รฟท.ลุยทวงคืนที่รถไฟหมื่นล้านปักหมุด 3 จังหวัดเฉียด 7 พันไร่ หลังพบลักลอบใช้ประโยชน์สารพัดแต่ไม่จ่ายค่าเช่า ด้านรมช.คมนาคมสั่งเคลียร์ปัญหา บอร์ดรฟท.เตรียมคลอดทีมพิเศษปฏิบัติภารกิจทวงคืน
นายสมยุทธิ์ เรือนงาม รองผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่าภายหลังจากกรณีการบุกรุกพื้นที่สถานีแม่น้ำเพื่อลักลอบนำเอาไปหาผลประโยชน์นั้นคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด)รฟท.ได้แสดงความเป็นห่วงถึงเรื่องดังกล่าว และมีแผนที่จะตั้งชุดทำงานพิเศษขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวทั่วประเทศควบคู่ไปกับการขึ้นทะเบียนผู้อยู่อาศัยและใช้พื้นที่ของรฟท.ทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนั้นการบุกรุกพื้นที่รฟท.มีแทบเกือบจะทุกจังหวัดตั้งแต่พื้นที่ริมทางรถไฟไปจนถึงที่ดินแปลงงามติดภูเขาหรือทะเล จากข้อมูลขณะนี้มีจังหวัดเป้าหมายอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ จ.บุรีรัมย์ จ.กาญจนบุรีและจ.พังงา รวม 6,928 ไร่ มูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เริ่มจากพื้นที่ในจ.บุรีรัมย์นั้นรฟท.มีที่อยู่ราว 5,000 ไร่ ในวันนี้ถูกนำไปใช้งานหลายรูปแบบโดยไม่มีการจ่ายค่าเช่าให้กับรฟท. อาทิ สถานที่ราชการ เรือนจำและพื้นที่เชิงพาณิชย์ ตลอดจนอาณาจักรของอดีตนักการเมืองชื่อดังอย่างพื้นที่ของสโมสรฟุตบอล ทั้งศูนย์ฝึก สนามแข่งขัน ร้านค้าปลีกตลอดจนสนามแข่งรถชื่อดัง นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคมได้แสดงความเป็นห่วงถึงการใช้ประโยชน์บนพื้นที่ดังกล่าวพร้อมเสนอให้รฟท.หาแนวทางเจรจากับเจ้าของพื้นที่หลังจากจบมหกรรมแข่งขันโตจีพี อย่างไรก็ตามการเจรจาที่ผ่านมานั้นเจ้าของพื้นที่ยินดีที่จะจ่ายค่าเช่าให้กับรฟท.โดยขอดำเนินการเป็นสัญญาเช่าพื้นที่เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย
นายสมยุทธิ์ กล่าวต่อว่าสำหรับพื้นที่จ.กาญจนบุรีนั้นมีจำนวน 1,070 ไร่ บริเวณสถานีรถไฟน้ำตก อ.ไทรโยค เป็นพื้นที่แปลงงามข้างหน้าติดน้ำตกข้างหลังติดแม่น้ำดังนั้นจึงถูกบุกรุกไปทำกิจกรรมเชิงพาณิชย์ตอบสนองการท่องเที่ยวทั้งที่พัก ร้านอาหารและธุรกิจบริการรูปแบบต่างๆ โดยมีทั้งทำสัญญาเช่าและผู้ที่ลักลอบใช้พื้นที่โดยไม่มีสัญญา เช่นเดียวกับจ.พังงา มีจำนวน 858 ไร่ติดทะเล บริเวณ อ.ท่านุ่นติดกับสะพานสารสิน ปัจจุบันมีเอกชนหลากหลายแห่งใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งร้านอาหาร ร้านค้าปลีกตลอดจนสถานบันเทิง
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้หากมีการตั้งคณะทำงานดังกล่าวขึ้นมารฟท.จะลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมเจรจากับเอกชนเพื่อขอเก็บค่าเช่าการใช้พื้นที่ให้เป็นรูปธรรมและอาจจะมีการรื้อย้ายบางส่วน สอดคล้องกับแผนฟื้นฟูกิจการขององค์กรที่ต้องเร่งสร้างรายได้เพิ่มจากกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ขณะที่ประชาชนทั่วไปที่บุกรุกพื้นที่รถไฟดังกล่าวเพื่อทำเป็นที่พักอาศัยและชุมชมนั้น รฟท.อาจพิจารณาไม่เวนคืนหรือเก็บค่าใช้พื้นที่เนื่องจากเป็นการใช้ประโยชน์เชิงสังคมมิได้เป็นไปเพื่อการค้าทำกำไร ทั้งนี้บริเวณชานเมืองของกรุงเทพมหานครที่พบว่ามีการบุกรุกใช้พื้นที่รฟท.จำนวนมากได้แก่ แขวงตลิ่งชัน แขวงบางระมาด และฝั่งธนบุรี
“ปัญหาพวกนี้ปล่อยไว้นานไปมันยิ่งเรื้อรังทำให้แก้ไขได้ยาก วันนี้ผู้บริหารให้ความสำคัญกับการจัดหารายได้เชิงพาณิชย์จึงต้องเร่งจัดระเบียบการใช้พื้นที่ให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย”นายสมยุทธิ์กล่าว
นายสมยุทธิ์ กล่าวต่อว่าสาเหตุของปัญหาการลักลอบบุกรุกใช้พื้นที่หรือพวกเอกชนที่ตีเนียนใช้พื้นที่นั้นเป็นปัญหาทุจริตของเจ้าหน้าที่ภาครัฐโดยทำเป็นขบวนการทั้งฝ่ายเจ้าของที่ดินอย่างรฟท. หน่วยงานที่ดูแลเรื่องที่ติด ตลอดจนหน่วยงานด้านไฟฟ้า ประปาและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆที่เข้าไปสนับสนุนให้กิจกรรมเชิงพาณิชย์เกิดบนพื้นที่รถไฟ จะเห็นได้ว่ามีข้าราชการหลายฝ่ายเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นรฟท.ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้มากขึ้นเช่นเดียวกับกรณีของสถานีแม่น้ำที่มีการกระทำความผิดแบบไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองอีกทั้งยังกอบโกยผลประโยชน์จำนวนมากอีกด้วย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |