"บิ๊กตู่" อารมณ์ดี ถึงไทยถามบ้านเมืองเรียบร้อยดีไหม เตรียมลงพื้นที่ชัยภูมิ 3 ธ.ค. 3 หมื่นคนรอต้อนรับ "ดอน" ฟุ้งเยอรมนีต้อนรับดี ชื่นชมไทยมีเสถียรภาพ เดินหน้าเลือกตั้งปี 62 "สมศักดิ์" ประเดิมเปิดศูนย์ประสานงาน "พปชร." แพร่ "ไทกร" โต้สังศิตโพลแค่โฆษณาชวนเชื่อล้างสมอง ชี้พลังประชารัฐกลวง สู้พท.-ปชป.ไม่ได้
    ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมภริยา และคณะ เดินทางกลับจากสหพันธรัฐสาธารณรัฐเยอรมนี โดยกล่าวทักทายกับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “ดูแลบ้านเมืองเรียบร้อยดีไหม” ผู้สื่อข่าวได้ตอบกลับว่า “ดูแลเรียบร้อยดี” 
    ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ระหว่างการเดินทางเยือนเยอรมนี นายกรัฐมนตรีและคณะไม่ทราบว่ามีผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล เนื่องจากกิจกรรมส่วนใหญ่นั้นอยู่ภายในโรงแรม ซึ่งการเดินทางได้รับความสะดวกทุกประการ และทางการเยอรมนีให้การต้อนรับเราเป็นอย่างดี และไม่มีอย่างที่เป็นข่าว ที่ระบุว่าต่างชาติไม่ต้อนรับผู้นำประเทศไทย ส่วนการเลือกตั้งของไทยนั้น ได้มีการพูดคุยกับผู้นำเยอรมนีอย่างตรงไปตรงมา ว่าไทยจะมีการเลือกตั้งในต้นปี 2562 โดยนายกฯ ได้ใช้โอกาสนี้อธิบายความเป็นทหารที่เข้ามาบริหารประเทศ พร้อมได้เพิ่มพูนความรู้ด้านต่างๆ เพื่อเสริมสร้างในการพัฒนาประเทศ ซึ่งทางเยอรมนีรับทราบว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมานั้นประเทศไทยมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ภาคธุรกิจมีความต้องการ โดยภาคเอกชนมีความชื่นชมประเทศไทยที่มีเสถียรภาพนี้
    ทั้งนี้ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีไม่ได้มีข้อห่วงใยเรื่องใดเป็นพิเศษ แต่ได้ถาม พล.อ.ประยุทธ์อย่างตรงไปตรงมาถึงการเมืองในประเทศไทย เช่นการเลือกตั้งเป็นอย่างไรบ้าง โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ตอบไปตามข้อเท็จจริง ส่วนที่นายกฯ เยอรมนีเรียกร้องให้ประเทศไทยกลับคืนสู่ประชาธิปไตยโดยเร็วนั้น เราได้ยืนยันว่ามีกระบวนการอยู่แล้ว โดยขั้นตอนต่างๆ เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ซึ่งภายหลังการหารือระหว่างไทยกับเยอรมนี ทราบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายเยอรมนีระบุว่าเห็นตรงกับ พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นการหารือครั้งนี้จึงเป็นที่น่าพอใจของทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ตามมามากมาย
    นอกจากนี้ นางแมร์เคิลยังได้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ ถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้อธิบายว่าเป็นเรื่องของการวางแผนเพื่อประเทศและประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีการวางแผนในระยะยาวเช่นนี้ รวมถึงยังระบุด้วยว่าต่อไปจะมีรัฐบาล อย่างไรก็ตามก็ให้ว่าไปตามกระบวนการ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมยุทธศาสตร์ชาติในส่วนใดก็สามารถทำได้ 
    "เยอรมนีไม่ได้กังวลเรื่องเงื่อนเวลาหรือเร่งให้ไทยเลือกตั้งเร็วกว่าที่กำหนด เขารับรู้อยู่แล้วว่ามีการประกาศว่าเป็นในช่วงต้นปี 62 เขาไม่มานั่งเจาะจงว่าวันไหน เขารู้ว่าสิ่งนี้กำลังจะเดินหน้าตามกันไป ตอนนี้เรามีความชัดเจนแล้ว และเยอรมนีมีความเชื่อมั่นไทย ดูได้จากผลการบริหารประเทศ 4 ปีที่ผ่านมาเพียงพอจะทำให้เขาเข้าใจและประเมินได้ว่าไทยจะเดินไปทิศทางไหน อย่างน้อยที่สุด เขาพูดถึงเรื่องเสถียรภาพของไทยไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย" รมว.การต่างประเทศระบุ
คนชัยภูมิ 3 หมื่นรอรับบิ๊กตู่
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 3 ธ.ค. นายกฯ มีกำหนดการเดินทางไปตรวจราชการที่ จ.ชัยภูมิ โดยในช่วงเช้าจะออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อไปยังจุดอ่างเก็บน้ำลำสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.หนองแวง อ.หนองบัวแดง เพื่อฟังบรรยายสรุป พร้อมพบและกล่าวกับประชาชน 2 หมื่นคน โดยจะอยู่จุดดังกล่าวจนถึงเวลา 13.30 น. ก่อนจะเดินทางต่อไปยังบริเวณพื้นที่ป่าโล่ใหญ่ อุทยานแห่งชาติตาดโตน เพื่อเป็นประธานเปิดฝายในโครงการป่ารักษ์น้ำโล่ใหญ่ชัยภูมิ จากนั้นจะปลูกต้นไม้ 5 ต้น 5 สี มีพระสวดชัยมงคลคาถา เสร็จแล้วจะพบปะประชาชนจำนวน 1 หมื่นคน พร้อมกับเดินทางไปยังจุดชมวิวผาง่ามรกต ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเวลา 15.30 น.
    ทางด้าน พล.ต.กฤษณ์ จันทรนิยม โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้สั่งการเน้นย้ำให้กำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทย จะต้องมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ที่รับมอบหมาย โดยทุกหน่วยต้องมีความพร้อมในการสนับสนุนรัฐบาล และ คสช. เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติตามบัญชาของนายกฯ และ รมว.กลาโหม โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมกันนี้ยังได้ขอให้กำลังพลทุกนายมีวิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง จะต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ให้ทุกหน่วยร่วมมือให้การสนับสนุนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2562 ตามสิทธิหน้าที่ของการเป็นพลเมืองไทยที่ดีต่อไป
    ที่ จ.แพร่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกคณะกรรมการรณรงค์ฯ และนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช กรรมการฯ เดินทางมาเปิดศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ จังหวัดแพร่ เขต 2 โดยมีนายวิตติ แสงสุพรรณ พร้อมทั้งนายบุหลัน ราษฎร์คำพรรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และชาวบ้าน รอต้อนรับกว่า 700 คน
    นายธนกรกล่าวว่า นอกจากจะมาเปิดศูนย์ประสานงานแล้ว ยังเป็นการมาหาสมาชิกพรรคด้วย ซึ่งประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ชาวบ้านยังฝากขอบคุณนายกฯ ที่ออกมาตรการช่วยเหลือคนยากคนจนกว่า 14.5  ล้านคนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเฉพาะมาตรการช่วยเหลือในช่วงปีใหม่ ซึ่งชาวบ้านอยากให้รัฐบาลทำโครงการดังกล่าวต่อไป และกังวลว่ารัฐบาลใหม่อาจจะมายกเลิกโครงการด้วย
    ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายกฯ ระบุที่เยอรมนีว่ารัฐบาลจะจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม ว่า ขอให้พูดจริงทำจริง อย่าให้เหมือนการประกาศจะจัดการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ แต่ก็เลื่อนมาถึง 5 ครั้ง ไม่ควรเอาภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของประเทศไปแลกกับความอยู่รอดทางการเมืองของตัวเอง น่ากังวลว่าในช่วงใกล้เลือกตั้งกลับมีภาพเจ้าหน้าที่รัฐไปอารักขาผู้สมัครบางพรรคระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง ขอให้รัฐบาลและ คสช.ตรวจสอบว่ามีการนำเงินภาษีประชาชนไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของบางกลุ่มหรือบางพรรคการเมืองหรือไม่  
    ทั้งนี้ ขอเรียกร้องรัฐบาลให้หลักประกันว่าจะจัดการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม ต้องกำชับเจ้าหน้าที่รัฐให้วางตัวเป็นกลาง ระมัดระวังการโยกย้ายเพื่อเอื้อประโยชน์ทางการเมืองให้กับกลุ่มใด และไม่อนุมัติงบประมาณเพื่อประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง 
พปชร.กลวงสู้ พท.ไม่ได้
    นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ในหัวข้อ "เพราะกลวง... จึงต้อง Propagoda" โดยระบุว่า สภาพพลังประชารัฐกลวง ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง ขาดมวลชนที่เหนียวแน่น ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ที่มีมวลชนอยู่กับทั้งสองพรรคมากกว่า 10 ล้านคน จึงมองว่าการเลือกตั้งปี 2562 พรรคประชาธิปัตย์จะรักษาฐานมวลชนเดิมไว้ได้ รวมถึงได้เสียงจากคนรุ่นใหม่ที่ไม่เอาเผด็จการ ส่วนพรรคเพื่อไทยคะแนนพรรคจะถูกแบ่งไปพรรคเพื่อชาติ และพรรคไทยรักษาชาติ โดยเพื่อไทยจะสู้ระบบเขตเป็นหลัก เพราะมีต้นทุนยืนพื้นอยู่แล้ว 200 กว่าเขตเลือกตั้ง 
    ขณะที่พรรคพลังประชารัฐจะได้คะแนนจากข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร เป็นหลัก ส่วนคะแนนที่จะเสริมเข้ามา จะเป็นคะแนนนิยมส่วนตัวของผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค และคะแนนจากผู้ถือบัตรคนจนบางส่วน การจัดการคะแนนของพลังประชารัฐเป็นระบบจัดตั้ง พรรคที่จะได้รับผลกระทบจากการหาคะแนนรูปแบบนี้มากที่สุดคือ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา คะแนนของพลังประชารัฐก็จะดึงมาจากพรรคดังกล่าวข้างต้น ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนัก
    "ดังนั้นที่มีนักวิชาการเครือข่ายเผด็จการออกมา PROPAGANDA โฆษณาชวนเชื่อแบบล้างสมอง โดยใช้โพลชี้นำนั้น จึงขาดความน่าเชื่อถือ เพราะไม่ได้สะท้อนสภาพที่แท้จริงของพรรคการเมือง โครงสร้างทางการเมือง และความรู้สึกที่แท้จริงของประชาชน" นายไทกรระบุ
    ที่ทำการพรรคเพื่อชาติ ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว พรรคเพื่อชาติจัดกิจกรรมพบปะสื่อมวลชน นำโดยนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคและทีมโฆษกพรรค และมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายยงยุทธ ติยะไพรัช ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อชาติเข้าร่วม
    นายจตุพรกล่าวว่า ภารกิจสำคัญที่ตนกับนายยงยุทธเห็นตรงกันคือการเป็นเกาะกลางให้คนในชาติพูดคุยกันโดยไม่เปลี่ยนจุดยืนทางการเมือง หากไม่ออกจากความขัดแย้งไม่มีทางแก้ไขปัญหาชาติได้ วันนี้คนไทยกลัวความไม่สงบ ต้องการเลือกตั้ง และมีปัญหาปากท้อง ทั้งสามเรื่องเป็นภาระหน้าที่ของพรรคการเมือง ขอย้ำในจุดยืนของพรรคว่าคงไม่มีวันไปจับมือหรือร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะอุดมการณ์การเมืองต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ถ้าจะมาพูดคุยกันในบางเรื่องที่เป็นปัญหาส่วนรวม เหมือนการหารือในที่ประชุมสภาได้ 
    วันเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) พร้อมแกนนำพรรค ได้ปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดินวันที่ 34 โดยเดินเชิญชวนประชาชนบริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ตลาดท่าม่วง ทั้งนี้ ระหว่างลงพื้นที่ มีนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ มีศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2536 มาให้การต้อนรับนายสุเทพด้วย โดยระบุว่ามาต้อนรับในฐานะเจ้าบ้าน คงไม่สมัครสมาชิกพรรค ขอทำหน้าที่ในฐานะศิลปินเป็นสมาชิกของประชาชนคนไทย ที่อยู่ในทุกพรรคที่มีอุดมการณ์เดียวกันอยู่แล้ว พร้อมฝากถึงนักการเมืองให้ความสำคัญกับภาคประชาชนมากกว่าที่ผ่านมา.