"บิ๊กตู่" ยันไม่ใช้ ม.44 แก้ปัญหายื่นบัญชีทรัพย์สิน ชี้กำลังทบทวนให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ขออย่ามองแค่ความสะใจ "หมอปิยะสกล" เบรกใบลาออกกรรมการบอร์ด สธ. "ธีระเกียรติ" แย้มปมร้อนใกล้จบ หลัง "วิษณุ" เล็งแก้ กม.ปรับคำใหม่จากกลุ่มผู้บริหารระดับสูงต้องแสดงทรัพย์สิน เป็น "จนท.รัฐ" พร้อมให้ป.ป.ช.จิ้มเลือกตำแหน่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนแจงเท่านั้น
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 4 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงข้อเสนอให้ใช้ ม.44 แก้ปัญหากรณีประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินว่า ยังไม่ใช้ตอนนี้ ขณะนี้ทาง ป.ป.ช.กำลังทบทวนอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการยืดเวลาออกไป แต่ปัญหาก็ยังไม่จบ พอยืดเวลาไปแล้วก็ต้องไปดูว่าจะทำอย่างไรไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้น
“ทุกคนอย่าไปมองว่าทำอย่างนี้แล้วมันสะใจดี การตีแผ่ออกมาบางทีมันก็มีเหตุผลของตัวเขาเองเหมือนกัน เราจะมองเป็นทางลบอย่างเดียวไม่ได้ ตอนที่ผมเป็น ผบ.ทบ. ผมก็ชี้แจงบัญชีกับ ป.ป.ช.เหมือนกัน และเขาเก็บไว้ เขาไม่ต้องเปิดเผย ถ้าผมมีเรื่องอะไรเขาถึงหยิบยกออกมา แต่พอมาเป็นนายกฯ ต้องเปิดเผย มาตีแผ่ให้คนด่าทั้งประเทศ รวยมากรวยน้อยอยู่นั่น ไม่จบกันสักที ก็ต้องไปดูว่าทำอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรม ทุกคนก็มีสิทธิ อย่าไปมองว่าดีทั้งหมดหรือเสียทั้งหมด ไม่ใช่หรอก คนดีก็มีเยอะ เหตุผลของแต่ละคนก็มีอยู่ก็ต้องรับฟังกันบ้าง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ส่วน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีกรรมการหลายคณะที่อยู่ในกำกับของกระทรวงสาธารณสุขทยอยยื่นใบลาออก เพราะประกาศ ป.ป.ช. เรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินว่า กรณีของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) เราได้สรรหาบุคคลทดแทนกรรมการที่ลาออกเสร็จแล้ว ส่วนคณะกรรมการคณะอื่นที่เหลือนั้น ยังไม่มีการรายงานตัวเลขจำนวนที่ชัดเจนของกรรมการที่ขอลาออกมาให้ตนทราบ
"เรายังรอความชัดเจนเรื่องประกาศดังกล่าวของป.ป.ช.ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไรบ้าง หรือถ้าจะเปลี่ยนให้มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ แต่ไม่ต้องมีการเปิดเผยต่อสาธารณชน ก็อาจทำให้กรรมการหลายคนเปลี่ยนใจไม่ลาออกจากตำแหน่ง ดังนั้นกรณีที่มีผู้ยื่นใบลาออกในขณะนี้ เราจึงยังไม่ดำเนินการใดๆ ให้ โดยให้กรรมการเหล่านั้นได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำไปตัดสินใจอีกครั้ง" รมว.สาธารณสุขกล่าว
ขณะที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ทาง ป.ป.ช.ได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวและมีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 90 อีกไม่นานน่าจะมีแนวทางที่ชัดเจนออกมาภายในเดือน ธ.ค.นี้ ดังนั้นหากกรรมการคนใดไม่มีความรีบร้อนจริงๆ ก็ขอให้รอความชัดเจนในเรื่องนี้ก่อน
นพ.ธีระเกียรติกล่าวว่า ทุกอย่างน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีกว่าเดิม เพื่อให้การดำเนินงานต่างๆ สามารถเดินไปได้ แต่คงไม่ใช่การไปยกเลิกประกาศของ ป.ป.ช.และจะไม่มีการล้มเลิกความตั้งใจของ ป.ป.ช.อย่างแน่นอน รองนายกฯ พูดถึงความซับซ้อนทางกฎหมายเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐและผู้บริหารระดับสูง ซึ่งกฎหมาย ป.ป.ช.กำหนดว่าให้ผู้บริหารระดับสูงจะต้องยื่นและเปิดเผยทรัพย์สินทั้งหมด แต่ ป.ป.ช.กลับมากำหนดในประกาศ ป.ป.ช. ว่าให้ตำแหน่งนายกฯ และกรรมการสภามหาวิทยาลัยอยู่ในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่จะต้องยื่นและเปิดทรัพย์สินด้วย
"การแก้ปัญหาอาจจะมีการแก้กฎหมายให้กลุ่มผู้บริหารระดับสูง ปรับมาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเมื่อปรับมาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้ว ก็ยังคงต้องยื่นทรัพย์สิน แต่ ป.ป.ช.จะเป็นผู้ประกาศว่าตำแหน่งไหนที่มองว่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนและต้องยื่นทรัพย์สิน โดยสิ่งที่จะตัดสินว่าจะต้องยื่นทรัพย์สินหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับงานและหน้าที่ของแต่ละคน” รมว.ศธ.กล่าว
ด้าน นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) กล่าวว่า คณะกรรมการของสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) มี 2 บอร์ด คือ บอร์ดนโยบายมีการลาออกไป 5 คน และบอร์ดบริหารมีการลาออก 3 คน ซึ่งการลาออกไม่ใช่เพราะกลัวจะถูกตรวจสอบ แต่เนื่องมาจากการที่คณะกรรมการฯ เห็นว่าเป็นภาระมากเกินไป เพราะการที่มาเป็นกรรมการส่วนใหญ่ก็มาด้วยจิตอาสา ไม่ได้เกี่ยวกับผลประโยชน์ ตนก็ไม่สามารถห้ามหรือยับยั้งได้ ต้องแล้วแต่การตัดสินใจของแต่ละท่าน
"หลัง ป.ป.ช.บอกจะมีการทบทวนก็ต้องมาดูว่าจะทบทวนเปลี่ยนแปลงไปทางไหน อย่างไร ก่อนจะพูดคุยกับคณะกรรมการที่ลาออกว่าจะเปลี่ยนใจหรือไม่หากสถานการณ์คลี่คลายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับคณะกรรมการที่เหลือก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะมีการลาออกเพิ่ม ต่างรอดูท่าทีของ ป.ป.ช.ก่อน เพราะเมื่อวันที่ 30 พ.ย.2561 ทาง สช.ได้เชิญเจ้าหน้าที่จาก ป.ป.ช.มาชี้แจงต่างๆ และเปิดให้มีการซักถาม ก็มีคณะกรรมการจากบอร์ดอื่นมาร่วมรับฟังด้วย" เลขาฯ สช.กล่าว
นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (บอร์ด รพ.บ้านแพ้ว) และกรรมการวัคซีนแห่งชาติ (บอร์ดวัคซีน) กล่าวว่า รพ.บ้านแพ้วเป็นองค์การมหาชน ตามประกาศของ ป.ป.ช. คณะกรรมการบริหาร รพ.บ้านแพ้ว จะต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรรหาบอร์ดชุดใหม่แทนบอร์ดชุดเดิมที่หมดวาระเมื่อเดือนพ.ย.2561 แต่บอร์ดชุดเดิมที่ต้องรักษาการไปจนกว่าจะได้บอร์ดชุดใหม่จะต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินด้วย ส่งผลให้บอร์ด รพ.บ้านแพ้ว ในสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3-4 คนจาก 7 คน แสดงความจำนงในการลาออก เพราะไม่ต้องการที่จะยุ่งยาก
"หลังจากที่ ป.ป.ช.มีการขยายเวลาการดำเนินการเรื่องนี้ออกไปก่อน จึงได้มีการระงับการขอลาออกดังกล่าวไว้ อาจเนื่องจากกำลังอยู่ในช่วงรักษาการและอาจจะได้บอร์ดชุดใหม่ก่อนระยะเวลาที่ ป.ป.ช.ขยายเวลาออกไป ในส่วนของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ซึ่งผมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ (บอร์ดวัคซีน) ยังไม่มีกรรมการท่านใดแสดงความประสงค์ที่จะลาออกแต่อย่างใด" ประธาน บอร์ด รพ.บ้านแพ้วกล่าว
วันเดียวกัน ที่กระทรวงมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรในสังกัดกระทรวงมหาดไทยมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามกฎหมาย ป.ป.ช.ฉบับใหม่ โดยมีผู้แทนของสำนักงาน ป.ป.ช.ให้คำชี้แจงข้อมูล
นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยขอให้ข้าราชการในสังกัดกระทรวงทุกตำแหน่งที่เข้าเกณฑ์ตามกฎหมายดังกล่าว ได้ศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมขอให้ผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ได้นำความรู้ที่ได้ไปขยายผลต่อ เพื่อให้การปฏิบัติงานของคนมหาดไทยมีความชัดเจน เปิดเผย โปร่งใส และตรวจสอบได้
"กฎหมายฉบับนี้มีรายละเอียดของหลักเกณฑ์ วิธีการ และแนวทางการปฏิบัติ รวมถึงการกำหนดตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งจะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่แตกต่างไปจากเดิม จึงต้องศึกษาเพื่อให้เกิดควมเข้าใจและปฏิบัติอย่างถูกต้อง" รองปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |