้าไปในสถานที่จัดงานตั้งแต่เวลา 11.00 น. ส่วนขบวนหุ่นล้อเลียนการเมืองซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญที่ถูกจับตามอง ได้มีการจับเตรียมความพร้อมก่อนเคลื่อนเข้าสู่บริเวณงาน โดยหุ่นต่างๆ ถูกคลุมด้วยผ้าเพื่อปกปิดเป็นความลับจนกว่าจะถึงเวลาแสดง
นายลัทธพล ยิ้มละมัย ประธานกลุ่มอิสระล้อการเมืองธรรมศาสตร์ กล่าวว่า กิจกรรมล้อการเมืองในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ในมุมมองนักศึกษามองเป็นเรื่องสนุก ไม่ได้มีเจตนาโจมตีตัวบุคคล แต่เป็นการสื่อสารถึงภาพรวมของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง
ย้อนเกล็ดปฏิรูป
"ปัจจุบันรัฐบาลก็มีแนวคิดปฏิรูปการเมือง ก็อยากให้รับฟังเนื้อหาของกิจกรรมล้อการเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนี้"
เขาเผยว่า ไม่มีการติดต่อหรือประสานว่าหุ่นใดจะไม่ผ่านหรือไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าไปภายในสนามกีฬา แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะมีตรวจอีกรอบหรือไม่ แต่หากว่าหุ่นหรือข้อความใดไม่สมควรเข้าไปในงานก็พร้อมชี้แจงแนวคิดในการจัดสร้างหุ่นต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ มากกว่าการเข้าฉุดกระชากหรือยึด
นายลัทธพลกล่าวว่า ในส่วนของฝั่งนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่มีการกดดันแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ใหญ่ให้อิสระทางความคิด แต่ก็มีข้อกังวลจากเพื่อนทางจุฬาฯ ว่ามีความกังวลในเนื้อหาของการล้อทางการเมือง เบื้องต้นถ้าเจ้าหน้าที่จะมายึด ก็ไม่ให้ยึดกันง่ายๆ ย้ำว่าขอให้เจรจากันดีกว่า
ต่อมาเวลา 14.30 น. งานฟุตบอลประเพณีเริ่มต้นขึ้น กลุ่มอิสระล้อการเมืองแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เผยโฉมหุ่นล้อการเมือง โดยนำหุ่นเข้ามาในสนามจำนวน 5 ตัวตามลำดับ คือ ยักษ์นนทก ตาชั่ง รถไฟ ม้วนแผ่นดิน และรัฐธรรมนูญ
หุ่นตัวแรกเป็นยักษ์นนทก เป็นหุ่นที่สื่อถึงอำนาจที่นำไปสู่ความฉ้อฉล ซึ่งเป็นการเล่าถึงตำนานยักษ์นนทก ก่อนกลับชาติมาเกิดเป็นทศกัณฐ์ เคยเป็นยักษ์ล้างเท้า ที่เชิงเขาไกรลาส ต่อมาได้นิ้ววิเศษทำให้เป็นยักษ์บ้าอำนาจ ใช้แบบไม่ยั้งคิด สุดท้ายอำนาจจึงเป็นภัยกับตัวเอง นอกจากนี้มือขวาของยักษ์ยังถือส้อม สื่อถึงผู้ที่เสียสละชีวิตสังเวยต่อความคลุ้มคลั่งของการซ่อม
ซึ่งนนทกเคยบอกว่าถูกซ่อมบ่อยจนหัวล้าน แต่ไม่ตาย ถือเป็นการปัดความรับผิดชอบอย่างไม่น่าให้อภัย นอกจากนี้ นนทกยังใช้นิ้วเพชรขู่เข็ญให้ได้มาซึ่งตำแหน่งในคณะผู้ปกครอง สร้างความร่ำรวยขึ้นอย่างน่ากังขา เพราะจากเงินเดือนของยักษ์ สะสมกันแล้วไม่น่าจะซื้อแหวนเพชรหลายกะรัต แม้สวรรค์จะมีกลุ่มผู้ตรวจสอบคอยสอดส่องไม่ให้มีการโกง แต่ก็คาดหวังไม่ได้
คืนเพื่อนแล้ว
ที่ข้อมือซ้ายของหุ่นยักษ์นั้นมีผ้าปิดอยู่ แต่เมื่อเข้าสนามแล้วทางกลุ่มนักศึกษาได้เปิดผ้าออก พบว่ามีข้อความเขียนอยู่ที่ข้อมือว่า “คืนเพื่อนแล้ว”
ตัวที่สองคือหุ่นตาชั่ง เปรียบถึงประชาชนที่มีหน้าที่จ่ายภาษี ขณะที่รัฐบาลมีหน้าที่บริหารภาษี ตลอดเวลาที่รัฐบาลเข้ามาคุมตาชั่ง สมดุลตาชั่งให้น้ำหนักไปที่ความมั่นคงของรัฐ แต่ในด้านความมั่นคงของมนุษย์ช่างอนาถา โรงพยาบาล ยารักษาโรค สวัสดิการประชาชน มีน้ำหนักไม่เท่ารถถัง เครื่องบิน และเรือดำน้ำ
