5 ธ.ค.61 - น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง หรือเดียร์ โฆษกพรรคเพื่อชาติ(พ.พ.ช.) กล่าวถึงการประชุมร่วมระหว่างพรรคการเมืองและ คสช. ที่จะมีขั้นในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ว่า ทางพรรคเพื่อชาติได้แสดงจุดยืนไปแล้ว ว่าจะไม่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เนื่องจากแม้เข้าร่วมก็ไม่เกิดประโยชน์อันใดกับบ้านเมือง เพราะแม่น้ำ 5 สาย ได้ตั้งธงไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่ได้ตั้งใจที่จะฟังความเห็นของพรรคการเมืองอย่างแท้จริง  ซึ่งตนเห็นตรงกันกับมติของพรรคเพื่อชาติเช่นเดียวกัน ด้วยพรรคเพื่อชาติ ในฐานะที่อาสาเป็นพรรคเกาะกลางประชาธิปไตย ต้องการที่จะพูดคุยได้กับทุกฝ่าย เพื่อหาทางออกให้กับประเทศ แต่หากการประชุมร่วมดังกล่าวไม่สามารถพูดคุยกันได้ เป็นเพียงเชิญให้พรรคการเมืองมาฟัง คสช. ซึ่งตั้งธงไว้หมดแล้ว  ก็คงไม่มีประโยชน์อันใดที่จะเข้าร่วม  

น.ส.เกศปรียา กล่าวว่าอันที่จริงการจัดประชุมพรรคการเมืองนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของ คสช.อยู่แล้ว เนื่องจากผู้ที่มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งคือ กกต.เท่านั้น การกระทำเช่นนี้ เหมือนเป็นการตอกย้ำภาพที่ว่า กกต.มีความไม่เป็นอิสระ ถูกครอบงำโดยอำนาจ คสช. ไม่เป็นอิสระอย่างแท้จริง แล้วเช่นนี้กกต.จะสามารถจัดการเลือกตั้งที่ บริสุทธิ์ เที่ยงธรรมได้อย่างไร 

โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวต่อว่า ตนอยากขอร้องผู้มีอำนาจ ให้เห็นใจประชาชน ผู้เดือดร้อน ทุกข์ยากอยู่ในขณะนี้ จากสภาพปัญหาทางเศรษฐกิจ  ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ ความหวังของประชาชนจึงขึ้นอยู่กับ รัฐบาลชุดใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้ง ว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชนดีขึ้นได้ ทำให้ทุกคนต่างรอคอยวันเลือกตั้งให้มาถึงโดยเร็ว และหวังว่าจะไม่มีการเลื่อนออกไปอีก หากเป็นไปได้ ไม่มีพรรคการเมืองใด ไม่อยากที่จะร่วมมือกับรัฐบาล ด้วยทุกพรรคก็อยากที่จะเลือกตั้งทั้งนั้น แต่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ก็ต้องเกิดขึ้นโดยมีความบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน 

เธอ กล่าวว่าแม้จากการกระทำของ คสช.หลายครั้ง จะทำให้เห็นได้ชัดว่า มีการเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. แต่ทุกพรรคก็ยังคงต้องเคารพกฎหมายเดียวกันอยู่ หรือแม้กระทั่งคำสั่ง คสช. เช่นกัน แต่การประชุมร่วมกับ คสช.ครั้งนี้ เป็นการกระทำที่จำกัดสิทธิของพรรคการเมืองมากเกินไป เป็นเพียงการให้ คสช. ชี้แจงสิ่งที่ต้องการฝ่ายเดียว โดยไม่รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของพรรคการเมือง ตามระบอบประชาธิปไตยเลย ดังนั้น พรรคการเมืองจึงไม่จำเป็นจะต้องไปเข้าร่วม อย่างไรก็ตาม หากเป็นกฎกติกา ทุกพรรคการเมืองก็จำเป็นต้องทำตามอยู่แล้ว การจะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ก็ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการเลือกตั้ง ไม่เกิดประโยชน์ใด เพิ่มขึ้นมาให้กับประเทศชาติ ไม่สามารถนำมาอ้างเป็นเหตุผลให้เลื่อนการเลือกตั้งอีกด้วย 

"สิ่งที่ คสช.ควรจะทำที่สุดในเวลานี้คือ ประกาศตัวว่าจะ ถอยหลังออกมาเฝ้าสังเกตการณ์การทำงานของ กกต.เท่านั้น รวมถึงปล่อยให้ กกต.สามารถทำงานไปได้อย่างอิสระ ไม่มีการแทรกแซง ไม่มีการออกคำสั่งใด ๆ ออกมาแทรกแซงการเลือกตั้งอีก ปล่อยให้กระบวนการเลือกตั้งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ  ที่ผ่านประชามติมาแล้ว อีกทั้งไม่ต้องหาวิธีอภินิหารใดๆ มาเพื่อเลื่อนการเลือกตั้ง หรือ สร้างความได้เปรียบ กับฝ่ายที่สนับสนุน คสช.อีก ให้ การเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 2562 ได้ดำเนินต่อไปตามกำหนด อย่างสุจริต เที่ยงธรรม เป็นที่ยอมรับของทั้งประชาชนในประเทศ ละสากลโลก อย่างไรก็ตาม คสช.ควรเร่งปลดล็อคพรรคการเมืองแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่มีเงื่อนไขใด ตามที่ควรจะเป็นโดยเร็วที่สุด เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน ที่จะได้รับทราบนโยบายของพรรคการเมือง เพื่อที่จะเลือกพรรคการเมืองที่จะตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้มากที่สุด" น.ส.เกศปรียา กล่าว