เจรจาสันติภาพภาคใต้ : ความหวังอยู่ที่ก้าวย่างใหม่ทั้ง 2 ฝ่าย


เพิ่มเพื่อน    

    ระหว่างการไปเยือนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมมีโอกาสได้สอบถามความคืบหน้าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยกับฝ่ายเห็นต่าง ได้รับทราบว่าอาจจะมีความคืบหน้าที่น่าสนใจหลังจากที่รัฐบาลไทยกับมาเลเซียได้เพิ่มความเข้มข้นในการผลักดันให้เดินหน้ามากกว่าเดิม
    สอดคล้องกับที่ “สำนักข่าวอิศรา” รายงานถึงความคืบหน้าว่าฝ่ายความมั่นคงไทยยืนยันว่า 2 แกนนำคนสำคัญจากกลุ่มบีอาร์เอ็นได้ตอบรับเข้าร่วมโต๊ะพูดคุยกับคณะพูดคุยของรัฐบาลไทยแล้ว หากเป็นจริงตามข่าวชิ้นนี้ ต้องถือว่าเป็นความคืบหน้าที่มีความน่าสนใจไม่น้อย    
    ขออนุญาตนำเอารายละเอียดของรายงานของ “สำนักข่าวอิสรา” มาเล่าต่อเพื่อประกอบการติดตามข่าวจากนี้ว่าอย่างนี้         
    แกนนำสำคัญ 2 คนของบีอาร์เอ็นที่ตอบรับเข้าร่วมโต๊ะพูดคุยคือ นายดูนเลาะ แวมะนอ อดีตครูใหญ่โรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือ ปอเนาะญิฮาด อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งทางการไทยเชื่อว่าเป็นผู้นำสูงสุดคนใหม่ของบีอาร์เอ็น หลังการเสียชีวิตของ นายสะแปอิง บาซอ ขณะที่อีกคนหนึ่งคือ นายเด็ง อะแวจิ ซึ่งทางการไทยเชื่อว่าเป็นผู้นำฝ่ายทหารของบีอาร์เอ็น
    เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยงานความมั่นคงของไทยยังปฏิเสธข่าวที่ว่า 2 แกนนำบีอาร์เอ็นอาจหนีไปพำนักที่อินโดนีเซีย หากถูกทางการมาเลเซียบีบให้เข้าร่วมโต๊ะพูดคุยกับรัฐบาลไทย ซึ่งที่ผ่านมามีข่าวว่า "บีอาร์เอ็นปีกทหาร" ปฏิเสธการเข้าร่วมมาโดยตลอด แม้แต่ในช่วงที่ นายฮัสซัน ตอยิบ หนึ่งในแกนนำบีอาร์เอ็นเป็นหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 55
    ฝ่ายความมั่นคงไทย ระบุว่า นายดูนเลาะ และนายเด็ง แจ้งผ่านตัวแทนว่ายอมเข้าร่วมโต๊ะพูดคุยเพื่อสันติสุขกับรัฐบาลไทย ภายใต้การอำนวยความสะดวกของมาเลเซียที่มี ตันสรี อับดุลราฮิม นูร์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลมาเลย์ เป็นผู้อำนวยความสะดวก
    "ทั้งสองผู้นำบีอาร์เอ็นจะเข้าร่วมกระบวนการพูดคุยในโครงสร้างมารา ปาตานี ซึ่งจะขยายวงพูดคุยให้กว้างขึ้น โดยดึงทุกกลุ่มเข้าร่วม ซึ่งรวมถึง บีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต ที่เป็นองค์กรหลักที่ควบคุมกลุ่มติดอาวุธมากที่สุดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้" แหล่งข่าวระดับสูงจากหน่วยงานความมั่นคงไทยระบุ
    "มารา ปาตานี" เป็น "องค์กรร่ม" ที่มีชื่อขบวนการแบ่งแยกดินแดน 6 กลุ่มรวมตัวกัน รวมทั้งบีอาร์เอ็นบางปีก พวกเขาตั้งกลุ่มและร่วมโต๊ะพูดคุยกับคณะพูดคุยของไทยในยุครัฐบาล คสช. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และมี พล.อ.อักษรา เกิดผล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าคณะพูคคุย โดยกระบวนการพูดคุยดำเนินมาถึงขั้นใกล้บรรลุข้อตกลงเรื่องการสร้างพื้นที่ปลอดภัยอำเภอแรกร่วมกัน แต่แล้วก็หยุดชะงักลงจากการเลือกตั้งใหญ่ในมาเลเซีย หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล แม้กระบวนการพูดคุยจะเดินหน้าต่อไป แต่ก็มีการเปลี่ยนตัวผู้อำนวยความสะดวกคนใหม่ และฝ่ายไทยก็เปลี่ยนตัวหัวหน้าคณะพูดคุยด้วย