หุ่นตัวที่สามคือ ม้วนแผ่นดิน เป็นการสื่อถึงคนรวย 20 เปอร์เซ็นต์ ที่เป็นเจ้าของที่ดิน 80 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลได้โฆษณาว่า ภาษีที่ดินจะเป็นหมัดเด็ดในการปฏิรูป ปราบกลุ่มนายทุน คืนความสุขให้คนในชาติ แต่ปรากฏว่ากลุ่มผู้ออกกฎหมายมีเอี่ยวเกี่ยวกับการสะสมที่ดิน จึงกำหนดกติกาที่เป็นประโยชน์กับพรรคพวกตัวเอง กดอัตราภาษีที่ดินให้ต่ำ กลายเป็นเครื่องมือสะสมที่ดินของกลุ่มนายทุน ในขณะเดียวกันยังมีแนวคิดปรับภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7 เปอร์เซ็นต์เป็น 8-10 เปอร์เซ็นต์
ตัวที่สี่คือ หุ่นรถไฟ เป็นการล้อเลียนโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งปัจจุบันถูกลดสเปกให้เป็นรถไฟความเร็วปานกลาง
และหุ่นตัวที่ห้าคือ หุ่นรัฐธรรมนูญ บรรยายถึงบรรดายักษ์ที่ขันอาสาเข้ามาร่างรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่า ทำด้วยใจบริสุทธิ์ อยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข และขอให้คนในสังคมเดินตามแบบแผนอีก 20 ปี แม้ยักษ์จะมีเครื่องประดับเพชรมากมาย แต่ก็อ้างมาว่าได้มาอย่างสุจริต แต่เมื่อมีคนพบว่ารัฐธรรมนูณถูกสอดไส้ จะขอตรวจสอบ ก็ถูกยักษ์ขัดขวาง องค์กรอิสระที่เคยเข้มแข็งก็อ่อนแอ เพราะถูกยักษ์ริบอาวุธ สุดท้ายสังคมคงหนีไม่พ้นต้องกลับไปสู่ความวุ่นวายอย่างเช่นเคย
ไฮไลต์ของหุ่นตัวสุดท้ายนี้ คือจากที่มีหุ่นเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญวางอยู่บนพาน หลังขบวนเคลื่อนเข้าสู่สนามฟุตบอล ตัวหุ่นที่เป็นส่วนของกฎหมายรัฐธรรมนูญถูกดึงออก เผยให้เห็นหุ่นรูปหัวผู้ชาย คล้ายกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่ซ่อนอยู่ข้างใน แทนที่รัฐธรรมนูญที่อยู่บนพาน จากนั้นถูกนำไปเคลื่อนที่ผ่านพรมแดงที่อยู่กลางสนาม โดยบนพรมแดงมีข้อความต่างๆ ระบุว่า นายกคนนอก ม.272, สว.ลากตั้ง, บทเฉพาะกาล ม.269, ศาลเล่นการเมือง, ม.144, พรรคทหาร, ยุทธศาสตร์ 20 ปี มาตรา 65
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม ในการเคลื่อนขบวนของหุ่นล้อการเมืองนั้น นักศึกษาสามารถนำเข้ามาในสนามได้ทุกตัว โดยไม่มีการตรวจหรือขัดขวางโดยเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด พร้อมกันนี้ตลอดระยะเวลาที่มีการแห่ขบวน ทางพิธีกรในสนามได้กล่าวย้ำอยู่หลายๆ ครั้งว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นเพียงแค่การล้อเหตุการณ์ทางการเมือง ไม่ได้ด่าเรื่องการเมืองแต่อย่างใด
ห้ามล้อนาฬิกา
ส่วนขบวนสะท้อนสังคมของจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย มี 3 ชุด ประกอบด้วย พ่อแม่ตัดปีก สื่อถึงการปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก การพัฒนาคน และการพัฒนาประเทศที่หยุดชะงัก ซึ่งขบวนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการถือป้ายข้อความที่นำมาจากพาดหัวหนังสือพิมพ์ถึงเรื่องการล้อเรื่องนาฬิกา ซึ่งมีข้อความว่า "ห้ามล้อนาฬิกา เข้มบอลประเพณี ทำหุ่นคล้ายผู้นำไม่ได้ นิสิตโวยโดนเซ็นเซอร์"
ส่วนการแปรอักษรของอัฒจันทร์ฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แปรอักษรเป็นที่น่าสนใจ เช่น "ระวังโดนซ่อม"
