ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" เรื่องที่พสกนิกรชาวไทยเฝ้ารอคอยคือ “พระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก” วันนี้มีความชัดเจนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.บอกว่าการเลือกตั้งจะมีก่อน ซึ่งจะมี 2 ช่วง คือการทำงานของรัฐบาลในการเตรียมงานเพื่อจะเข้าสู่ช่วงพระราชพิธีที่จะทรงโปรดเกล้าฯ และกำหนดลงมา ช่วงนี้ก็ต้องดูว่าจะทำอย่างไรในเรื่องการเดินหน้าและการขับเคลื่อนประเทศ รวมทั้งการเลือกตั้ง จะทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยอย่างไร การเตรียมการในส่วนของโบราณราชประเพณี ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายๆ เรื่องและหลายจังหวัด จำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะทั้งหมดคือความร่มเย็นของประเทศไทย จะต้องมีพิธีมากกว่า 10 อย่าง จะต้องนำน้ำจากแหล่งน้ำทั่วประเทศจากสายน้ำของแม่น้ำที่สำคัญ ดินทุกจังหวัด ซึ่งจะมีพิธีการที่กำหนดไว้ในโบราณราชประเพณี หรือที่เรียกว่าจารีตประเพณี...๐

        ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สำคัญ หลังมีข่าวว่า บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ติดต่อประสานงานทางโทรศัพท์กับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพื่อชวนเป็นพันธมิตรทางการเมือง โดยเสนอกระทรวงเกรดเอแลกกับยกมือสนับสนุน บิ๊กตู่ เป็นนายกฯ อีกสมัย ทั้ง บิ๊กป้อม-เฉลิมชัย ก็ปฏิเสธข่าวตามสูตร แต่ที่เฉลิมชัยอ้างว่าไม่ได้รับโทรศัพท์ เพราะเบอร์แปลกๆ ตนไม่รับอยู่แล้ว เท่ากับช่วงนี้ไม่อยากผูกมัดกับ คสช.ต้องสร้างอำนาจต่อรองให้สูงไว้ก่อน เพราะพรรคการเมืองคงได้ ส.ส.พรรคละ 100 เสียงต้นๆ เท่านั้น ไม่มีพรรคใดจะชนะขาด อันจะนำมาซึ่งความยุ่งยากในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ ต้องบัญชาการเอง จนร่ำลือกันว่าเป็นเจ้าของพรรค พปชร.ตัวจริง...๐

        ใกล้ปลดล็อกการเมือง บิ๊กตู่ ก็แบไต๋ออกมาอีก เมื่อถามว่า 4 รัฐมนตรีที่อยู่ใน พปชร.จะมีส่วนในการตัดสินใจหรือไม่ หากมีการทาบทามก็กล่าวยอมว่า “เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา ถ้าพรรคใดก็ตามที่ทำงานแล้วสอดคล้องกับสิ่งที่ทำอยู่ในวันนี้ ถ้าผมตัดสินใจเข้าไปการเมือง ผมก็ต้องสนับสนุนพรรคเหล่านี้ เพราะมันทำงานให้ผมทำต่อ” แหม! ทั้งชื่อพรรคกับนโยบายรัฐบาลก็ชื่อคล้ายกัน 4 รมต.ของรัฐบาลก็เป็นแกนนำ พปชร.คงไม่ต้องตีความกันอีก ก็วางแผนร่วมกันมาตั้งนาน หลังปลดล็อกก็ประกาศให้ชัดไปเลย หากจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1 ของ พปชร.อย่างที่ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ และรองหัวหน้า พปชร.เปิดเผยก็ลาออกจากนายกฯ และหัวหน้า คสช.ลงไปลุยการเมืองเต็มที่ไปเลย แต่หากจะอยู่คุมสถาการณ์ไปจนเลือกตั้งเสร็จก็ประกาศตรงๆ แล้วก็อย่าใช้อำนาจเอื้อ พปชร.จนน่าเกลียด...๐

     เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง โผล่มาลุยสนามการเมืองในฐานะหัวหน้าทีมปราศรัยหาเสียงพรรคเพื่อไทย (พท.) บรรยากาศการเมืองก็เริ่มมีสีนสันและเข้มข้นขึ้น ส่วนปัญหาขบเหลี่ยมกับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พท. เฉลิมแบ่งบทบาทหน้าที่ให้เสร็จสรรพ ตนเองจะ on tour ไปตามเส้นทางจังหวัดต่างๆ ท่านคงไม่เดินทางไปปราศรัย เพราะภารกิจท่านเยอะมาก แต่สุดท้ายคงได้มาขึ้นเวทีร่วมกัน แถมหยอดว่า "คนจะมาเป็นนายกฯ จะไม่ให้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงได้อย่างไร" แต่เมื่อโดนนักการเมืองรุ่นลูกสวนกลับก็จุกเหมือนกัน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พปชร.โต้ว่า "ร.ต.อ.เฉลิมเป็นคนที่อภิปรายเก่ง แต่ช่วงหลังๆ ชาวบ้านบอกว่าเสียงแหบเหมือนเป็ด เมาจนฟังไม่รู้เรื่อง" หลังจากนี้คงต้องตอบโต้กันมันหยดเรื่อยๆ...๐

     ที่ประชุม สนช.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ในวาระ 2-3 ห้ามประชาชนเป็นโจทก์ฟ้องคดีผู้อื่นโดยไม่สุจริต หรือเพื่อกลั่นแกล้งกัน ศาลมีอำนาจยกฟ้องหรือไม่รับฟ้องได้ กรณีผู้ปฏิเสธคำสั่งคำพิพากษาศาลในคดีที่ถึงที่สุดแล้ว เช่น ศาลตัดสินลงโทษจำคุกหรือปรับ แต่จำเลยหลบหนีไป บุคคลผู้นั้นจะถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้มาฟ้องคดีอาญาต่อศาลได้อีก ถือเป็นเรื่องถูกต้องที่กฎหมายไม่ควรให้สิทธิ์ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นการออกกฎหมายมาจัดการกับ อดีตนายกฯ หนีคุก-ทักษิณ ชินวัตร ส่วนที่ลูกสมุนอ้างว่าโดนกลั่นแกล้งรังแก ขอย้อนถามว่าคนโกงชาติใช้สิทธิ์ฟ้องคนอื่นได้ แต่พอตนเองถูกฟ้อง กลับไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม หนีออกนอกประเทศไปแล้วยังปลุกระดมให้คนในชาติเข่นฆ่ากันอีก คนแบบนี้ต้องจัดการอย่างไรถึงจะยุติธรรม?...๐