    มีรายงานจากฝ่ายความมั่นคงไทยว่า "มารา ปาตานี" พยายามยื้อเวลาการนัดพูดคุยเพื่อสันติสุข ตามโครงสร้างใหม่ให้เป็นช่วงหลังเลือกตั้งใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นราวต้นปีหน้า แต่ผู้อำนวยความสะดวกไม่เห็นด้วย และต้องการให้เดินหน้ากระบวนการพูดคุยต่อไปทันที และคาดว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงแรกราวๆ 1 ปีนับจากนี้ ซึ่งน่าจะเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันระหว่างกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ กับรัฐบาลไทย
    รายงานข่าวยังยืนยันด้วยว่า จะไม่มีการเชิญ "ปาร์ตี้ที่ 3" เข้าร่วมกระบวนการพูดคุยด้วย เพราะรัฐบาลไทยยืนยันนโยบายชัดเจนทั้งกับมาเลเซียและกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐว่า ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็น "ปัญหาภายใน" 
    แหล่งข่าวระดับสูงจากหน่วยงานความมั่นคง บอกอีกว่า ข่าวการตอบรับเข้าร่วมโต๊ะพูดคุยของแกนนำบีอาร์เอ็น ไม่ได้ขัดกับคำสัมภาษณ์ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่พูดเมื่อเร็วๆ นี้ ภายหลังการพบปะกับรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของมาเลเซีย ข่าวที่ออกไปในบางสื่ออ้างว่า พล.อ.ประวิตรบอกว่าบีอาร์เอ็นยังไม่ยอมเข้าร่วมโต๊ะพูดคุย ทั้งที่จริงๆ แล้ว พล.อ.ประวิตรเพียงแค่ตอกย้ำจุดยืนของฝ่ายไทยว่า ต้องการเรียกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทุกกลุ่มเข้ามาคุย เพราะปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยรวมไม่มีอะไรค้างคา จะมีก็แค่การร่วมพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นเท่านั้น นี่คือสิ่งที่ พล.อ.ประวิตรต้องการสื่อสาร
    พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ หรือ "บิ๊กเมา" หัวหน้าคณะพูดคุยคนใหม่ กล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า กำลังฟอร์มทีมพูดคุยทีมใหม่ทั้งหมด โดยแนวทางที่จะดำเนินการคือ คณะพูดคุยฝ่ายผู้เห็นต่าง (มารา ปาตานี) ต้องเป็นตัวแทนของทุกกลุ่มอย่างแท้จริง และต้องมีตัวแทนจากทุกกลุ่มเข้าร่วม
     "ต้องพากันมาให้หมด จะได้คุยกันทีเดียวให้จบไปเลย ไม่ใช่ตกลงกับกลุ่มนี้แล้ว อีกกลุ่มก็งอแง อย่างนั้นมันไม่จบ" พล.อ.อุดมชัยกล่าว
     หัวหน้าคณะพูดคุยคนใหม่ยังบอกด้วยว่า การพูดคุยรอบใหม่นี้ จะไม่มีการเสนอเงื่อนไขหยุดยิง เหมือนการพูดคุยครั้งที่ผ่านๆ มา
     "เสนอไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะการก่อความรุนแรงเป็นเครื่องมือที่เขาใช้ ก่อนพูดคุยแต่ละครั้งก็ตุ้มตั้มๆ (ทำเสียงระเบิด) ยิ่งเสนอเงื่อนไขหยุดยิง เขายิ่งใช้ความรุนแรงเพื่อต่อรอง ฉะนั้นเราจะคุยกันเรื่องการพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน เปลี่ยนสนามใหม่ ไม่เอาแล้วสนามรบ" พล.อ.อุดมชัยกล่าว
     (รายละเอียดเพิ่มเติมน่าสนใจติดตามต่อพรุ่งนี้)


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"