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเคลื่อนขบวนของหุ่นล้อการเมืองนั้น นักศึกษาสามารถนำเข้ามาในสนามได้ทุกตัว โดยไม่มีการตรวจหรือขัดขวางโดยเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด พร้อมกันนี้ตลอดระยะเวลาที่มีการแห่ขบวน ทางพิธีกรในสนามได้กล่าวย้ำอยู่หลายๆ ครั้งว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นเพียงแค่การล้อเหตุการณ์ทางการเมือง ไม่ได้ด่าเรื่องการเมืองแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงระหว่างขบวนศิษย์เก่าของทั้งสองสถาบัน หนึ่งในแขกสำคัญของงานนี้ที่เปิดตัวมาคนสุดท้ายคือ "ตูน บอดี้สแลม" นายอาทิวราห์ คงมาลัย ศิลปินร็อกชื่อดัง ที่สร้างปรากฏการณ์วิ่งก้าวคนละก้าวจนโด่งดังไปทั่วโลก ที่มาพร้อมกับแฟนสาว “ก้อย” รัชวิน วงศ์วิริยะ ซึ่งทั้งสองคนเป็นศิษย์เก่าของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียกเสียงฮือฮาจากสแตนด์เชียร์ฝั่งจุฬาฯ และมีการแปรอักษรต้อนรับด้วย
นายลัทธพล ยิ้มละมัย นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ในฐานะประธานกลุ่มอิสระล้อการเมืองมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นขบวนพาเหรดหุ่นล้อการเมืองว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตั้งแต่หุ่นตัวแรกจนถึงตัวสุดท้าย ราบรื่นไปได้ด้วยดี ซึ่งหุ่นแต่ละตัวมีความหมายต่างกัน เราต้องการเสนอประเด็นที่สำคัญที่สุด โดยไฮไลต์จะเป็นหุ่นรัฐธรรมนูญเดินบนพรมแดง เพราะเป็นการจะบอกว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด หรือกำลังจะเปลี่ยนสถานะไปสู่เครื่องมือทางการเมือง รวมถึงเป็นพรมแดงไปสู่อะไรหรือไม่ และปีนี้เป็นปีแรกที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้คิดทำร่วมกัน
นิมิตหมายอันดี
"การที่เราไม่ถูกตรวจเข้มก่อนนำหุ่นเข้าขบวนถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่สังคมไทยจะได้เห็นว่า การพูดการเมืองสามารถทำได้และสนุก ซึ่งเราพูดออกมาตรงๆ ทางผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมคิดว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ประเทศไทยจะได้เห็นบรรยากาศทางการเมืองที่ดีขึ้น"
เขากล่าวว่า ถ้าบรรยากาศเสรีภาพเรามีมากกว่านี้คิดว่าจะเสนอหุ่นได้ตรงประเด็นกว่านี้ได้อีกหรือไม่นั้น ตรงนี้ถ้าเสรีภาพยิ่งมากยิ่งดี แต่ก็ต้องมีขอบเขต เพราะจะไม่ต้องทำให้เรามาคอยแอบทำในเทศกาลฟุตบอลประเพณีซึ่งจัดขึ้นเพียงปีละครั้ง
สำหรับ พล.อ.ประวิตร ซึ่งตกเป็นเป้าล้อการเมือง ใช้เวลาเมื่อวันเสาร์ปฏิบัติภารกิจวันทหารผ่านศึกที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยเขาสีหน้าเรียบเฉย และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ขึ้นรถกลับทันทีหลังพิธีวันทหารผ่านศึกเสร็จสิ้น
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ CSI LA ออกมาเผยแพร่บทสนทนากับบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นทหาร ระบุว่าขณะนี้มีหน่วยทหารหลายหน่วยถูกผู้บังคับบัญชาเรียกรวมประชุม เพื่อให้ไปกดโหวตผลสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ให้ พล.อ.ประวิตรอยู่ในตำแหน่งต่อไปว่า เราไม่รู้ว่าเฟซบุ๊กเพจ CSI LA นั้นเป็นใคร และไม่รู้ว่าเจตนาที่บริสุทธิ์คืออะไร การที่กล่าวหาว่าทหารโกงผลโหวต ตนยืนยันว่ากระทรวงกลาโหมไม่มีนโยบายดังกล่าว และไม่ได้มีการสั่งการใดๆ ในเรื่องนี้ ทุกอย่างต้องดูข้อเท็จจริง เราก็ไม่รู้คนที่อ้างตัวว่าเป็นทหารนั้นมีตัวตนจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของทหารบางคนจนทำให้ทหารส่วนใหญ่ได้รับความเสียหาย
เขากล่าวว่า ทหารทุกคนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อีกทั้งประชาชนจำนวนมากก็เคยผ่านการเป็นทหาร เชื่อว่าทุกคนมีอุดมการณ์เดียวกัน คือทำงานเพื่อส่วนรวม ทหารอีกในฐานะหนึ่งก็คือประชาชน เรามีครอบครัว เราก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ทหารเป็นหนึ่งเดียวกับประชาชน มีสิทธิ์เหมือนประชาชน หากถามว่าถ้ามีการสั่งการแบบนั้นจริง ยอดคนโหวตน่าจะสูงกว่านี้ เพราะทหารทั้งประเทศมีกว่า 3 แสนคน แต่เราเคารพประชาชน ไม่อยากให้เกิดการแบ่งฝ่าย หรือมีการพูดจาในลักษณะสร้างความแตกแยก เพราะเราต่างมีบทเรียนจากในอดีตร่วมกันมาแล้ว
“ตอนนี้เราอยู่ในโหมดปรองดอง เพื่อนำมาซึ่งความสงบเรียบร้อย ดังนั้นอยากให้มองเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมากกว่า ยืนยันกระทรวงกลาโหมไม่มีนโยบายให้ทหารมากดโหวตแบบนี้ ขอความเป็นธรรมให้ทหารด้วย และไม่อยากให้ใช้เรื่องนี้มาขยายผลเป็นไฟลามทุ่งในการสร้างความขัดแย้งที่จะเป็นไปตามอย่างที่ผู้ไม่หวังดีต้องการให้เกิดปัญหา” พล.ท.คงชีพกล่าว
"เจี๊ยบ"ตกขบวน
ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเองเป็นนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคนหนึ่ง รู้สึกเศร้าใจที่เห็นภาพข่าวทหารเข้าไปแทรกแซงการจัดขบวนพาเหรดล้อการเมือง โดยข่าวระบุว่า คสช.ถึงกับส่งคนเข้าไปร่วมการประชุมของอาจารย์และนิสิตเพื่อควบคุมเนื้อหาของขบวนพาเหรดล้อการเมือง เพื่อกำกับไม่ให้พาดพิงประเด็นนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร รวมทั้งห้ามทำหุ่นล้อหรือวิจารณ์ผู้นำรัฐบาล ซึ่งเป็นเครื่องตอกย้ำว่าเมืองไทยกำลังเกิดวิกฤติทางปัญญา เพราะการพูดความจริงกลายป็นสิ่งต้องห้าม
ส่วนการพูดตรงไปตรงมาอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับคนที่กล้าทักท้วงสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หาก พล.อ.ประยุทธ์ยังดื้อรั้นที่จะนำพาประเทศไปในทิศทางเผด็จการนิยมแบบนี้ บ้านเมืองจะถดถอยและตกต่ำอย่างแน่นอน
"พล.อ.ประยุทธ์ควรรู้เอาไว้ด้วยว่าน้องๆ นิสิตนักศึกษาเขารู้สึกอึดอัดที่ถูกปิดกั้นเสรีภาพ ทั้งๆ ที่เขาเป็นปัญญาชน และพยายามแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ภายในกรอบของกฎหมาย แต่ คสช.กลับมายุ่งในเรื่องไม่ควรยุ่ง นอกจากนี้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยก็คงอึดอัดเช่นกัน แต่ก็คงเกรงใจ พล.อ.ประยุทธ์ เขาจะไม่ทำตามใจทหารที่มาเซ็นเซอร์ขบวนพาเหรดได้ยังไง ในเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่ง คสช.ให้อำนาจตัวเองโยกย้ายอธิการบดีได้ทุกมหาวิทยาลัยของรัฐ แล้วอย่างนี้ใครจะกล้าหือกับ พล.อ.ประยุทธ์"
เธอบอกว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่เผด็จการทุกยุคทุกสมัยจะกลัวพลังบริสุทธิ์ของนิสิตนักศึกษา เช่น จอมพล ถนอม กิตติขจร ก็เคยแต่งตั้งจอมพลประภาส จารุเสถียร ไปเป็นอธิการบดีจุฬาฯ แต่ท้ายที่สุด แม้จะควบคุมเข้มขนาดไหน ก็ถูกนิสิตนักศึกษาออกมาขับไล่อยู่ดี
สำหรับผลการแข่งขันฟุตบอลประเพณีฯ จากสถิติที่พบกันของทั้งสองสถาบันนั้น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชนะ 16 ครั้ง เสมอ 31 ครั้ง ม.ธรรมศาสตร์ ชนะ 24 ครั้ง และครั้งนี้เสมอไป 1-1 โดยธรรมศาสตร์ได้ไปก่อนจากการทำประตูของ กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ ในนาทีที่ 8 แต่จุฬาฯ ตามตีเสมอได้ช่วงเวลาทดเจ็บ นาทีที่ 93 จาก ณัฐพงษ์ สายริยา ทั้งสองทีมได้ครองแชมป์ร่วมกันเป็นครั้งที่ 32.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |