แห่สมัคร'ส.ว.' รวม7,210คน อุบลฯมากสุด


เพิ่มเพื่อน    

    กกต.สรุปยอดผู้สมัคร ส.ว.ทั้งสิ้น 7,210 คน กลุ่มอาชีพกสิกรรมมากที่สุด 1,425 คน ขณะที่จังหวัดอุบลราชธานีมีผู้สมัคร ส.ว.เยอะสุด ส่วนชุมพรคนสมัครน้อยสุดแค่ 16 คน  
    เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2561 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า  จากการที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เปิดให้มีการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา  (ส.ว.) ระหว่างวันที่ 26-30 พฤศจิกายนนี้ ปรากฏว่ามีผู้สมัครรับเลือกเป็น ส.ว.จำนวน 7,210 คน  
    สำหรับยอดรวมผู้สมัครรับเลือกเป็น ส.ว.จากการสมัครทั้ง 2 วิธี คือ สมัครโดยยื่นใบสมัครด้วยตนเอง มีจำนวน 6,705 คน และสมัครโดยยื่นใบสมัครด้วยตนเองพร้อมแสดงหนังสือแนะนำชื่อผู้สมัครจากองค์กร มีจำนวน 505 คน ทำให้มีผู้สมัครรับเลือกเป็น ส.ว.รวมจำนวนทั้งสิ้น 7,210 คน แบ่งเป็นเพศชาย 5,315 คน และเป็นเพศหญิง 1,895 คน
    เขากล่าวว่า รายละเอียดการสมัครของทั้ง 10 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง 765 คน แบ่งเป็นสมัครโดยแนะนำชื่อจากองค์กร 31 คน สมัครด้วยตัวเอง 734 คน 2.กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม รวม 576 คน แนะนำชื่อจากองค์กร 82 คน สมัครด้วยตนเอง 494 คน 
    3.กลุ่มการศึกษาและการสาธารณสุข 1,124 แบ่งเป็นสมัครโดยแนะนำชื่อจากองค์กร 81 คน สมัครด้วยตัวเอง 1,043 คน 4.กลุ่มอาชีพกสิกรรม ปลูกพืชล้มลุก ทำนา ทำสวน ทำไร่ ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง  รวม 1,452 คน แบ่งเป็นสมัครโดยแนะนำชื่อจากองค์กร 55 คน สมัครด้วยตัวเอง 1,397 คน 5.กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้ใช้แรงงาน/อาชีพอิสระ รวม  469 คน แบ่งเป็นสมัครโดยแนะนำชื่อจากองค์กร 17 คน สมัครด้วยตัวเอง 452 คน    
     6.กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสารการพัฒนานวัตกรรม รวม 288 คน สมัครโดยแนะนำชื่อจากองค์กร 32 คน สมัครด้วยตัวเอง 256 คน 7.กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม ผู้ประกอบธุรกิจ หรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว รวม 493 คน สมัครโดยแนะนำชื่อจากองค์กร 35  คน สมัครด้วยตัวเอง 458 คน       
    8.กลุ่มสตรี ผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น ประชาสังคม  องค์กรสาธารณประโยชน์ รวม 943 คน สมัครโดยแนะนำชื่อจากองค์กร 122 คน สมัครด้วยตัวเอง 821  คน 9.กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา สื่อสารมวลชน ผู้สร้างวรรณกรรม รวม 398 คน สมัครโดยแนะนำชื่อจากองค์กร 30 คน สมัครด้วยตัวเอง 368 คน และ 10.กลุ่มอื่นๆ รวม 702 คน สมัครโดยแนะนำชื่อจากองค์กร 20 คน สมัครด้วยตัวเอง 682 คน
    นอกจากนี้ จังหวัดที่มีผู้สมัครโดยยื่นใบสมัครมากที่สุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย อุบลราชธานี  จำนวน 431 คน, ขอนแก่น จำนวน 377 คน, สกลนคร จำนวน 296 คน, ร้อยเอ็ด จำนวน 267 คน และ เชียงใหม่ จำนวน 265 คน และจังหวัดที่มีผู้สมัครโดยยื่นใบสมัครน้อยที่สุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย  ชุมพร จำนวน 16 คน, พังงา จำนวน 17 คน, สิงห์บุรี และระนอง จำนวน 18 คน และบึงกาฬ จำนวน  23 คน ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน กกต. www.ect.go.th
    ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมเปิดศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) ในภาระกิจการเลือกสมาชิกวุฒิสภาผ่านระบบประชุมทางไกลวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีผู้แทนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.), กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.), กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9, กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.), กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน  (บช.ตชด.) และหน่วยงานที่เกี่ยวร่วมประชุม  
    พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่า ตามประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งวุฒิสภา พ.ศ.2561 และ ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งระดับอำเภอ, จังหวัด และประเทศช่วงเดือนธันวาคม ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินงานไปด้วยความเรียบร้อยสอดคล้องกับกฎหมายควบคู่กับ กกต. โดยภารกิจหลักจะเป็นเรื่องการดูแลความสงบความเรียบร้อย ให้การเลือกตั้งเป็นไปตามกฎหมายในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาค 1-9 พร้อมกำชับให้เฝ้าระวังเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียงตามที่ กกต.ได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือให้ช่วยเฝ้าระวัง พร้อมจัดชุดสนับสนุน กกต.หากต้องแจกใบเหลืองหรือใบแดง ให้แก่ผู้ลงสมัครที่ทำผิดกฎระเบียบการเลือกตั้ง
    เขากล่าวว่า เบื้องต้น ศลต.ตร.ใช้เฉพาะการเลือกตั้ง ส.ว. ว่ากันไปงบประมาณที่ กกต.มอบให้ ส่วนกำลังที่ใช้ก็อยู่ภายใต้กำลังที่มีอยู่ไม่เกิน 200,000 นาย อย่างไรก็ตามได้กำชับไปที่ บช.ภ.2 ให้ตรวจสอบอย่างเข้มงวด หลังเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธสงครามได้ 3 กระบอกที่บรรจุในท่อพีวีซี ส่วนเกี่ยวข้องกับการจะนำมาก่อเหตุในช่วงเลือกตั้งหรือไม่เป็นเรื่องลับ แต่ได้กำชับให้ทำรายงานเสนอขึ้นมา ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเขาจัดการเอง ประชาชนสามารถไปใช้สิทธิ์ได้ตามปกติไม่ต้องห่วง 
    "ถ้ามีปัญหาเรื่องความมั่นคง เจ้าหน้าที่ปกครอง ทหาร ตำรวจดำเนินการให้อยู่แล้ว แต่ฝากว่าห้ามซื้อสิทธิ์ขายเสียง การกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งต้องใช้กฎหมายฉบับเดียวกันอย่างเสมอภาค ถ้าพบการกระทำความผิดดำเนินการจับกุมทันที ส่วนกรณีพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่ล่อแหลม ได้มีการกำชับให้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัย ซึ่งตนจะลงไปอำนวยการด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด" รอง ผบ.ตร.กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"