ครม. "ซานต้าตู่" เทกระจาด ควักอีก 1.6 พันล้านบาทลุยมาตรการช็อปช่วยชาติ ซื้อ 3 สินค้า “ยางล้อ-OTOP-หนังสือ” ลดหย่อนภาษีได้ 1.5 หมื่นบาท ระหว่าง 15 ธ.ค.2561 ถึง 16 ม.ค.2562 ขณะที่ 6 กระทรวงพร้อมใจคลอดโครงการของขวัญปีใหม่ประชาชน พร้อมเอาใจ อสม.เพิ่มค่าตอบ 1,000 บาท เริ่ม ธ.ค.นี้ และอนุมัติ 763 ล้านให้ รพ.ตำบล ด้าน โฆษกรัฐบาลปัดหาเสียงเลือกตั้ง แค่งานรูทีน
นายปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2561 เห็นชอบมาตรการช็อปช่วยชาติหักลดหย่อนภาษีได้ 1.5 หมื่นบาท ที่ซื้อสินค้า 3 ประเภท ระหว่างวันที่ 15 ธ.ค.2561 ถึง 16 ม.ค.2562 ประกอบด้วย ยางล้อรถยนต์ ยางล้อรถจักรยานยนต์ และยางล้อรถจักรยาน ที่ซื้อจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ซึ่งได้ซื้อยางล้อดังกล่าวจากผู้ผลิตที่ซื้อวัตถุดิบยางจากการยางแห่งประเทศไทย โดยผู้เสียภาษีต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป พร้อมกับคูปองที่กรมสรรพากรเตรียมพิมพ์ไว้รอบแรกให้การยางมอบให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 2 แสนเส้น
นอกจากนี้ ยังมีสินค้าจากโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน โดยต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าเป็นใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป และต้องระบุว่าเป็นรายการซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และส่วนการซื้อหนังสือ รวมถึงหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) แต่ไม่รวมถึงนิตยสารและหนังสือพิมพ์ โดยต้องซื้อจากผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล และต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าเป็นใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ พร้อมชื่อนามสกุลผู้ซื้อสินค้า รายการและมูลค่าสินค้าที่ซื้อจากร้านค้าประกอบการยื่นขอหักลดหย่อนภาษีด้วย
"มาตรการภาษีนี้จะส่งผลดีต่อการพัฒนาประเทศ โดยจะก่อให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ยกระดับคุณภาพทุนมนุษย์ผ่านการอ่านหนังสือ ตลอดจนช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง แม้ว่ากรมสรรพากรคาดว่าจะเสียภาษี 1.6 พันล้านบาท จากการขอลดหย่อนภาษี แต่ก็จะเก็บภาษีทางอื่นเพิ่มขึ้น" โฆษกกรมสรรพากรกล่าว
พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบการจัดทำโครงการของขวัญปีใหม่เพื่อมอบให้แก่ประชาชน ประจำปี 2562 รวม 6 กระทรวง 1.กระทรวงมหาดไทย มอบของขวัญภายใต้แนวคิด “127 ปีมหาดไทย ทุกหัวใจเราดูแล” ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจในการ แบ่งเป็นบำบัดทุกข์ จำนวน 9 โครงการ และบำรุงสุข 13 โครงการ รวมทั้งสิ้น 22 โครงการ อาทิ 1.ร้องเรียนร้องทุกข์ผ่านแอปพลิเคชัน MOI 1567 ในการพัฒนาระบบการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ของประชาชนให้มีความสะดวกรวดเร็ว สามารถเข้าถึงได้ง่ายทุกที่ทุกเวลา โดยนำแอปพลิเคชัน MOI 1567 และเว็บไซต์ศูนย์ดำรงธรรม www.damrongdhama.moi.go.th มาเป็นช่องทางในการร้องเรียน ร้องทุกข์ของประชาชนตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป 2.Share happiness: ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน เป้าหมายจำนวน 15,429 ครัวเรือน ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย.2562 เป็นต้น
พ.อ.หญิงทักษดากล่าวอีกว่า 2.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมี 27 โครงการ/กิจกรรม เช่น ยกเว้นค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Space Inspirium ชลบุรี 3. กระทรวงยุติธรรม เป็นโครงการ/แผนงานมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ อาทิ ลดภาระค่าใช้จ่ายและช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงความยุติธรรม เช่น การขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและห้องชุดของกรมบังคับคดี, มหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาท, การจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ผลงานผู้ต้องขัง แนวทางที่ 4 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ภายใต้ชื่อ พม.เติมสุข ทั่วไทย 2562 5.กระทรวงพาณิชย์ โครงการเทใจ มอบความสุขเทศกาลปีใหม่ 2562 เช่น การลดหนัก จับเต็ม New Year Grand Sale ห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ 1.35 หมื่นสาขา, งานลดราคาสินค้าออนไลน์ thaitrade.com 30%, จัดสายตรวจพิเศษตรวจสอบการจำหน่ายสินค้า, อาหาร, กระเช้าของขวัญให้เป็นธรรมแก่ผู้บริโภค เป็นต้น
6.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยกเว้นค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ 3 แห่ง ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.2561-1 ม.ค.2562 ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติธรณีวิทยาเฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี, พิพิธภัณฑ์สิรินธร จ.กาฬสินธุ์ และศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง จ.ขอนแก่น, การลดราคาผลิตภัณฑ์ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ระหว่างวันที่ 23 ธ.ค.2561-5 ม.ค.2562 เป็นต้น
เพิ่มเบี้ย อสม.1,000 บาท
ขณะที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่า ครม.มีมติอนุมัติเพิ่มค่าตอบแทน อสม.จากเดิมที่เคยได้รับ 600 บาท เพิ่มเป็น 1,000 บาท เนื่องจากเห็นว่าไม่ได้มีการพิจารณาเพิ่มค่าตอบมาเป็นระยะเวลา 10 ปี และ อสม.ก็มีภาระหน้าที่เพิ่มขึ้น จะเริ่มขึ้นค่าตอบแทนในเดือนธ.ค.2561 ทั้งนี้ มี อสม.ทั้งประเทศ 1,054,729 คน แบ่งเป็น อสม.ในต่างจังหวัด 1,039,729 คน และ อสม.ในกทม.ประมาณ 10,500 คน วงเงินงบประมาณปกติ 4,218 ล้านบาท เมื่อปรับเพิ่มจะมีวงเงินงบประมาณ 12,656 ล้านบาท
ครม.ยังมีมติอนุมัติวงเงิน 763 ล้านบาท เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขปัญหาซื้ออุปกรณ์ที่ทันสมัยให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ประมาณ 1,000 แห่ง จากทั้งหมด 9,800 แห่ง เพื่อยกระดับโรงพยาบาลและปรับปรุงให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น รองรับความแออัดของจำนวนผู้ป่วยในแต่ละจังหวัด ซึ่งที่ผ่านมามีการปรับปรุงไปแล้วประมาณ 5,000 แห่ง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า การที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้แต่ละกระทรวงจัดทำโครงการของขวัญปีใหม่มอบแก่ประชาชนนั้น ถือเป็นนโยบายช่วยเหลือและให้เป็นของขวัญแก่ประชาชนอยู่แล้ว และแน่นอนว่าเป็นโครงการตามปกติ โดยใช้งบประมาณตามปกติ ไม่มีอะไรเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมืองถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง ก็เป็นกิจกรรมตามปกติที่กระทรวงจัดขึ้นให้แก่ประชาชนอยู่แล้ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |